ตัวเมืองกำแพงเพชรเก่า |
ตัวเมืองกำแพงเพชรเก่า
ตั้งอยู่ในเขตตำบลหนองปลิง
และตำบลในเมือง
มีกำแพงศิลาแลงชั้นเดียวสูงประมาณ
5 เมตร มีป้อม 10 ป้อม
คูเมืองกว้าง 30 เมตร
กำแพงด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือยาว
220 เมตร
ด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ยาว
540 เมตร
ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือยาว
2,403 เมตร
ทิศตะวันตกเฉียงใต้ยาว
2,150 เมตร มีประตูเมือง 10
ประตู ภายในกำแพงเพชร
และบริเวณใกล้เคียงมีโบราณสถานที่น่าชมหลายแห่ง
.........................................................
|
สระมน |
สระมน
หรือบริเวณวังโบราณ
ด้านเหนือวัดพระแก้วมีกำแพงดินสี่เหลี่ยมอยู่เกือบติดกำแพงเมืองด้านเหนือ
ภายในกำแพงมีคูล้อม 3
ด้าน ตรงกลางขุดสระมน
เป็นที่เข้าใจว่าบริเวณสระมนนี้เป็นวัง
ส่วนปราสาทราชฐานไม่มีเหลืออยู่เลย
เมื่อขุดลอกสระแล้วตกแต่งบริเวณ
พบฐานศิลาแลงบางตอนและได้พบกระเบื้องมุงหลังคาตกหล่นอยู่ทั่วไป
.........................................................
|
พิพิธภัณฑสถาน
จังหวัดกำแพงเพชร
เฉลิมพระเกึยรติ |
พิพิธภัณฑสถาน
จ.กำแพงเพชรเฉลิมพระเกียรติ
เป็นสถานที่แสดงผลงานของศูนย์บริรักษ์ไทยและศูนย์จริยศึกษา
จำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมพื้นเมืองของจังหวัด
ผลิตภัณฑ์ชาวเขาและกลุ่มแม่บ้าน
ภายในตัวอาคารจัดเป็นห้องโสตทัศนูปกรณ์ที่ทันสมัยประกอบด้วยระบบภาพแสงและเสียง
ในระบบมัลติมีเดีย
การแสดงนิทรรศการด้วยระบบคอมพิวเตอร์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. (055) 722341-2
|
|
.........................................................
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร |
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร
ตั้งอยู่ที่ถนนปิ่นดำริห์
อ.เมือง
เป็นที่แสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุสมัยต่าง
ๆ
ที่ขุดค้นพบในเมืองกำแพงเพชร
และที่มีผู้มอบให้เพื่อเป็นสมบัติของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
โบราณวัตถุส่วนมากเป็นลวดลายปูนปั้นและลวดลายดินเผา
เศียรพระพุทธรูป
เครื่องสังคโลก
ปูนปั้นรูปยักษ์เทวดา
และมนุษย์ซึ่งใช้ประดับฐานเจดีย์
หรือติดตั้งวิหาร
ผู้สนใจสามารถเข้าชมได้ในเวลาราชการทุกวัน
เว้นวันจันทร์
วันอังคาร
และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างประเทศ 30
บาทสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
โทร. (055) 711570
|
|
.........................................................
ศาลพระอิศวร |
ตั้งอยู่ด้านหลังศาลจังหวัด
เป็นฐานก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมยกพื้นสูง
1.5 เมตร
มีบันไดขึ้นด้านหน้า
บนฐานชุกชีอยู่เป็นที่ตั้งของเทวรูปพระอิศวรสัมฤทธิ์
ซึ่งจำลองขึ้นในสมัยที่นายเชาวน์วัศ
สุดลาภาเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด
เทวรูปพระอิศวรองค์จริงปัจจุบันตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร
รูปพระอิศวรนี้
ในสมัยรัชการที่ 5
ชาวเยอรมันมาเที่ยวเมืองกำแพงเพชร
ได้ลักลอบตัดเศียรและพระหัตถ์ส่งลงเรือมากรุงเทพฯ
เมื่อ พ.ศ. 2429
เจ้าเมืองกำแพงเพชรได้บอกเข้ามายังกรุงเทพฯจึงโปรดฯ
ให้ขอพระเศียรและพระหัตถ์คืน
และได้ทรงสร้างพระอิศวรจำลองประทานให้
ซึ่งปัจจุบันตั้งแสดงในพิพิธภัณฑ์กรุงเบอร์ลิน
.........................................................
