วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร
|
ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน ตำบลในเมือง
วัดพระมหาธาตุเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชั้นวรมหาวิหาร
เดิมชื่อวัดพระบรมธาตุ
เป็นปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของ ภาคใต้และประเทศไทย
ตามตำนานพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช กล่าวว่า
เจ้าชายธนกุมารและพระนางเหมชาลา
เป็นผู้นำเสด็จพระบรมธาตุมาประดิษฐาน ณ
หาดทรายแก้วและสร้างเจดีย์องค์เล็ก ๆ เป็นที่หมายไว้
ต่อมาในปีมหาศักราช 1098 (พ.ศ.1719) พระเจ้าศรีธรรมาโศกราช
ทรงสร้างเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นพร้อมการก่อสร้างเจดีย์ขึ้นใหม่
พระบรมธาตุเจดีย์มีลักษณะรูปแบบศิลปกรรมเป็นเจดีย์ทรงลังกาสูง
55.78 เมตร
|
|
|
(กรมศิลปากรวัดเมื่อการบูรณะปลียอดทองคำเมื่อ
พ.ศ.2538) จากฐานบัวคว่ำบัวหงายถึงปลียอด6.80 เมตร
ใช้ทองคำเนื้อสิบหุ้มโดยรอบ ภายในวัดพระมหาธาตุฯ
มีวิหารที่มีความสำคัญหลายองค์ประดิษฐานอยู่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พระวิหารหลวงมีความงามตามแบบศิลปสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยา
วิหารสามจอม
วิหารที่มีพระพุทธรูปทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ชื่อว่า
"พระศรีธรรมาโศกราช" ประดิษฐานอยู่ วิหารพระมหาภิเนษกรม
(พระทรงม้า) วิหารทับเกษตร ส่วนวิหารเขียน และวิหาร
โพธิ์ลังกานั้นเป็นสถานที่จัดแสดงโบราณวัตถุที่พุทธศนิกชนถวายเป็นพุทธบูชา |
-------------------------------------------
พระวิหารสูง |
หรือหอพระสูง
เป็นปูชยสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองนครศรีธรรมราช
ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองโบราณนครศรีธรรมราชด้านทิศเหนือในบริเวณสนามหน้าเมือง
ถนนราชดำเนิน เรียกชื่อตามลักษณะของการ
ก่อสร้างของพระวิหารซึ่งสร้างบนเนินดินที่สูงกว่าพื้นปกติดถึง2.10
เมตร สันนิฐานว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ภายในพระวิหารมีพระพุทธรูปปูนปั้นแกนดินเหนียวสร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย
|
|
-------------------------------------------
สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
ที่ 11 นครศรีธรรมราช
|
พิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในเขตตำบลในเมือง
บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของวัดสวนหลวงตะวันออกมาก่อนตัวอาคารพิพิธภัณฑ์
เปิดเมื่อปี พ.ศ. 2517 จัดแสดงโบราณวัตถุที่ค้นพบในแถบภาคใต้ 4
จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สุราษฎร์ธานี และชุมพร
มีห้องแสดงศิลปหัตถกรรมของใช้พื้นบ้าน
ส่วนสาขาหอสมุดแห่งชาติเปิดบริการให้ประชาชนเมื่อ พ.ศ. 2519
มีหนังสือเก่าที่หายาก และหนังสือสำคัญอื่น ๆ
ส่งมาจากหอสมุดแห่งชาติส่วนกลางไว้ศึกษา |
|
-------------------------------------------
พระพุทธสิหิงค์
|
ประดิษฐานภายในหอพระพุทธสิหิงค์บริเวณศาลากลางจังหวัด
เป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ตามตำนานกล่าวว่า
พระมหากษัตริย์ลังกาโปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 700
และมาอยู่ประเทศไทยในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ปัจจุบันพระพุทธสิงหิงค์ ในประเทศไทยมีอยู่ 3 องค์ คือ
