|
ศาลหลักเมือง, อ่างทอง
ศาลหลักเมือง |
ศาลหลักเมือง เป็นหลักชัยและหลักใจของประชาชน
เป็นศูนย์รวมแห่งความร่วมมือร่วมใจกันด้วยความศรัทธาความสามัคคี
ศาลหลักเมืองเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นสถานที่สิงสถิตของเทพารักษ์
พระเสื้อเมือง และพระทรงเมือง ซึ่งจะปกป้องรักษาและปัดเป่าภัยพิบัติต่าง ๆ
เพื่อให้บ้านเมืองมีความเจริญรุ่งเรืองและประชาชนอยู่ร่มเย็นเป็นสุข
ในจังหวัดหนึ่ง ๆ มีศาลหลักเมืองเพียงแห่งเดียว
การสร้างศาลหลักเมืองจะต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ก่อนจะดำเนินการสร้างได้
จังหวัดอ่างทอง เป็นจังหวัดที่เก่าแก่จังหวัดหนึ่ง
จากหลักฐานทางโบราณคดีสันนิษฐานว่ามีชุมชนอาศัยอยู่แต่สมัยทวารวดี
แต่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาในสมัย พระมหาธรรมราชา
เมื่อประมาณปีพุทธศักราช 2127 กล่าวถึงแขวงเมืองวิเศษชัยชาญ
ตัวเมืองตั้งอยู่ริมแม่น้ำน้อยในสมัยกรุงธนบุรีได้ย้ายเมืองมาตั้งอยู่ริมฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา
ต่อมาในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประมาณปีพุทธศักราช 2359
ได้ย้ายตัวเมืองอีกครั้งหนึ่ง
มาตั้งอยู่ริมฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยาจนถึงปัจจุบัน
และได้เปลี่ยนชื่อเป็นเมืองอ่างทอง พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เตชะคุปต์)
สมุหเทศาภิบาล มณฑลอยุธยา ได้ให้ความเห็นไว้ว่าน่าจะมาจากชื่อ บางทองคำ
และ แม่น้ำประคำทอง ซึ่งอยู่ในบริเวณที่ตั้งศาลากลางจังหวัดในปัจจุบัน
แต่ก็มีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเพราะเมืองตั้งอยู่ในที่ลุ่มมีลักษณะคล้ายอ่างและเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ
มีพืชพันธุ์ธัญญาหารอุดมสมบูรณ์จึงถือเป็นเมืองเงินเมืองทอง
|
|
จากประวัติศาสตร์ปรากฏว่าได้มีการย้ายที่ตั้งเมืองถึง 3 ครั้ง
แต่ไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่า ได้มีการสร้างศาลหลักเมืองไว้ ณ ที่ใด
ดังนั้น เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมิ่งขวัญ เป็นหลักชัย
และหลักใจของประชาชนชาวจังหวัดอ่างทอง คณะสงฆ์ ข้าราชการ พ่อค้าและประชาชน
จึงได้ร่วมกันจัดหาทุนสร้างศาลหลักเมืองขึ้นโดย สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ทรงพระกรุราเสด็จไปทรงเป็นประธานวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 18 มีนาคม
พุทธศักราช 2533
บัดนี้การก่อสร้างศาลหลักเมืองได้เสร็จเรียบร้อยแล้วเป็นตัวอาคารจัตุรมุข
ยอดปรางค์ หลักคา 2 ชั้น ตั้งอยู่บริเวณตรงข้ามศาลากลางจังหวัด
ซึ่งอยู่ใจกลางเมือง องค์เสาหลักเมืองทำด้วยไม้ชัยพฤกษ์
บัดนี้ ได้เวลาอันเป็นมหามงคลแล้ว
ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทางอัญเชิญใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระสุหร่าย
ทรงเจิม และทรงบรรจุแผ่นยันต์ในยอดเสาหลักเมือง
เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกรชาวจังหวัดอ่างทองสืบไป
|
ข้อมูลจาก
http://www.angthongnews.com |
|
|
|
|