|
วัดพระแก้ว |
ตั้งอยู่กลางเมืองกำแพงเพชร
เป็นวัดที่สำคัญอยู่ติดกับบริเวณวังเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชญ์
ที่จังหวัดอยุธยา
หรือวัดมหาธาตุกลางเมืองสุโขทัย
กำแพงวัดเป็นศิลาแลงกลมทั้งท่อนสูงประมาณเมตรเศษแผนผังของวัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนานไปกับกำแพงเพชร
กำแพงวัดขาดเป็นตอน ๆ
สิ่งก่อสร้างภายในใช้ศิลาแลงเป็นส่วนใหญ่
ตรงกลางของวัดมีพระเจดีย์กลมแบบลังกาองค์ใหญ่เป็นประธาน
ฐานสี่เหลี่ยม
ที่ฐานทำเป็นซุ้มคูหาโดยรอบมีสิงห์ยืนอยู่ในคูหาแต่ชำรุดหมด
วัดพระแก้วนี้หลังจากขุดแต่งแล้วปรากฏว่า
พบฐานเจดีย์แบบต่าง ๆ
กัน รวม 35 ฐาน
วิหารใหญ่และเล็ก 8
วิหาร ฐานโบสถ์ 3 แห่ง
ซึ่งแสดงว่าเป็นวัดใหญ่
และสำคัญมากมาก่อน
ปัจจุบันงานนบพระเล่นเพลง
และงานวันสารทไทยกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชร
ก็จัดให้มีขึ้นในบริเวณวัดพระแก้วแห่งนี้
|
|
.........................................................
วัดพระธาตุ |
อยู่ที่ตำบลนครชุมเป็นวัดใหญ่รองจากวัดพระแก้วที่อยู่ในกำแพงเมืองกำแพงเพชรรูปทรงเป็นแบบพม่า
เรียงจากวัดพระแก้วไปทางทิศตะวันออก
มีเจดีย์ประธานก่อด้วยศิลาแลงปนอิฐฐานสี่เหลี่ยมกว้าง
15 เมตร
วัดนี้ภายหลังจากการขุดแต่งและบูรณะเจดีย์ใหญ่
เจดีย์รวมด้านใต้แล้ว
ปรากฏว่ามีลักษณะคล้ายแผนผังของวัดสระศรี
ที่เมืองสุโขทัยเก่า
แต่ลักษณะเจดีย์เป็นแบบกำแพงเพชร
|
|
.........................................................