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร พระวัดพระสิงห์ จังหวัดเชียงใหม่
และหอพระพุทธสิหิงค์
จังหวัดนครศรีธรรมราชหอพระพุทธสิหิงค์นี้เดิมเป็นหอพระประจำวังของเจ้าพระยานคร
(น้อย) ภายในหอแบ่งเป็นสองตอน
ตอนหน้าเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพุทธสิหิงค์และพระลากเงิน พระลากทอง
ส่วนหอ ตอนหลังเป็นที่บรรจุอัฐิของสกุล ณ นคร |
|
-------------------------------------------
หอพระอิศวร
|
อยู่ริมถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์
เป็นที่ประดิษฐานศิวลึงค์ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์ของพระอิศวรและฐานโยนิ
รวมทั้งเทวรูปสำริดอีกหลายองค์ อาทิ เทวรูปศิวนาฎราชพระอุมา
และพระพิฆเนศ ปัจจุบันเทวรูปสำริดในหอพระอิศวรเป็นของจำลอง
ของจริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช
|
|
-------------------------------------------
หอพระนารายณ์
|
ตั้งอยู่ถนนราชดำเนิน เป็นโบราณสถานในศาสนาพราหมณ์อีกแห่งหนึ่ง
ตรงกันข้ามกับหอพระอิศวร สิ่งที่พบภายในหอพระนารายณ์ ได้แก่
เทวรูปพระนารายณ์สลักจากหินทรายสีเทาทรงหมวกรูปกระบอกปลายสอบและพระหัตถ์ขวาทรงสังข์
ราวพุทธศตวรรษ ที่ 10-11
ปัจจุบันได้เก็บรักษาไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราช
โบราณวัตถุที่ตั้งแสดงอยู่ในหอพระนารายณ์ขณะนี้คือ
เทวรูปพระนารายณ์จำลองจากองค์จริงที่พบในแหล่งโบราณคดีแถบอำเภอสิชล |
|
-------------------------------------------
สำนักวิปัสสนากรรมฐานวัดชายนา |
ตั้งอยู่ที่ถนนพัฒนาการทุ่งปรัง
เป็นสถานที่ที่มีการสอนวิปัสสนากรรมฐานแก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ
โดยท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้ริเริ่ม เพื่อให้เป็นสาขาของวัดสวนโมกข์
บรรยากาศในวัดร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ |
|
-------------------------------------------
วัดท้าวโคตร
|
วัดท้าวโคตรเดิม ตั้งอยู่ในตำบลนา
อำเภอเมือง ปัจจุบันยุบเป็นตำบลในเมือง
เป็นวัดเก่าแกวัดหนึ่ง
ปัจจุบันวัดนี้ได้รวมพื้นที่วัดร้างจำนวนห้าวัดเข้าด้วยกัน
คือ วัดศก วัดชายนา วัดวา วัดธาราวดี (วัดไปไหม้)
และวัดท้าวโคตร ทำให้บริเวณกว้างขวาง
ภายในบริเวณมีโบราณวัตถุที่สำคัญคือ เจดีย์แบบศรีวิชัย
อยู่ในสภาพปรักหักพังเหลือเพียงซากของฐาน
ภายในประอุโบสถมีจิตรกรรมบนแผ่นไม้
ศิลปะแบบต้นรัตนโกสินทร์ ท่านเจ้าอาวาสวัดท้าวโคตรเล่าว่า
ตอนที่กรมศิลปากรเข้ามาบูรณะตัวโบสถ์
ได้ถอดไม้เหล่านี้ลงมา
แต่เมื่อประกอบเข้าใหม่ปรากฏว่ามีเหลืออยู่อีก 2 แผ่น
ทำให้ไม่แน่ใจว่า
ที่นำไปติดนั้นได้ติดตามลำดับอย่างของเดิมหรือไม่
นอกจากนี้
ครั้งที่บูรณะใบเสมารอบโบสถ์ซึ่งของเดิมทำด้วยหินปะการัง
แต่ละหลักมีลวดลายไม่ซ้ำกันปรากฏว่า ช่างได้นำปูนมาพอกกลบ
และทำลวดลายเหมือนกันหมด ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีก
อาทิกุฏิไม้ตกแต่งด้วยลายฉลุงงดงาม อยู่หลังหอระฆัง
นอกจากนี้ บริเวณตอนเหนือของวัดยังเป็นตลาดเล็กๆ
บรรยากาศเป็นแบบพื้นบ้าน
มีเสน่ห์และน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว |
|
|
-------------------------------------------
วัดสวนหลวง
|
ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน
ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินครศรีธรรมราชภายในเขตเมืองพระเวียงอันเป็นเมืองโบราณ
สิ่งสำคัญของวัดนี้ คือวิหารที่มีผนังตกแต่งด้วยปูนปั้นแบบนูนต่ำ
|
|
-------------------------------------------
วัดสวนป่าน
|
อยู่ใกล้สามแยกหอนาฬิกา
ภายในโบสถ์มีจิตรกรรมแบบตะวันตกงดงามมาก เป็นผลงานของแนบ ทิชินพงศ์
ผู้มีผลงานดีเด่นด้านศิลปชาวนครศรีธรรมราช |
|
-------------------------------------------
เจดีย์ยักษ์
|
เจดีย์สูงใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเจดีย์พระบรมธาตุ
อยู่ข้างสำนักงานเทศบาลนครศรีธรรมราช
บริเวณวัดเจดีย์เดิมซึ่งร้างไปแล้ว
สันนิษฐานว่าสร้างโดยโคทคีรีเศรษฐีชาวมอญ
กับบริวารที่อพยพหลบภัยมาอาศัยเมืองนครศรีธรรมราช เมื่อประมาณ ปี
1546(ข้างศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช)
|
|
-------------------------------------------
กุฎิทรงไทยวัดวังตะวันตก
|
ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนิน
บริเวณที่เชื่อว่าตรงข้ามกับวังตะวันออกอันเป็นนิวาสสถานของเจ้าจอมปราง
เดิมเป็นอุทยาน ต่อมาเจ้าพระนคร (น้อย) ยกวังตะวันออก
และอุทยานตรงข้ามให้เป็นวัดเช่นเดียวกัน จึงเป็นวัดวังตะวันตก พ.ศ.
2431 พระครูกาชาด (ย่อง)
พร้อมด้วยสานุศิษย์ได้สร้างกุฎิขึ้นหมู่หนึ่ง เป็นเรือนเครื่องสับ
3 หลัง มีหลังคาจั่ว แต่ละหลังคาคลุมเชื่อมต่อกัน ตัวเรือนฝาปะกน
ตามประตู หน้าต่างและช่องลม
ประดับด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนคร ปี พ.ศ. 2535
สมาคมสถาปนิก
สยามคัดเลือกกุฎิวัดวังตะวันตกให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่น
ประเภทปูชนียสถานและวัดวาอาราม |
|
-------------------------------------------
สระล้างดาบศรีปราชญ์ |
สระน้ำเก่าแก่
เชื่อว่าเป็นสระที่ใช้ล้างดาบเล่มที่ใช้ประหารศรีปราชญ์เป็นกวีเอกสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ที่มีความผิดจึงถูกเนรเทศมายังเมืองนครศรีธรรมราช
เมื่อศรีปราชญ์ทำความผิดอีกครั้งหนึ่ง
พระยานครศรีธรรมราชจึงได้สั่งประหารชีวิต
ปัจจุบันสระล้างดาบศรีปราชญ์ ได้รับการปรับปรุงใหม่
อยู่ในโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช |
|
-------------------------------------------
เก๋งจีนวัดประดู่และวัดแจ้ง
|
ตั้งอยู่ริมถนนราชดำเนินใกล้กับสนามกีฬาจังหวัด
ก่อสร้างในสมัยต้นรัตนโกสินทร์เป็นที่ประดิษฐาน
บัวบรรจุอัฐิของพระยานคร
และเชื่อว่ารวมถึงพระอัฐิของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชอีกด้วย
|
|
-------------------------------------------
ศาลาโดหก
หรือศาลาประดู่หก |
อยู่ริมถนนราชดำเนิน
เดิมเป็นศาลานอกกำแพงเมืองตรงประตูชัยเหนือ
อันเป็นที่พักของคนเดินทาง ซึ่งเข้าเมืองไม่ทัน
เพราะปะตูเมืองปิดเสียก่อน
เดิมศาลาแห่งนี้ตั้งอยู่ระหว่างต้นประดู่ (ต้นโด) หกต้น
ชาวนครเรียกว่า "หลาโดหก"
ศาลาหลังที่มีอยู่ทุกวันนี้สร้างขึ้นใหม่เป็นศาลาทรงไทยอยู่ริมถนนราชดำเนิน
ส่วนต้นประดู่ทั้งหกต้นได้ตายไปหมดแล้ว
ทางเทศบาลจึงปลูกขึ้นใหม่เพื่อเป็นที่ระลึกถึงประดู่ทั้งหกต้น
|
|
-------------------------------------------
กำแพงเมือง
|
อยู่ริมถนนราชดำเนิน
เป็นกำแพงที่ซ่อมขึ้นใหม่ตามรูปเดิมในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์
และได้รับการบูรณะเพิ่มเติมขึ้นอีกในปี พ.ศ. 2533
