อันที่จริงแล้ว
ผมควรเริ่มบรรยายเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวชอบไปกันบนเขาใหญ่เลย
แต่ผมมีข้อมูลเบื้องต้นอันเป็นประโยชน์มากๆ
ให้ได้อ่านกันก่อนเที่ยวเขาใหญ่ครับ
ผมเคยทำลิงก์ไว้ให้อ่านกันมาหลายปีแต่ไม่ค่อยมีใครคลิกและศึกษาข้อมูลนี้ก่อนเดินทางเที่ยวเลย
เริ่มเลยแล้วกัน
เราควรรู้จักสภาพภูมิประเทศของเขาใหญ่ก่อนว่าเป็นอย่างไร
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นพื้นที่ด้านตะวันตกของเทือกเขาพนมดงรัก
ซึ่งสูงโดดเด่นขึ้นมาจากที่ราบภาคกลางแล้วก่อตัวเป็นแนวเขตของที่ราบสูงโคราช
มีเขาร่มเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด 1,351 เมตร เขาแหลมสูง
1,326 เมตร เขาเขียวสูง 1,292 เมตร เขาสามยอดสูง 1,142
เมตร เขาฟ้าผ่าสูง 1,078 เมตร เขากำแพงสูง 875 เมตร
เขาสมอปูนสูง 805 เมตร และเขาแก้วสูง 802 เมตร
ซึ่งวัดความสูงจากระดับน้ำทะเลเป็นเกณฑ์
และยังประกอบด้วยทุ่งกว้างสลับกับป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์
ด้านทิศเหนือและตะวันออกพื้นที่จะลาดลง
ทางทิศใต้และตะวันตกเป็นที่สูงชันไปเรื่อยๆ
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งกำเนิดต้นน้ำลำธารที่สำคัญถึง 5
สาย ได้แก่ แม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก
อยู่ในพื้นที่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
ซึ่งมีความสำคัญต่อการเกษตรกรรมและระบบทางเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาคนี้
แม่น้ำทั้ง 2 สายนี้ มาบรรจบกันที่จังหวัดฉะเชิงเทรา
กลายเป็นแม่น้ำบางปะกงแล้วไหลลงสู่อ่าวไทย
แม่น้ำลำตะคองและแม่น้ำพระเพลิง
อยู่ในพื้นที่ทางทิศเหนือ
ไหลไปหล่อเลี้ยงพื้นที่เกษตรกรรมของที่ราบสูงโคราช
ไปบรรจบกับแม่น้ำมูลซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของภาคอีสานตอนล่างไหลลงสู่แม่น้ำโขง
ห้วยมวกเหล็ก อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
มีปริมาณน้ำไหลตลอดทั้งปีและให้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร
โดยเฉพาะการปศุสัตว์ของภูมิภาคนี้
ไหลลงสู่แม่น้ำป่าสัก ที่อำเภอมวกเหล็ก
เมื่ออ่านมาถึงตอนี้
คงทราบแล้วว่าเขาใหญ่นี้ใหญ่จริงๆสมชื่อ
มีภูเขาสูงหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำสายสำคัญๆ
หลายสาย เป็นป่าต้นน้ำชั้นยอดเลย
แหล่งท่องเที่ยวก็หนีไม่พ้น น้ำตกต่างๆ
ซึ่งผมเองก็เที่ยวไม่ครบหมดทุกน้ำตกเหมือนกัน
บางแห่งอยู่ในป่าลึกมากๆ
เขาใหญ่ปัจจุบันได้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติอีกแห่ง
หลังจากที่ผนวกอุทยานแห่งชาติที่ใกล้เคียงเข้าไปด้วยจึงได้รับรางวัลนี้
น่าภาคภูมิใจไปอีกแบบ
ผมเคยได้ฟังรายการวิทยุ
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออกมาพูดเกี่ยวกับรางวัลมรดกโลกของเขาใหญ่นี้เหมือนกัน
จริงๆ