วัดพระสี่อิริยาบถ |
อยู่ต่อจากวัดพระนอนไปทางทิศเหนือในแนวกำแพงวัด
ติดต่อกันถึงวัดพระสี่อิริยาบถ
หรือที่เรียกกันเป็นสามัญว่าวัดพระยืน
วัดนี้มีบ่อน้ำและที่อาบน้ำอยู่หน้าวัดเช่นเดียวกับวัดพระนอน
กำแพงวัด
เป็นศิลาแลงปักตั้งล้อม
4 ด้าน
มีทางเข้าปูด้วยศิลาแลง
มีศาลาโถงปลูกคร่อมทางเดินเป็นศาลากว้าง
6 เมตร ยาว 11 เมตร เป็นเสา 4
แถว 5 ห้อง
ต่อจากศาลาหน้าวัดมีประตูเข้าไปในบริเวณวัดแล้วถึงฐานศิลาแลงใหญ่
ยกฐานสูงประมาณ 2 เมตร
มีเสาลูกกรงเป็นศิลาแลงเหลี่ยมและมีทับหลังลูกกรงเตี้ย
ๆ สูงประมาณ 60
เซ็นติเมตร อยู่โดยรอบ
ฐานนี้มีบันไดขึ้นด้านหน้า
2 บันได ด้านข้าง 2
บันไดและด้านหลังอีก 2
บันได บนฐานวิหารกว้าง 17
เมตร ยาว 29 เมตร
ย่อมุขเด็จทั้งหน้าและหลัง
เสาวิหารที่อยู่บนฐานเป็นเสา
4 แถว 5 ห้อง 2 แถว
หน้าและหลัง 2 ห้อง รวม 7
ห้อง ที่ฐานชุกชี
มีรอยตั้งพระพุทธรูปนั่งด้านหลังวิหารมีบันไดลงติดต่อกับมณฑปพระอิริยาบถ
โดยรอบมณฑปกำแพงแก้วเตี้ย
ๆ เหลือแต่ฐาน
มีประตูเข้าด้านข้าง 2
ข้าง
และด้านหลังมณฑปกว้าง 29
เมตร เป็นมณฑปสี่หน้า
ด้านหน้ามีพระพุทธรูปลีลา
ด้านข้างเหนือมีพระพุทธรูปนั่ง
พระพุทธรูปปูนปั้นทั้ง
3 ด้าน
ที่กล่าวมาแล้วชำรุดเหลือซากพอเป็นรอยให้ดูรู้ว่าเป็นพระพุทธรูปเท่านั้น
แต่ก็เป็นหลักฐานที่แสดงให้รู้ว่า
เป็นพระพุทธศิลปแบบสุโขทัยสกุลช่างกำแพงเพชร
ซึ่งหาดูได้ยาก (ตามรูปเลยครับ
ถ่ายมาสี่อริยาบถเลย)
|
|
.........................................................
วัดช้างรอบ |
เป็นวัดใหญ่ตั้งอยู่บนเนินสูง
มีพระเจดีย์ใหญ่ตั้งอยู่กลางลาน
ฐานเจดีย์กว้าง 31เมตร
สี่เหลี่ยมที่ฐานเป็นรูปช้างครึ่งตัวเห็นแต่
2 ขาหน้า
หันศีรษะออกจากฐานรายรอบเจดีย์
เป็นช้างทรงเครื่องจำนวน
68 เชือก
ระหว่างช้างมีลายปูนปั้นเป็นรูปใบโพธิ์
กับมีรอยตั้งรูปยักษ์และนางรำติดอยู่แต่ชำรุดหัก
เห็นไม่สมบูรณ์
ทางขึ้นไปบนฐานทักษิณมีบันไดสี่ด้าน
ตรงเชิงบันไดมีรูปสิงห์หักอยู่ที่ฐาน
ฐานเจดีย์จากพื้นดินถึงลานทักษิณชั้นบนสูงประมาณ
7 เมตร
กลางลานมีเจดีย์ฐานเขียงแปดเหลี่ยมฐานกว้างประมาณ
20 เมตร
ลักษณะเป็นเจดีย์แบบลังกายอดหัก
ด้านหน้าฐานเจดีย์เป็นวิหารใหญ่
กว้าง 17 เมตร ยาว 34 เมตร
ฐานสูงประมาณ 1.5 เมตร
วิหารเป็นเสา 4 แถว 7 ห้อง
มีมุขเด็จข้างหน้าหนึ่งห้อง
ต่อจากวิหารใหญ่เป็นสระซึ่งขุดลงไปในพื้นศิลาแลง
กว้าง 23 เมตร
สี่เหลี่ยมลึก ประมาณ 8
เมตร
มีน้ำขังอยู่บางฤดูจากการขุดแต่งที่ฐานเจดีย์วัดช้างรอบนี้ได้พบบรรดาลวดลายต่าง
ๆ เป็นดินเผารูปนางรำ
รูปยักษ์ รูปหงส์
รูปหน้าเทวดา
และหน้ามนุษย์
ซึ่งตามลักษณะโบราณวัตถุเป็นศิลปสมัยอยุธยาตอนต้น
หรือสุโขทัยตอนปลายทำให้ทราบลักษณะเครื่องแต่งตัว
การฟ้อนรำและลักษณะอื่น
ๆ
ของคนสมัยสุโขทัยตอนปลาย
ซึ่งเป็นประโยชน์ในการศึกษาศิลปะและโบราณคดี
บรรดาโบราณวัตถุที่พบนี้
บางชิ้นเก็บรวบรวมตั้งแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร
|
|
.........................................................
