วัดกู้
|
ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ตำบลบางพูด ห่างจากอำเภอปากเกร็ดไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 3 กม.
เป็นบริเวณที่เรือพระที่นั่งของสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์
พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 ได้ประสบอุบัติเหตุ
เรือล่มสิ้นพระชนม์
วัดนี้สร้างในสมัยพระยาเจ่ง
อพยพครอบครัวมอญเข้ามาในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นวัดที่สร้างด้วยศิลปแบบมอญ
มีพระตำหนักสร้างเป็นอนุสรณ์สถานที่สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์เพราะเรือล่ม
แล้วอัญเชิญพระศพมาไว้ที่วัดนี้ชั่วคราวมีพระพุทธไสยาสน์ที่เป็นพระนอน
ขนาดใหญ่ ความยาว 21 วา 2 ศอก มีศาลพระนางเรือล่ม
(พระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์)
|
|
ซึ่งจำลองแบบจากศาลาจตุรมุขของพระราชวังบางปะอิน
มีพระบรมรูปเท่าพระองค์จริงประทับยืน
นอกจากนั้นยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบมอญ
เป็นภาพเขียนสีน้ำมันอยู่ด้านในของพระอุโบสถหลังเก่า
ซึ่งเขียนเคียงคู่กับพระอุโบสถหลังใหม่ เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ
และที่ด้านหลังของพระนอนองค์ใหญ่นี้ เป็นที่เก็บเรือพระที่นั่งของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ที่อัปปางซึ่งชาวบ้านได้กู้เรือมาเก็บไว้ที่วัดกู้แห่งนี้
การเดินทางสามารถเดินทางโดยรถยนต์
จากท่าน้ำอำเภอปากเกร็ดเลี้ยวซ้ายซอยวัดกู้มา ตามถนนสุขาประชาสรรค์
ผ่านวัดบางพูดนอก สวนทิพย์ ห้องอาหารศรีไทยเดิม รวมระยะทางประมาณ 3 กม.
จะเห็นวัดกู้อยู่ด้านซ้ายมือ และจะเช่าเรือจากท่าน้ำ
อำเภอปากเกร็ดแล่นมาทางเหนือใช้เวลาประมาณ 10 นาที
จะเห็นท่าน้ำวัดกู้อยู่ทางขวามือ |
-----------------------------------------------------------------
เกาะเกร็ด
|
เป็นเกาะขนาดใหญ่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เป็นชุมชนที่เจริญมาตั้งแต่ปลายสมัยอยุธยา วัดต่าง ๆ
ที่สร้างขึ้นบนเกาะเป็นโบราณสถานที่สวยงาม
สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนปลายทั้งสิ้น มีฐานะเป็น
ตำบลแบ่งเขตการปกครองเป็นหมู่บ้านรวมทั้งสิ้น 7
หมู่บ้านเกาะเกร็ดเกิดขึ้นจากการขุดคลอง
ลัดลำน้ำเจ้าพระยาตรงส่วนที่เป็นแหลมยื่นไปตามความโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา
ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระแห่งกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2265
เรียกคลองนี้ว่า"คลองลัดเกร็ดน้อย" ต่อมากระแสน้ำได้เปลี่ยนทิศทาง
ทำให้คลองขยายกว้างขึ้นเพราะถูกความแรงของกระแสน้ำเซาะตลิ่งพัง
จึงกลายเป็นแม่น้ำและเกาะเกร็ดมีสภาพเป็นเกาะเช่นปัจจุบัน
|
|
-----------------------------------------------------------------
วัดปรมัยยิกาวาส
|
ตั้งอยู่ตำบลเกาะเกร็ด
เยื้องท่าเรือสุขาภิบาลปากเกร็ดไปทางใต้ประมาณ 1 กม.