แล้วก็เป็นเพียงค่านิยมในการทำการตลาดให้คนรู้จักและเชื่อถือมากขึ้นเพื่อที่มาเที่ยวเท่านั้น
ทางUnesco
ไม่ได้เข้ามาจัดการอะไรให้กับเรา
ซึ่งประเด็นที่น่าเป็นห่วงอีกประเด็นคือ
การจัดการกับรถของนักท่องเที่ยวที่ขึ้นมาบนเขาใหญ่ในฤดูท่องเที่ยว
ทางอุทยานฯไม่ที่จอดรองรับรถยนต์ที่มากมายได้มากนัก
หากใครเคยไปช่วงเวลาดังกล่าวอาจเคยประสบมาบ้าง คือ
รถจอดกันริมทางเต็มไปหมด ผลคือขยะตามมา
การใช้น้ำก็แย่งกัน ดูไม่เป็นระบบ
แต่ดูเหมือนว่าทางอุทยานฯกำลังจะหามาตการต่างๆเพื่อแก้ไขอยู่
อาจเป็นการห้ามนำรถขึ้นแล้วใช้บริการรถสาธารณะแทน ฯลฯ
หากท่านมีความคิดเห็นประการใด
สามารถโพสท์มาในกระทู้นี้ได้เลย
กระทู้เขาใหญ่ |
ลักษณะภูมิอากาศ
ด้วยสภาพป่าที่รกทึบและได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม
ทำให้เกิดฝนตกชุกตามฤดูกาล
อากาศไม่ร้อนจัดและหนาวจัดจนเกินไป
จัดอยู่ในประเภทเย็นสบายตลอดทั้งปี
เหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวและประกอบกิจกรรมนันทนาการชนิดต่างๆ
อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 23 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าวกว่าในที่อื่น
แต่ที่เขาสูงบนเขาใหญ่อากาศเย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน
เล่นน้ำในลำธารและนำอาหารไปรับประทาน
ไม้ป่ามีดอกหลากสีบานสะพรั่งบ้างออกผลตามฤดูกาล
ฤดูฝน เป็นช่วงหนึ่งของปีที่สภาพบนเขาใหญ่ชุ่มฉ่ำ
ป่าไม้ทุ่งหญ้าเขียวขจีสดสวย
น้ำตกทุกแห่งไหลแรงส่งเสียงดังก้องป่าให้ชีวิตชีวาแก่ผู้ไปเยือน
แม้การเดินทางจะลำบากกว่าปกติแต่จำนวนนักท่องเที่ยวก็ไม่ลดน้อยลงเลย
ฤดูหนาว ในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธ์
เป็นฤดูที่นิยมไปเขาใหญ่มากที่สุด
ท้องฟ้าสีครามแจ่มใสตัดกับสีเขียวขจีของป่าไม้
พยับหมอกที่ลอยเอื่อยไปตามทิวเขา
ดวงอาทิตย์กลมโตอยู่เบื้องหน้าไกลโพ้น
อากาศหนาวเย็นในเวลากลางคืน
แต่รุ่งเช้าของวันใหม่จะพบกับธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างไปจากเมื่อวานอีกแบบหนึ่ง
เมื่ออ่านมาถึงตอนนี้
คงพอเดาออกว่า ล่องแก่งได้เมื่อเริ่มฤดูฝนได้สักพัก
มิถุนายน ถึง ตุลาคม มีล่องแก่งหินเพิง ที่อยูแถว
อ.นาดี จ.นครราชสีมา
(ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเขาใหญ่) ค่อนไปทาง
อุทยานแห่งชาติทับลาน เที่ยวได้ทุกฤดู กล่าวคือ
ฤดูฝนเหมาะแก่การล่องแก่ง ฤดูร้อน เที่ยวเล่นน้ำตก
เพราะเป็นป่าต้นน้ำมีน้ำตลอดปี ฤดูหนาวไม่ต้องพูดถึง
นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาว
ที่พักจะเต็มยาวข้ามปี |
พืชพรรณและสัตว์ป่า
สภาพป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แบ่งออกๆได้เป็น
ป่าเบญจพรรณ ป่าดงดิบแล้ง ป่าดงดิบชื้น ป่าดิบเขา
ทุ่งหญ้า และป่ารุ่นหรือป่าเหล่า
ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ป่าเบญจพรรณแล้ง
ลักษณะของป่าชนิดนี้อยู่ทางด้านทิศเหนือ
