|
อำเภอบ้านหมี่,
ลพบุรี
วัดเขาวงกต |
ตั้งอยู่ที่เชิงเขาสนามแจง
ตำบลสนามแจง
ห่างจากตัวอำเภอบ้านหมี่
ประมาณ 4 กม.
เป็นวัดที่อยู่ในวงล้อมของภูเขาสามด้าน
บริเวณกว้างขวางถึง 30
ไร่
บนไหล่เขาด้านทิศตะวันตกมีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่
ถัดลงมามีศาลาเก็บศพหลวงพ่อเจริญ
ดิสสวัณโณ
อดีตเจ้าอาวาส
ซึ่งมรณภาพไปแล้วตั้งแต่
พ.ศ. 2506
แต่ศพไม่เน่าเปื่อย
หน้าวัดมีเจดีย์สร้างอยู่บนเรือสำเภา
อนุสรณ์ของหลวงพ่อเภาผู้สร้างวัดนี้
สิ่งที่น่าสนใจมากคือ
ถ้ำค้างคาว
ซึ่งอยู่บนไหล่เขาเหนือพระอุโบสถ
นับว่าเป็นถ้ำค้างคาวที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดลพบุรี
ภายในถ้ำมีค้างคาวนับล้านๆ
ตัวรายได้จากค่ามูลค้างคาวที่เข้าวัดแต่ละปีเป็นเงินหลายหมื่นบาท
ทุกวันตั้งแต่เวลาประมาณ
18.30 น.
ค้างคาวจะพากันบินออกจากปากถ้ำไปหากิน
ยาวเป็นสายคล้ายควันไฟ
การบินออกหากินนี้จะติดต่อกันไปไม่หยุดจนกระทั่งถึงเวลาประมาณ
22.00 น.
และจะเริ่มกลับเข้าถ้ำตั้งแต่เวลาประมาณ
03.00 น. จนถึงประมาณ 06.00 น.
จึงจะหมด
|
-----------------------------------------------------------------
วัดธรรมิการาม
(วัดค้างคาว) |
ตั้งอยู่ริมลำน้ำบาง
ฝั่งตะวันตก ตำบลบางขาม
เหตุที่ชื่อวัดค้างคาวเพราะว่าเดิมมีค้างคาวอาศัยอยู่มากปัจจุบันไม่มีแล้ว
และได้เปลี่ยนชื่อใหม่ว่า
"วัดธรรมิการาม"
วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่อยู่ริมฝั่งคลองในหมู่ไม้ร่มรื่น
สามารถเข้าได้ 2 ทาง
ทางรถเข้าได้จากบริเวณใกล้ทางเข้าวัดไลย์(อำเภอท่าวุ้ง)
ทางเท้าเข้าผ่านหมู่บ้านเดินข้ามสะพานไม้เข้าไป
ซึ่งบรรยากาศดีมาก
ในวัดมีวิหารเก่า
มีจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างพื้นบ้าน
ศาลาการเปรียญและศาลาท่าน้ำมีลวดลายฉลุไม้ประดับและสิ่งที่น่าชมของวัดนี้คือ
มีภาพเขียนที่ผนังโบสถ์
ซึ่งเป็นภาพเขียนเรื่องพุทธประวัติทั้ง
4 ด้าน
ลักษณะของภาพเขียนมีลักษณะแบบตะวันตกเข้ามาปนบ้างแล้ว
เช่น การแรเงาต้นไม้
และอื่นๆ
เป็นภาพเขียนในสมัยรัชกาลที่
4 ผีมือช่างพื้นบ้าน
แต่งามกว่าที่วิหาร |
----------------------------------------------------------------
วัดกัทลีพนาราม
(วัดบ้านกล้วย)
|
อยู่ห่างจากตลาดบ้านหมี่
ตามถนนสายบ้านหมี่-โคกสำโรง
ประมาณ 2 กม.
