|
วัดป่าโมก,
อ่างทอง
วัดป่าโมกวรวิหาร |
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของ
ประเทศไทย สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น
มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท ประมาณ12วา ( 22.58 เมตร)
ก่ออิฐถือปูนปิดทอง ไม่ปรากฏหลักฐานการสร้าง และผู้สร้าง
แต่มีในพระราชพงศาวดารในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
ว่าพระองค์ก่อนจะยกทัพไปรบ กับพระมหาอุปราชได้เสด็จมาชุมนุมพล
และถวายสักการะ บูชาก่อนยกทัพไปตีพม่า
และในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ประมาณปี พ.ศ. 2269
ว่าวิหารที่ประดิษฐาน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยานั้น กระแสน้ำได้กัดเซาะตลิ่ง
จนเกือบถึงพระวิหาร
|
|
พระเจ้าท้ายสระจึงโปรดฯให้
ทำการชลอพระพุทธรูปให้ห่างออกจากริมแม่น้ำ
ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่และยากลำบากมาก ได้มอบหมายให้พระยาราชสงครามเป็นเจ้างาน
และได้เสด็จมาควบคุมการชะลอองค์พระ ให้พ้นจาก
กระแสน้ำเซาะตลิ่งพังไปไว้ยังวิหารใหม ่ที่วัดตลาดห่างจากฝั่งแม่น้ำ 168
เมตร ได้ในปีพ.ศ.2275 แล้วโปรดให้รวม วัดตลาดกับวัดชีปะขาวเป็นวัดเดียวกัน
พระราชทานนามว่าวัดป่าโมกเพรา ะบริเวณนั้นมีต้นโมกมากมาย
แต่ยังไม่ได้ทันได้ฉลองก็สิ้นรัชกาลเสียก่อน
และได้ทำการฉลองในสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ซึ่งเป็นรัชกาลต่อมา
ซึ่งมีโคลงพระราชนิพนธ์ของพระองค์ใน สมัยเป้นกรมพระราชวังบวร
เรื่องการชะลอพระพุทธไสยาสน์ปรากฏอยู่ในพระวิหารด้วย
และมาปรากฏในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5
แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ว่า มีเรื่องโจษจันกันว่า พระนอน วัดป่าโมกข์พูดได้
โดยมีพยานทั้งพระและฆราวาส ความถึงพระเนตรพระกรรณ พระองค์พร้อมด้วย
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯจึงได้เสด็จพระราชดำเนินมานมัสการ องค์พระนอน
ในสิ่งที่น่าสนใจในวัดนี้มีมากมาย อาทิ พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ วิหารเขียน
มณฑปพระพุทธบาท 4 รอย พระเจดีย์ อนุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
สมเด็จพระเอกาทศรถ วังมัจฉา เป็นต้น ทางวัดจัดให้มีงาน นมัสการพระนอน
วัดป่าโมกข์ ประจำปี 2ครั้ง คือวันขึ้น 14 ค่ำ ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 4 และ
วันขึ้น 12 ค่ำ ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 11 |
|
|
|
|
|