ซึ่งมีระดับความสูงระหว่าง 200-600 เมตร
จากระดับน้ำทะเล ประกอบด้วยไม้ยืนต้นประเภทผลัดใบ เช่น
มะค่าโมง ประดู่ ตะแบก ตะเคียนหนู แดง นนทรี ซ้อ
ปออีเก้ง สมอพิเภก ตะคล้ำ เป็นต้น
พืชชั้นล่างมีไม้ไผ่และหญ้าต่างๆ รวมทั้งกล้วยไม้ด้วย
ในฤดูแล้งป่าชนิดนี้จะมีไฟลุกลามเสมอ
และตามพื้นป่าจะมีหินปูนผุดขึ้นอยู่ทั่วๆ ไป
ป่าดงดิบแล้ง ลักษณะป่าชนิดนี้มีอยู่ทางทิศตะวันออก
ซึ่งเป็นที่ราบลูกเนินในระดับความสูง 200-600
เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ไม้ชั้นบน ได้แก่ ยางนา
พันจำ เคี่ยมคะนอง ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ตะแบก สมพง
สองสลึง มะค่าโมง ปออีเก้ง สะตอ ซาก และคอแลน เป็นต้น
ไม้ยืนต้นชั้นรองมี กะเบากลัก หลวงขี้อาย และกัดลิ้น
เป็นต้น พืชจำพวกปาล์ม เช่น หมากลิง และลาน
พืชชั้นล่างประกอบด้วยพืชจำพวกมะพร้าว นกคุ้ม พวกขิง
ข่า กล้วยป่า และเตย เป็นต้น
ป่าดงดิบชื้น
ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นป่าที่อยู่ในระดับความสูง
400-1,000 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง
จะมีชนิดไม้คล้ายคลึงกับป่าดงดิบแล้ง
เพียงแต่ว่าไม้วงศ์ยางขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก เช่น
ยางกล่อง ยางขน ยางเสี้ยน และกระบาก
โดยเฉพาะพื้นที่ถูกรบกวนจะพบ
ชมพูป่าและกระทุ่มน้ำขึ้นอยู่ทั่วไป พรรณไม้ผลัดใบ
เช่น ปออีเก้ง สมพง และกว้าว แทบจะไม่พบเลย
บริเวณริมลำธารมักจะมีไผ่ลำใหญ่ๆ คือ
ไผ่ลำมะลอกขึ้นอยู่เป็นกลุ่ม
ป่าดิบชื้นบนที่สูงขึ้นไปจะมียางปายและยางควน
นอกจากไม้ยางแล้วไม้ชั้นบนชนิดอื่นๆ ยังมี เคี่ยมคะนอง
ปรก บรมือ จำปีป่า พะดง และทะโล้ ไม้ชั้นรอง ได้แก่
ก่อน้ำ ก่อรัก ก่อด่าง และก่อเดือย ขึ้นปะปนกัน
ป่าดิบเขา
ป่าชนิดนี้เกิดอยู่ในที่ที่มีอากาศเย็นบนภูเขาสูง
ที่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,000 เมตรขึ้นไป
สภาพป่าแตกต่างไปจากป่าดงดิบชื้นอย่างเห็นได้ชัด
ไม่มีไม้วงศ์ยางขึ้นอยู่เลย
พรรณไม้ที่พบเป็นไม้เนื้ออ่อน เช่น พญาไม้ มะขามป้อมดง
ขุนไม้ และสนสามพันปี และไม้ก่อชนิดต่างๆ
ที่พบขึ้นในป่าดงดิบชื้น นอกจากก่อน้ำและก่อต่างๆ
ความสูงจากระดับน้ำทะเล 600-900 เมตรเท่านั้น
ตามเขาสูงจะพบต้นกำลังเสือโคร่งขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
ไม้ชั้นรอง ได้แก่ เก็ดล้าน ส้มแปะ แกนมอ เพลาจังหัน
และหว้า พืชชั้นล่าง ได้แก่ ต้างผา กำลังกาสาตัวผู้
กูด และกล้วยไม้ดิน
ทุ่งหญ้าและป่ารุ่นหรือป่าเหล่า
ลักษณะป่าชนิดนี้เป็นผลเสียเนื่องจากการทำไร่เลื่อนลอยในอดีต
ก่อนมีการจัดตั้งป่าเขาใหญ่เป็นอุทยานแห่งชาติได้มีราษฎรอาศัยอยู่และได้แผ้วถางป่าทำไร่
เมื่อมีการอพยพราษฎรลงไปสู่ที่ราบ
บริเวณไร่ดังกล่าวถูกปล่อยทิ้ง
ต่อมามีสภาพเป็นทุ่งหญ้าคาเสียส่วนใหญ่
บางแห่งมีหญ้าแขม หญ้าพง หญ้าขนตาช้างเลา และตองกง
