พระที่นั่งวิหารสมเด็จ |
ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุด เป็นปราสาทยอดปรางค์มีมุกหน้าหลังยาวแต่มุขข้างสั้น
มีกำแพงแก้วล้อม 2 ด้าน ตามพงศาวดารกล่าวว่าสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง
โปรดให้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 2186
เพื่อแทนพระที่นั่งมังคลาภิเษกที่ถูกฟ้าผ่าไฟไหม้ ชาวบ้านเรียก "ปราสาททอง"
เนื่องจาก เป็นปราสาทปิดทององค์แรกที่สร้างขึ้น
สำหรับประกอบพระราชพิธีต่างๆ |
----------------------------------------------
พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ |
เป็นปราสาทจตุรมุขก่อด้วยศิลาแลง อยู่ติดกำแพงริมน้ำ เดิมชื่อ
พระที่นั่งสุริยามรินทร์ ต่อมาเปลี่ยนเป็นชื่อนี้เพื่อให้คล้องกับชื่อ
พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ก่อสร้างเป็น
ปราสาทจตุรมุขยกพื้นสูงกว่าพระที่นั่งองค์อื่นๆ
ใช้เป็นที่สำหรับประทับทอดพระเนตรขบวนแห่ทางน้ำ
|
----------------------------------------------
พระที่นั่งตรีมุข |
อยู่ข้างหลังพระที่นั่งสรรเพชญปราสาท ไม่ปรากฏปีที่สร้าง
เข้าใจว่าเดิมเป็น พระที่นั่งฝ่ายใน และเป็นที่ประทับในอุทยาน |
----------------------------------------------
พระที่นั่งทรงปืน |
อยู่ริมสระด้านตะวันตก ใกล้พระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์ สร้างเป็นรูปยาวรี
น่าจะใช้เป็นที่ฝึกซ้อมเพลงอาวุธ
และในสมัยสมเด็จพระเพทราชาทรงใช้เป็นที่เสด็จออกขุนนาง
|
----------------------------------------------
พระที่นั่งสรรเพชญปราสาท |
เป็นปราสาทยอดปรางค์ตั้งอยู่ตรงกลางสร้างแบบเดียวกันกับ
พระที่นั่งวิหารสมเด็จ มีมุขเด็จยื่นออกมา เพื่อเสด็จออกรับแขกเมือง
มีโรงช้างเผือกกระหนาบอยู่ทั้งสองข้าง
|
----------------------------------------------
พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์ |
สมเด็จพระเจ้าปราสาททองสร้างเมื่อ พ.ศ. 2175 พระราชทานนามว่า
"พระที่นั่งสิริยโสธรมหาพิมานบรรยงก์" คล้ายปราสาทที่นครธม
ต่อมาจึงเปลี่ยนเป็น "พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยนต์" ลักษณะเป็นปราสาทตรีมุข
ตั้งอยู่บนกำแพงชั้นในหน้าพระราชวัง
เป็นที่สำหรับทอดพระเนตรกระบวนแห่และฝึกซ้อมทหาร
เหมือนพระที่นั่งพุทไธสวรรย์ที่พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ
|
----------------------------------------------
พระที่นั่งบรรยงค์รัตนาสน์
(พระที่นั่งท้ายสระ) |
เป็นปราสาทจตุรมุข ตั้งอยู่บนเกาะกลางสระน้ำ สมเด็จพระเพทราชา
โปรดให้สร้างขึ้นเป็นที่ประทับสำราญพระราชหฤทัย เมื่อ พ.ศ. 2231
และได้เสด็จประทับตลอดรัชกาล
มีพระแท่นสำหรับทอดพระเนตรปลาที่ทรงเลี้ยงไว้ในสระนั้นด้วย |
|
|