อยู่ในเขตตำบลบ้านกล้วย
อำเภอบ้านหมี่เดิมชื่อว่า
"วัดบ้านกล้วย"
ต่อมาวัดนี้เปลี่ยนชื่อเป็น
"วัดกัทลีพนาราม"
สิ่งที่น่าสนใจของวัดนี้
คือ
มีพระอุโบสถขนาดใหญ่แบบจตุรมุขที่สวยงาม
เป็นวัดสำคัญของชุมชนชาวไทยพวน
อำเภอบ้านหมี่
นอกจากโบสถ์ทรงจตุรมุขซึ่งสร้างใหม่แล้ว
ยังมีวิหารเก่าแก่หลังเล็กและเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสอง
รูปทรงงดงามทั้งสองสิ่ง
ศาลาการเปรียญมีลวดลายฉลุไม้ตกแต่งสวยงาม
ภายในมีธรรมาสน์เก่าและประดับเครื่องแทนเป็นพุทธบูชาแบบของชาวไทยพวน
คือ "ธงแว่น" หลายพวง
|
|
----------------------------------------------------------------
วัดเชียงงา
|
ตั้งอยู่เหนือตัวตลาดบ้านหมี่ขึ้นไปเล็กน้อย
ตำบลเชียงงา
อำเภอบ้านหมี่
วัดนี้คาดว่าคงจะสร้างขึ้นตั้งแต่ครั้งที่ชาวพวนได้อพยพมาตั้งหลักแหล่งที่ตำบลนี้
สถานที่น่าสนใจของวัดนี้คือเจดีย์เก่าองค์หนึ่ง
ซึ่งลักษณะคล้ายกับเจดีย์ทางภาคเหนือของไทย
คือ
มีฐานย่อมุมซ้อนหลายชั้นองค์ระฆังเล็กสั้นแจ้
มีลวดลายรัดอกรอบองค์ระฆัง
ไม่มีบัลลังก์
ปลียอดรูปดอกบัวทรงผอมสูง
บนยอดสุดปักฉัตรโลหะปิดทองฉลุลาย
เจดีย์ทรงมอญทั่วไป
ฐานจะแผ่กว้างทรงแจ้
แต่เจดีย์ที่วัดเชียงงานี้ทรงชะลูดสูง
ดูแปลกตา |
----------------------------------------------------------------
บ้านกล้วย
(ทอผ้ามัดหมี่) |
ตั้งอยู่ในเขตตำบลบ้านกล้วย
อำเภอบ้านหมี่
ห่างจากตลาดบ้านหมี่เข้าไปตามถนนสายบ้านหมี่-โคกสำโรง
ประมาณ 2 กิโลเมตร
เป็นชุมชนชาวไทยพวน
ตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 135
ปีมาแล้ว
บ้านกล้วยเป็นหมู่บ้านธรรมดาแต่ตามครัวเรือนแต่ละหลังโดยเฉพาะหมู่ที่
1
จะมีการทอผ้ามัดหมี่กันเป็นจำนวนมาก
ผ้ามัดหมี่ของบ้านกล้วยทอด้วยฝ้ายและมีลวดลายละเอียดงดงามต่างกับมัดหมี่ของอิสานที่มัดหมี่ฝ้ายจะทำลวดลายใหญ่ๆ
ห่างๆ
นอกจากผ้ามัดหมี่แล้วยังมีการทอผ้าขาวม้าคุณภาพดี
ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของบ้านหมี่
คือ ลายไส้ปลาไหล
นอกจากนั้นถัดไปที่หมู่บ้านชาวพวน
ตำบลบางพึ่งยังมีการทอผ้าขิดอีกด้วย
|
----------------------------------------------------------------
ตัวอำเภอบ้านหมี่
(เจียระไนพลอย)
|
อยู่ห่างจากอำเภอเมืองลพบุรีไปประมาณ
28 กม. คำว่า "หมี่"
หมายถึงการมัดเส้นไหมเป็นเปลาะเพื่อย้อมสี
ในเปลาะหนึ่งๆ
ให้หลากสีกัน
เพราะราษฎรในหมู่บ้านละแวกนั้นถนัดในการทอผ้าชนิดนี้
คือผ้ามัดหมี่
คนส่วนใหญ่ของอำเภอบ้านหมี่เป็นไทยพวนที่อพยพมาจากหัวพันทั้งห้าทั้งหกในประเทศลาวเมื่อประมาณ
135
ปีมาแล้วได้นำเอาชื่อบ้านเดิมคือ
"บ้านหมี่"
มาใช้เป็นชื่อบ้านที่ตั้งหลักแหล่งใหม่นี้ด้วย
|
|
|