และยังมีกูดชนิดต่างๆ ขึ้นปะปนอยู่ด้วย เช่น โขนใหญ่
กูดปี้ด โขนผี กูดงอดแงด และกูดตีนกวาง
เนื่องจากในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มีการป้องกันไฟป่าเป็นอย่างดี
พื้นที่ป่าหญ้าหรือป่าเหล่านี้จึงไม่ถูกรบกวนจากไฟป่าเลย
ดังนั้น จึงมีพันธุ์ไม้เบิกนำจำนวนไม่น้อย
แพร่พันธุ์กระจัดกระจายทั่วไป เช่น สอยดาว บรมือ
ลำพูป่า เลี่ยน ปอหู ตลงแตบ ฯลฯ
ปัจจุบันพื้นที่ป่าทุ่งหญ้าบางแห่งได้กลับฟื้นคืนสภาพเป็นป่าละเมาะบ้างแล้ว
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นแหล่งที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมาก
ในบางโอกาสขณะขับรถยนต์ไปตามถนน
จะสามารถเห็นสัตว์ป่าเดินผ่านหรือออกหากินตามทุ่งหญ้า
หรืออาจจะเห็นโขลงช้างออกหากินริมถนน ลูกช้างเล็กๆ
ซนและน่ารักมาก บริเวณตั้งแต่ที่ชมวิวกิโลเมตรที่ 30
จนถึงปากทางเข้าหนองผักชี ตลอดจนโป่งต้นไทร
ในปัจจุบันถ้าขับรถยนต์ขึ้นเขาใหญ่ทางด่านตรวจเนินหอมข้ามสะพานคลองสามสิบไปแล้ว
สามารถเห็นโขลงช้างได้เหมือนกัน
โดยเฉพาะในตอนกลางคืนจากการศึกษาตามโครงการการอนุรักษ์ช้างป่า
และการจัดการพื้นที่ป้องกัน (ELEPHANT CONSERVATION
AND PROTECTED AREA MANAGMENT) โดย MR. ROBERT J.
DOBIAS ภายใต้ความร่วมมือของ WWF และ IUCN ในปี
พ.ศ.2527-2528 พบว่า มีจำนวนประมาณ 250 เชือก
สัตว์ป่าที่สามารถพบได้บ่อยๆ และตามโอกาสอำนวย ได้แก่
เก้ง กวาง ตามทุ่งหญ้าทั่วๆ ไป นอกจากนี้ยังพบ
เสือโคร่ง กระทิง เลียงผา หมี เม่น ชะนี พญากระรอก
หมาไม้ ชะมด อีเห็น กระต่ายป่า นกชนิดต่างๆ จำนวน 250
ชนิด จากจำนวนไม่น้อยกว่า 340 ชนิด
ที่สำรวจพบอาศัยอยู่บริเวณป่าเขาใหญ่ซึ่งเป็นแหล่งหาอาหารและที่อาศัยอย่างถาวร
นกที่น่าสนใจและพบเห็นได้บ่อย ได้แก่ นกเงือก นกขุนทอง
นกขุนแผน นกพญาไฟ นกแต้วแล้ว นกโพระดก นกแซงแซว นกเขา
นกกระปูด ไก่ฟ้า และนกกินแมลงชนิดต่างๆ นกเงือกทั้ง 4
ชนิด ซึ่งได้แก่ นกกก นกเงือกกรามช้าง นกแก๊ก
และนกเงือกสีน้ำตาล
ที่พบบนเขาใหญ่นับว่าเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักดูนกเป็นอย่างดี
เพราะพบเห็นได้ทั่วไป พวกแมลงที่มีมากกว่า 5,000 ชนิด
ที่สวยงามและพบเห็นบ่อยได้แก่ ผีเสื้อ มีรายงานพบกว่า
216 ชนิด
กวาง เก้ง ช้างป่า
นักท่องเที่ยวสามาถพบเห็นได้ไม่ยาก ดังตัวอย่างโขลงช้างที่ผมเห็นอยู่หลายตัว
(ผมเรียกว่า"ตัว"
ถูกต้องแล้ว ไม่ได้เรียกว่า"เชือก"
เพราะไม่ใช้ช้างเลี้ยง ยังไม่ได้ผ่านการคล้องเชือก
ตามวิถีคล้องช้างในสมัยโบราณ)
(คลิก
ดูวีดีโอช้างป่า)
นกเงือกชุกชุมมากที่นี่
ผมเองระหว่างทางเดินไปน้ำตกเหวสุวัตก็พบอยู่ 2-3 ตัว
แต่ถ่ายรูปมาไม่ชัดจึงไม่ได้เอามาอวด (กลัวเสียชื่อ)
กล้วยไม้ป่า
พบได้มากที่เขาใหญ่
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเรื่องกล้วยไม้
อ่านกระทู้กล้วยไม้
กันหน่อย
ผมยังมีภาพกล้วยไม้อีกมาก
แต่ยังไม่มีเวลามาโพสท์ต่อให้เลย... |
|