วัดพระสิงห์ |
ถัดจากวัดพระสี่อิริยาบถไปทางทิศเหนือประมาณ
100 เมตร
จะพบวัดพระสิงห์ซึ่งเป็นวัดขนาดย่อม
ยังไม่ได้ขุดแต่งและบูรณะ
สันนิษฐานว่าใช้เวลาสร้างถึง
2 สมัย คือ
สมัยสุโขทัยและสมัยอยุธยา
กำแพงเป็นศิลาแลงโดยรอบ
ภายในเป็นฐานเจดีย์มีซุ้มพระ
4 ทิศ ฐานเจดีย์กว้าง 11
เมตรสี่เหลี่ยม
มีเจดีย์ราย 4 มุม
ด้านหน้าเจดีย์ใหญ่มีฐานโบสถ์กว้าง
15 เมตร ยาว 30 เมตร
ตั้งอยู่บนฐานอีกชั้นหนึ่งซึ่งกว้าง
23 เมตร ยาว 42 เมตร
ด้านทิศใต้มีฐานวิหารใหญ่
1 วิหาร และขนาดย่อมอีก 1
วิหาร ภายในวัดมีบ่อน้ำ
2 บ่อ
เป็นบ่อกรุด้วยศิลาแลง
|
|
.........................................................
วัดพระนอน |
อยู่ห่างจากวัดป่ามืดไปทางเหนือประมาณ
150 เมตร
เป็นวัดใหญ่วัดหนึ่งซึ่งได้ขุดแต่งและบูรณะไว้แล้ว
วัดนี้มีกำแพงศิลาแลงปักตั้งล้อมไว้ทั้ง
4 ด้าน
ด้านหน้าวัดตรงขวามือมีบ่อน้ำสี่เหลี่ยมมีน้ำขังข้าง
ๆ บ่อ
มีห้องอาบน้ำและศาลาน้ำ
ฐานและเสาเป็นศิลาแลง
ซึ่งเสานี้ตัดมาจากแหล่งกำเนิดทั้งแท่งมีขนาดกว้าง
1.1 เมตร ยาว 1.1 เมตร สูง 6.4
เมตร
นับว่าเป็นศิลาแลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ด้านซ้ายมือเมื่อเดินไปตามทางขึ้นบริเวณลานวัดที่ปูด้วยศิลาแลงถึงหน้าประตูวัด
จะพบเศษรูปสิงห์ปูนปั้นซึ่งขุดค้นได้วางอยู่หน้าโบสถ์
ฐานโบสถ์เป็นศิลาแลงยกพื้นสูง
80 เซ็นติเมตร
มีบันไดขึ้นโบสถ์ด้านหน้าด้านหลังด้านละ
2 บันได ฐานกว้าง 14 เมตร
ยาว 30 เมตร
มีมุขเด็จทั้งด้านหน้าด้านหลัง
มีเสา 4 แถว 5 ห้อง 2 แถว 2
ห้อง
เสาโบสถ์ทำด้วยศิลาแลงแท่งใหญ่รูป
8 เหลี่ยม
เสมาที่เหลืออยู่สลักเป็นรูปเทพพนมและอื่น
ๆ ประกอบลวดลายสวยงาม
ด้านหลังโบสถ์เป็นวิหารพระนอนรูปสี่เหลี่ยมกว้าง
25 เมตร มีเสา 6 แถว 6 ห้อง
ผนังเจาะเป็นช่องลูกกรงยาว
ๆ
เสาวิหารรูปสี่เหลี่ยม
ทั้งแท่งขนาดกว้างเมตรเศษ
ยาว 4-5 เมตร
เป็นของใหญ่โตที่หาดูได้ยากแห่งหนึ่ง
|
|
.........................................................