เป็นแนวขนานไปกับคูเมือง ตั้งแต่ป้อมประตูชัยเหนือ
หรือประตูชัยศักดิ์ ไปทางตะวันออก ยาวประมาณ 100 เมตร |
|
-------------------------------------------
สนามหน้าเมือง |
ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ
เป็นสนามรบในอดีต
ต่อมากลายเป็นสถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมและกิจกรรมทั้งของรัฐและราษฎร
เช่น เคยใช้เป็นที่สร้างพลับพลารับเสด็จพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลต่าง ๆ
เป็นที่ประกอบพิธีสงกรานต์ ฝึกทหาร และยุวชนทหาร
และจัดงานประเพณีที่สำคัญของชาวนครรวมทั้งงานรื่นเริงอื่น ๆ
|
|
-------------------------------------------
บ้านหนังตะลุงสุชาติ
|
ทรัพย์สิน เลขที่ 10/18 ถนนศรีธรรมโศก ซอย 3
ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว(ไทยแลนด์ ทัวริสซึ่ม
อวอร์ด) ประจำปี 2539 รางวัลดีเด่นประเภทวัฒนธรรมและโบราณสถาน
บริเวณบ้านหนังตะลุงได้จัดแบ่งเป็นพิพิธภัณฑ์หนังตะลุง
การแกะรูปหนังตะลุง การแสดงหนังตะลุงอย่างครบวงจร
นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเข้าชมและศึกษาศิลปวัฒนธรรมได้ทุกวันโทร.
(075) 346394 |
|
-------------------------------------------
อนุสาวรีย์วีรไทย |
หล่อด้วยทองแดงรมดำ
เป็นรูปทหารสองมือจับปืนติดดาบเตรียมแทง ชาวบ้านเรียกว่า "จ่าดำ"
หรือ "เจ้าพ่อดำ"
สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ของทหารไทยในภาคใต้ที่เสียชีวิตในการปะทะกับทหารญี่ปุ่น
ในสงครามมหาเอเซียบูรพา เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2484
ประดิษฐานอยู่บนถนนราชดำเนินในค่ายวชิราวุธอันเป็นที่ตั้งกองทัพภาคที่
4 ปัจจุบัน นอกจากนี้ภายในบริเวณค่ายวชิราวุธยังมีห้องประชุม
บ้านรับรอง สนามกอล์ฟ
สนามยิงปืนและร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกด้วย
|
|
-------------------------------------------
พิพิทธภัณฑ์เมือง
|
อยู่ตรงข้ามสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84
เป็นสถานที่จัดแสดงประวัติของเมืองนครฯ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
ด้วยการนำเสนอเรื่องราวที่ทันสมัย เช่น การค้าขายในอดีต
ประวัติบุคคลสำคัญ อาณาจักร วีถีชีวิต ฯลฯ สอบถามข้องมูลโทร
075-358261 (หยุดวันจันทร์) |
|
-------------------------------------------
สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์
84 (ทุ่งท่าลาด)
|
สวนสาธารณะขนาดใหญ่มีเนื้อที่ประมาณ 1,257 ไร่
ตั้งอยู่หลังสนามกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช
พื้นที่แห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของ "สวนราชฤดี" ในสมัย ร.5
ภายในสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ 84 มี สวนสัตว์เปิด สวนนกนานาชนิด
สวนสุขภาพ รวมทั้งทะเลสาบซึ่งเป็นที่อาศัยของนกเป็ดน้ำ
ที่อพยพมาจากถิ่นอื่นในช่วงมกราคมถึงมีนาคม ของทุกปี |
|
-------------------------------------------
บางปู |
ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม.
อยู่ริมถนนบริเวณสามแยกบางปู เป็นแหล่งผลิตเครื่องปั้นดินเผา
เดิมบริเวณนี้จะมีการผลิตเฉพาะอิฐและกระถางดินเผาเท่านั้น
แต่ปัจจุบันช่างปั้นจากหมู่บ้านโมคลานได้ย้ายออกมาตั้งร้านผลิตและจำหน่ายสินค้าเครื่องปั้นดินเผา
ได้รับการปรับปรุงรูปแบบและคุณภาพให้มีหลากประเภทมากยิ่งขึ้น
|
|