วัดใหญ่จอมปราสาท
หรือวัดใหญ่สาครบุรี
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าจีน อำเภอเมือง เป็นวัดเก่าแก่ไม่ต่ำกว่า 400
ปีมาแล้ว สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
แต่ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้าง สิ่งที่น่าชมในวัดนี้ได้แก่
พระอุโบสถทั้งหลังเก่าและหลังใหม่
บานประตูและหน้าต่างรอบพระอุโบสถแกะสลักอย่างสวยงามและประณีตมาก
สันนิษฐานว่าช่างผู้แกะสลักบานประตูและหน้าต่างนี้เป็นช่างชาวจีนที่มากับเรือสำเภา
เพราะลวดลายนั้นมีต้นไม้จีนปนอยู่ด้วย
กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นฝีมืองานช่างศิลปะที่ล้ำค่า
จัดเป็นโบราณสถานของชาติ
การเดินทางไปวัดใหญ่จอมปราสาท
เมื่อลงจากสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนราว 100 เมตร จะมีทางลูกรังแยกซ้ายเข้าวัด
|
|
----------------------------------------------------------------
วัดสุทธิวาตวราราม
หรือวัดช่องลม |
เป็นพระอารามหลวง
ตั้งอยู่ตรงปากอ่าวสมุทรสาคร ตำบลท่าฉลอม ตรงข้ามกับตัวเมือง
วัดช่องลมนี้ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามและยกย่องว่าเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
นอกจากเป็นศาสนสถานแล้วยังเป็นสถานที่ตากอากาศได้เป็นอย่างดี
ด้านหน้าวัดมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานอยู่
ยามเย็นที่วัดช่องลมจะแลเห็นทัศนียภาพที่งามมาก การเดินทาง
สามารถลงเรือได้ที่ท่าเรือเทศบาล
ข้ามฟากไปฝั่งท่าฉลอมและขึ้นรถสองแถวต่อไปอีกประมาณ 10 นาที |
|
----------------------------------------------------------------
วัดโคกขาม
|
ตั้งอยู่ริมคลอง
เป็นวัดเก่าแก่มีบริเวณกว้างขวาง มีท่าเทียบเรือให้ขึ้นชมได้
สิ่งที่น่าชมในวัดนี้คือ
พระอุโบสถหลังเก่าด้านหน้ามีพระเจดีย์เก่าที่ได้รับการบูรณะซ่อมแซม
สถาปัตยกรรมการก่อสร้างศิลปะแบบอยุธยา
ลวดลายการแกะสลักไม้ที่หน้าบันนั้นงดงาม
นอกจากนั้นที่วัดนี้ยังเก็บโบราณวัตถุที่เล่ากันว่าเกี่ยวพันกับเรื่องของพันท้ายนรสิงห์ไว้หลายอย่าง
เช่น ชิ้นส่วนของเรือพระที่นั่งเอกชัย และศาลเพียงตาของเดิม เป็นต้น
การเดินทางล่องคลองโคกขาม สามารถเช่าเรือหรือโดยสารเรือเมล์ได้ที่
ท่าเรือตลาดสังวาลย์ (ท่าเรือตลาดมหาชัย) หรือที่ท่าเรือบ้านไร่ก็ได้
ราคาเช่าเหมาขึ้นอยู่กับขนาดของเรือ และสถานที่ที่จะให้แวะชม เช่น
เรือขนาดบรรทุก 10-15 คน จากท่าเรือตลาดสังวาลย์-เที่ยวคลองโคกขาม-วัดโคกขาม-ศาลพันท้ายนรสิงห์
ไป-กลับ ราว 2-3 ชั่วโมง ค่าเช่าเหมาตกลำละประมาณ 400-500 บาท |
----------------------------------------------------------------
คลองโคกขาม
|
เป็นคลองในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร
มีความคดเคี้ยวมาก กระแสน้ำเชี่ยวมากยากต่อการเดินเรือ
ครั้งที่พระเจ้าเสือหรือสมเด็จพระสรรเพชรที่ 8 (พ.ศ. 2246-2252)
เสด็จประพาสต้นไปตามลำคลองโคกขามด้วยเรือพระที่นั่งเอกชัย
ดังปรากฏในพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาว่า"จลุศักราช 1066 ปีวอก
ขณะนั้นเรือพระที่นั่งถึงตำบลโคกขามและคลองที่นั่นคดเคี้ยวมาก พันท้ายนรสิงห์ที่ถือท้ายเรือพระที่นั่งคัดแก้ไขมิทัน
และหัวเรือพระที่นั่ง โดนกระทบกิ่งไม้อันใหญ่ เข้าก็หักลง
จึงดำรัสให้นายเพชฌฆาตประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์เสีย
แล้วให้ทำศาลขึ้นสูงเพียงตา เอาศีรษะพันท้ายนรสิงห์กับหัวเรือที่หักนั้นขึ้นพลีกรรมไว้ด้วยกันบนศาลนั้น"