วัดอาวาสใหญ่ |
เป็นวัดที่ก่อสร้างใหญ่โต
มีเจดีย์และวิหารมาก
อยู่ริมถนนไปอำเภอพรานกระต่าย
ห่างจากประตูโคมไฟไปทางเหนือประมาณ
3 กม.
กำแพงวัดเป็นศิลาแลง
กลางวัดมีฐานพระเจดีย์แปดเหลี่ยมใหญ่กว้างด้านละ
16 เมตร
ด้านหน้าวัดอาวาสใหญ่
ริมถนนมีบ่อสี่เหลี่ยมใหญ่ขุดลงไปในพื้นศิลาแลงกว้าง
9 เมตร ยาว 17 เมตร ลึก 7-8
เมตร เรียกว่า "บ่อสามแสน"
และตรงด้านหน้าเจดีย์ประธานด้านทิศเหนือ
มีบ่อศิลาแลงขนาดใหญ่เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีฐานวิหารทั้งใหญ่และเล็กรวม
10 วิหาร ฐานเจดีย์รวม 9
ฐาน
วัดนี้อยู่ริมถนนสะดวกในการเข้าชม
|
|
.........................................................
วัดพระบรมธาตุ |
เป็นวัดอยู่ริมแม่น้ำปิง
ฝั่งตะวันตกกลางเมืองนครชุมมีเจดีย์แบบพม่าอยู่
1 องค์
ด้านใต้มีพระอุโบสถ
มีพระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยสุโขทัย
และอยุธยาอยู่หลายองค์
วัดนี้สันนิษฐานว่า
เดิมคงเป็นเจดีย์
ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์อย่างศิลปสุโขทัย
แต่ปัจจุบันเป็นเจดีย์แบบพม่า
เนื่องจากเศรษฐีพม่าผู้หนึ่งได้มาบูรณะไว้เมื่อประมาณ
100 ปีมาแล้ว
.........................................................
|
เมืองไตรตรึงส์ |
เมืองไตรตรึงส์
เป็นเมืองเก่าแก่
สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยสิริกษัตริย์เชียงราย
ซึ่งได้หนีข้าศึกจากเชียงรายลงมาสร้างเมืองนี้ขึ้น
เมื่อ พ.ศ. 1542
ปัจจุบันโบราณสถานต่าง
ๆ
ทรุดโทรมลงมากเหลือเพียงซากเจดีย์และเชิงเทินเท่านั้น
เมืองไตรตรึงส์ตั้งอยู่ที่ตำบลไตรตรึงส์
การเดินทางใช้เส้นทางสายกำแพงเพชร
- คลองลาน ไปประมาณ 18 กม.
|
.........................................................
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร |
ตั้งอยู่นอกเมืองกำแพงเพชรไปประมาณ
5 กม. ตามถนนสายกำแพงเพชร
- พรานกระต่าย
แล้วเลี้ยวซ้ายตรงกม.ที่
360
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
ประกอบด้วยกลุ่มโบราณสถาน
ขนาดใหญ่
ซึ่งจะเป็นศาสนสถานเป็นส่วนมาก
เช่น วัดพระแก้ว
วัดพระสี่อิริยาบถ
วัดช้างล้อม
ซึ่งนักท่องเที่ยวจะพบเทคโนโลยี่ในการสร้างสมัยโบราณ
เช่น
การใช้เสาศิลาแลงเป็นเสาค้ำอาคาร
โดยเสาแต่ละต้นถูกสกัดขึ้นมาจากศิลาแลงใต้ดิน
มีน้ำหนักต้นละไม่ต่ำกว่า
30 ตัน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
เสด็จพระราชดำเนิน
เป็นประธานในพิธีเปิดเมื่อวันที่
18 เมษายน 2534
ค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท
ชาวต่างประเทศ 40 บาท
.........................................................