และอยู่ตรงข้ามกับท่าเรือ วัดสนามเหนือเป็นพระอารามหลวงชั้นโทชนิดราชวรวิหาร
สร้างแบบรามัญ เดิมวัดนี้เป็นวัดเก่าชื่อวัดปากอ่าว ในสมัยรัชกาลที่ 5
ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ใหม่ทั้งวัดและโปรดให้สร้างพระเจดีย์รามัญ
บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระราชทานนามวัดปรมัยยิกาวาส
เนื่องจากศิลปการสร้างมีลักษณะแบบมอญ พระเจดีย์ทุกองค์สร้างแบบมอญ
และพระพุทธรูปพระประธานในโบสถ์สลักด้วยหินอ่อนแบบมอญด้วย จึงเรียกกันว่า
"วัดมอญ" ภายในวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง
และบานประตูหน้าต่างโบสถ์ประดับลายปูนปั้นสวยงาม |
|
-----------------------------------------------------------------
ศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ |
ตั้งอยู่ที่ด้านซ้ายของวัดปรมัยยิกาวาส
ห่างจากวัดประมาณ 100 เมตร เป็นสถานที่แสดง
ภาชนะเครื่องปั้นดินเผาแบบรามัญรูปทรงต่าง ๆ ฝีมือประณีตสวยงามเช่น หม้อน้ำ
นอกจากนี้ยังมีการแสดงวิธีการปั้นและจำหน่ายสินค้าเครื่องปั้นดินเผาด้วย
เปิดให้ชมทุกวัน |
|
-----------------------------------------------------------------
หมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา
|
ตั้งอยู่บริเวณสองข้างทางเดินรอบเกาะเกร็ดทั้งด้านซ้าย
และด้านขวาของวัดปรมัยยิกาวาส
เป็นหมู่บ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผาภาชนะของใช้ในชีวิตประจำวัน แบบมอญ
และจำหน่ายสินค้าที่ระลึก เช่น กระถาง ครก โอ่งน้ำ ฯลฯ
แหล่งใหญ่และเก่าแก่ของจังหวัดนนทบุรี สามารถจะชมขั้นตอนต่าง ๆ
ในการทำเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่การเตรียมดินจนถึงวิธีการนำเข้าเตาเผา |
|
-----------------------------------------------------------------
วัดเสาธงทอง
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะเกร็ด
เป็นวัดโบราณเดิมชื่อ วัดสวนหมาก ศิลปสมัยอยุธยา ที่มีเจดีย์
ย่อมุมสิบสองขนาดใหญ่อยู่หลังโบสถ์ เป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในเขตอำเภอปากเกร็ด
ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีเจดีย์องค์เล็กเป็นเจดีย์ บริวารโดยรอบอีก
2 ชั้น ด้านข้างโบสถ์มีเจดีย์องค์ใหญ่อีก 2 องค์
องค์หนึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังกลมอีกองค์หนึ่งมีรูปแปลกมีฐานเหลี่ยม
องค์ระฆังทำเป็นทรงกลมสูง ภายในโบสถ์มีลายเพดานสวยงามมาก เป็นลายทองเขียนลาย
กรวยเชิงอย่างงามพระประธานเป็นพระปางมารวิชัย ปูนปั้น
ขนาดใหญ่องค์หนึ่งในจังหวัดนนทบุรี คนมอญเรียก วัดนี้ว่า "เพ๊ยะอาล๊าต"
|
|
-----------------------------------------------------------------
วัดแสงสิริธรรม
|
เดิมชาวบ้านเรียกว่า
"วัดขวิด" ตั้งอยู่ที่ บ้านลาดสิงห์ ต.ท่าอิฐ
ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ห่างถนนรัตนาธิเบศร์เพียง 3 กม.เศษๆ
ช่วงระหว่างสี่แยกบางบัวทองกับสะพานพระนั่งเกล้า เส้นทางรถยนต์
เข้าทางซอยท่าอิฐ จนสิ้นสุดรถเมล์สาย 18 และเข้าไปอีกเล็กน้อยนประมาณ 1.5 กม.