สำหรับเกร็ดที่เล่าเกี่ยวกับพันท้ายนรสิงห์นั้นเล่าว่า เป็นเพราะพันท้ายนรสิงห์รู้ว่าทางข้างหน้าที่พระเจ้าเสือจะเสด็จผ่านนั้น
มีพวกกบฏคอยซุ่มจะทำอันตรายอยู่ มีวิธีเดียวที่ปลอดภัยคือ
ทำให้เสด็จไปไม่ถึงจุดนั้น โดยการแกล้งคัดท้ายเรือ
จนกระทั่งโขนเรือเอกชัยชนกิ่งไม้หัก แล้วยอมถวายชีวิตตามกฏมณเฑียรบาล
พระเจ้าเสือทรงทราบจึงทรงให้บันทึกเหตุการณ์ไว้ในพงศาวดาร
และโปรดให้สร้างศาลขึ้น ณ ตรงที่ประหารชีวิตพันท้ายนรสิงห์
ทั้งโปรดให้ขุดคลองลัดตัดทางคดเคี้ยวของคลองโคกขามเสียให้ตรง
โดยให้พระยาราชสงครามเป็นแม่กองคุมไพร่พลจำนวน 3,000 คน
ขุดคลองตัดจากคลองโคกขามตั้งแต่ปี พ.ศ. 2248 ตรงมาเชื่อมกับแม่น้ำท่าจีน
ขนาดคลองกว้าง 5 วา ลึกโดยเฉลี่ย 6 ศอก เสร็จในปี พ.ศ. 2252
ในสมัยของพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เมื่อขุดเสร็จจึงได้รับพระราชทานนามว่า "คลองสนามไชย"
ต่อมาเปลี่ยนเป็น "คลองมหาชัย"
แต่บางทีชาวบ้านก็เรียกว่า "คลองถ่าน"
ที่ปากคลองมหาชัยติดต่อกับคลองโคกขาม จะมีศาลของพันท้ายนรสิงห์ตั้งอยู่เป็นศาลไม้
ศาลนี้เป็นศาลใหม่ที่มีผู้มาสร้างไว้ภายหลัง
ศาลเดิมอยู่ที่วัดโคกขามเป็นบริเวณที่หัวเรือพระที่นั่งเอกชัยชนกิ่งไม้หัก
แต่เนื่องจากคลองโคกขามตื้นเขินมาก ประกอบกับสถานที่เดิมอยู่ห่างไกลมาก
จึงมีผู้ย้ายศาลไปไว้บริเวณปากคลองมหาชัยต่อกับคลองโคกขาม
บริเวณที่หัวเรือพระที่นั่งเอกชัยชนกิ่งไม้หักนั้น
สภาพคลองโคกขามมีลักษณะเป็นโค้งข้อศอกน้ำไหลเชี่ยวมาก
กรมศิลปากรได้ดำเนินการจัดสร้างศาลพันท้ายนรสิงห์ขึ้น
อยู่ถัดจากศาลเก่าที่พังลงไม่มากนัก โดยกันอาณาบริเวณรอบๆ ศาลไว้ประมาณ 100
ไร่ เพื่อจัดตั้งเป็นอุทยานสถานพันท้ายนรสิงห์ ภายในศาลใหม่มีรูปปั้นของพันท้ายนรสิงห์ขนาดเท่าคนจริงอยู่ในท่าถือท้ายคัดเรือ
ประชาชนในละแวกนั้นเคารพนับถือมาก |
|
----------------------------------------------------------------
วัดป่าชัยรังสี
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าบางปลา
เป็นวัดที่สร้างอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คือใช้ศิลปะการก่อสร้างหลายแบบแปลกตาบนเนื้อที่ 200 ไร่
การเดินทางใช้เส้นทางถนนเศรษฐกิจ (มหาชัย-กระทุ่มแบน)
ห่างจากตำบลมหาชัยประมาณ 5 กม. แยกซ้ายตรงข้ามกับสถานีไฟฟ้าย่อยเข้าไป 1.5
กม. |
----------------------------------------------------------------
ป้อมวิเชียรโชฎก
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลมหาชัย
ในตัวเมืองสมุทรสาคร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว
เมื่อปี พ.ศ. 2370 ก่อด้วยอิฐถือปูน กว้างประมาณศอกเศษ สูง 7 ศอก
ในปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นเพียงบางส่วน ป้อมนี้
สร้างไว้กันข้าศึกที่ยกเข้ามาทางทะเล ปืนใหญ่ที่ป้อมวิเชียรโชฎกปัจจุบันเก็บไว้ที่ศาลากลางจังหวัดและศาลเจ้าพ่อหลักเมือง |
|
----------------------------------------------------------------
หมู่บ้านชาวประมงท่าฉลอม |
เป็นตำบลใหญ่เรียกว่า ตำบลท่าฉลอม
เป็นเขตสุขาภิบาลแห่งแรกในประเทศไทย มีผู้ประกอบอาชีพประมงเป็นจำนวนมาก
มีตลาดและกิจการต่อเรือที่ตั้งเรียงรายอยู่บนฝั่งแม่น้ำท่าจีน
การเดินทางไปบ้านท่าฉลอม
สามารถข้ามฟากที่ท่าเรือเทศบาลฝั่งมหาชัยใกล้กับศาลหลักเมือง
หรือทางรถยนต์ตามเส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อเลยสี่แยกเข้าตำบลมหาชัยไปทางจังหวัดสมุทรสงคราม