|
ที่ทำการหน่วยศิลปากรประจำจังหวัดกำแพงเพชร |
ที่ทำการหน่วยศิลปากรประจำจังหวัดกำแพงเพชร
ตั้งอยู่เลยวัดพระแก้วไปตามเส้นทางกำแพงเพชร
-พรานกระต่าย
มีทางลูกรังแยกเข้าไปทางซ้ายมือ
ตรงประตูสะพานโคมประมาณ
300 เมตร
เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการบูรณะขุดแต่งอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
.........................................................
|
วัดป่ามือ |
ออกนอกกำแพงเมืองตรงประตูสะพานโคมด้านทิศเหนือไปตามถนนกำแพงเพชร-พรานกระต่าย
ประมาณ 300 เมตร
ตามถนนเดิมจะพบวัดอยู่ทางซ้ายมือ
เรียกว่าวัดป่ามืด
วัดนี้ยังไม่ได้ขุดแต่งและบูรณะ
พื้นที่ทั่ว ๆ
ไปยังเป็นป่าปกคลุมอยู่
โบราณสถานมีเจดีย์กลมแบบลังกา
ด้านหน้าเป็นฐานเจดีย์ราย
4-5 แห่ง
มีกำแพงล้อมรอบต่อจากกำแพงด้านหน้าเป็นโบราณสถานอีกหมู่หนึ่ง
มีฐานเจดีย์และฐานวิหารและเจดีย์รอบอีก
7 ฐาน
มีกำแพงรอบเช่นเดียวกัน
.........................................................
|
กำแพงป้อมทุ่งเศรษฐี |
กำแพงป้อมทุ่งเศรษฐี
ตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน
ก่อนถึงตัวเมืองกำแพงเพชรเล็กน้อย
จะเห็นกำแพงศิลาแลงเป็นป้อม
มีใบเสมาเหลืออยู่
ป้อมก่อด้วยศิลาแลงกว้าง
83.5 เมตร
รูปสี่เหลี่ยมสูงประมาณ
6 เมตร
มีประตูทางเข้าตรงกลางป้อม
4 ด้าน
ทางด้านในมีเชิงเทินพอเดินหลีกกันได้
ตรงฐานป้อมใต้เชิงเทินเป็นห้องมีทางเดินต่อต่อกันได้
ตรงมุมมีป้อมยื่นออก 4
มุม
มีรูมองอยู่ติดกับพื้น
การก่อสร้างป้อมนี้มีความมั่นคงมาก
แต่ด้านทิศเหนือถูกรื้อออกเสียด้านหนึ่ง
จึงเหลือเพียง 3 ด้าน
บริเวณนี้มีวัดเก่าแก่หลายวัด
เช่น วัดหนองพิกุล
วัดซุ้มกอ วัดหนองลังกา
เป็นต้น ที่สำคัญ
ต่อนักเลงพระก็คือ
เป็นบริเวณที่พบพระเครื่องลือชื่อของเมืองกำแพงเพชร
เช่น พระซุ้มกอ
ลีลาเม็ดขนุน
ทุ่งเศรษฐี
หรือกำแพงเขย่ง เป็นต้น
.........................................................
|
เมืองนครชุม |
เมืองนครชุม
เป็นเมืองโบราณอยู่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิง
กำแพงเมืองเป็นมูลดินสูง
2-3 เมตร
รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
ยาวไปตามแม่น้ำปิง
จากตะวันออกไปตะวันตก
ภายในกำแพงเมืองมีวัดเก่าแก่อยู่
2-3 วัด
|
|