สร้างเมื่อ พ.ศ. 2327
ตรงกับตอนต้นรัชสมัยพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พร้อมกับการสร้าง กรุงเทพมหานคร
แต่เมื่อพิจารณาดูดโบราณสถานรอบวัด เช่น พระอุโบสถหลังเก่า และใบเสมาหิน
สันนิษฐานว่าจะมีวัดมาตั่งแต่สมัยอยุธยา เรียกว่า "วัดขวิด"
|
|
ต่อมาใน
พ.ศ. 2334 ในสมัย ร.1 วัดขวิดได้รับพระราชทานวิสุงคามวาสี และเปลี่ยนชื่อเป็น
"วัดแสงสิริธรรม" ตั้งแต่นั้นมา ต่อมาเมื่อวัดได้ชำรุดลงเจ้าสัวเนียม
พ่อค้าเชื้อสายจีนจากบางกอก ได้มาเป็นแม่กองคุมการเผาอิฐ
เพื่อนำไปสร้างศาสนสถานทั่วพระนคร
จึงได้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ครั้งนี้ได้บูรณธพระอุโบสถ (หลังเก่าที่มีมาแต่สมัยอยุธยา ได้บูรณะในสมัย
ร.1) ได้ประดับปูนปั้นแบบจีนตามประตู หน้าต่างพระอุโบสถ
ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยนั้น การบูรณะมีขึ้นเมื่อ พ.ศ.2388 ในรัชสมัยร.3
นอกจากนี้มีการสร้างพระเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
โบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่
พระอุโบสถหลังเก่า ซึ่งปัจจุบันร้างและอยู่ในสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมมาก
(เจ้าอาวาสบอกกับThai-Tour.com ว่า ปัจจุบัน
ทางกรมศิลปากรได้เข้ามารับผิดชอบแล้ว ส่วนตัวแล้วผมยังไม่อยากให้บูรณะเลย
เพราะของเก่าดูขลังและมีคุณค่ามากกว่า)
ลักษณะทางสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะอยุธยาตอนปลายและรัตนโกสินทร์ตอนต้น
ภายในพระอุโบสถมีภาพจิตรกรรมลบเลือนไปมากแล้ว อาคารไม้ยังคงเหลือสภาพสมบูรณ์อยู่บ้าง ได้แก่ กุฎิเรือนไม้สักทรงไทยเดิม 1
หลังโบราณวัตถุที่สำคัญ ได้แก่
ใบเสมาเป็นหินทรายแดง, พระประธานหน้าตักกว้าง 2.75 เมตร
เป็นปูนปั้นลงรักปิดทอง ทั่งสองอย่าง
เป็นศิลปะสมัยอยุธยาตอนปลาย,
พระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ได้แก่ พระพุทธรูปประทับยืน ปางห้ามพยาธิ 2
องค์ หล่อด้วยสัมฤทธิ์ มีขนาดสูง 2 เมตร
พระพุทธรูปทที่เป็นที่นับถืออย่างมากในวัดได้แก่
-
พระพุทธรูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย
ขนาด 48 ซ.ม. หล่อด้วยสัมฤทธิ์ และลงรักปิดทอง ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อดำ"
เคยสูญหายและถูกขโมยไปหลายครั้งแล้วแต่ก็ได้คืนทุกครั้ง ทำให้เชื่อว่า
หลวงพ่อดำ เป็นพระทรงฤทธานุภาพ
-
พระปางสมาธิขนาดใกล้เคียงกับหลวงพ่อดำ
เชื่อกันว่าแกะสลักด้วยไม้แล้วลงรักแดง จึงเรียกว่า "หลวงพ่อแดง"
|
-----------------------------------------------------------------
วัดชลประทานรังสฤษดิ์ |
ตั้งอยู่ที่ตำบลบางตลาด
อำเภอปากเกร็ด ริมถนนสายนนทบุรี- ห้าแยกปากเกร็ด
เป็นวัดใหม่ที่มีศิลปการสร้าง อย่างงดงาม ภายในวัดมีความกว้างขวางร่มรื่น
ภายใต้หมู่ไม้นานาพันธุ์ที่ปลูกไว้ทั่วบริเวณ
จึงเป็นสถานเผยแพร่และเหมาะแก่การศึกษาพระธรรมอย่างยิ่ง
นอกจากนั้นยังมีลานไผ่เอนกประสงค์ ซึ่งชาวพุทธโดยทั่วไป
จะมารวมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อประกอบ พิธีกรรมทางศาสนา
และฟังธรรมจากพระเทพวิสุทธิเมธี (ปัญญานันทภิกขุ) เจ้าอาวาส
ในทุกวันอาทิตย์และวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา |
|
|
|