ประมาณ 3 กม. ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำท่าจีนแล้วแยกซ้ายเข้าตำบลท่าฉลอม |
|
----------------------------------------------------------------
สะพานปลา
|
เป็นสะพานปลาที่ใหญ่และทันสมัยแห่งหนึ่งรองจากกรุงเทพฯ
อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสมุทรสาครมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัยที่ใช้ในการลำเลียงขนถ่ายผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำทางทะเลทุกอย่างเป็นจำนวนมากเป็นศูนย์กลางการค้าปลาทะเล
เป็นแหล่งที่เงินตราสะพัดหมุนเวียนวันละหลายล้านบาท |
----------------------------------------------------------------
นากุ้งนาเกลือ
|
เขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร
มีชายฝั่งทะเลที่เหมาะกับการทำนาเกลือนากุ้งหลายแห่ง โดยเฉพาะที่ตำบลกาหลง
นาโคก บ้านบ่อ บางโทรัด โคกขาม พันท้ายนรสิงห์ และบริเวณ 2
ข้างทางสายธนบุรี-ปากท่อ ต่อเขตจังหวัด สมุทรสงคราม และมีนาเกลือ
มีเกลือกองสีขาว มีนกหลายชนิดบินผ่านไปมา
มีกังหันวิดน้ำเข้านาเกลือหมุนเล่นลม เป็นทัศนียภาพที่สวยงาม
ผู้คนที่ใช้เส้นทางสายนี้สัญจรไปมามักหยุดชมอยู่เสมอ |
|
----------------------------------------------------------------
แม่น้ำท่าจีน
|
เป็นแม่น้ำสายสำคัญที่สุดของจังหวัด
ต้นแม่น้ำมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา
จังหวัดชัยนาทไหลผ่านจังหวัดสุพรรณบุรีจังหวัดนครปฐม
แล้วไหลลงสู่อ่าวไทยที่ตำบลท่าฉลอม อำเภอเมืองสมุทรสาคร |
|
----------------------------------------------------------------
ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร |
ตั้งอยู่ที่ตำบลมหาชัย
อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาครศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร มีชื่อเดิมว่า
"ศาลเทพเจ้าจอมเมือง" ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังที่ว่าการอำเภอเมืองหลังเก่า
ภายในบริเวณป้อมวิเชียรโชฎก
ปัจจุบันไม่ปรากฏศาลดังกล่าว
จึงได้สร้างศาลหลักเมืองสมุทครสาครแทนศาลเดิม
ด้านหลังของศาลจ้าพ่อหลักเมืองยังมีสถานที่ได้ท่องเที่ยวและเยี่ยมชมความงาม
คือ เสาหลักเมืองสมุทราคร
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เคารพบูชาของชาวบ้าน |
|
----------------------------------------------------------------
วัดช่องลม(วัดสุทธิวาตาราม) |
วัดช่องลม
ตั้งอยู่ตรงปากอ่าวสมุทรสาคร ตำบลท่าฉลอม ตรงข้ามกับตัวเมือง
เดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 35 เลี้ยวซ้ายบริเวณกิโลเมตรที่ 35
เข้าถนนสุทธิวาตวิถีประมาณ 3 กิโลเมตร
วัดช่องลมเป็นพระอารามหลวงได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม
และเป็นวัดพัฒนาตัวอย่าง
ด้านหน้าวัดมีพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานอยู่
ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินท่าฉลอม
และทรงตั้งเป็นสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย
|
|
----------------------------------------------------------------
ตลาดมหาชัย
(ท่าเรือเทศบาล) |
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน
นับเป็นศูนย์กลางการค้า การคมนาคมของสมุทรสาคร
ตลาดมหาชัยนี้มีท่าเรือหลายแห่งเป็นท่าเรือเมล์ที่ไปสู่ท้องที่ตำบลต่างๆ
และสามารถเช่าเรือหางยาวไปเที่ยวคลองโคกขามได้ มีทั้งเช่าเหมาลำ
และเรือประจำทาง |
|