อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้
|
ที่ทำการของอุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้
ตั้งอยู่บนเส้นทางถนนขนอม-โรงไฟฟ้า แยกซ้ายเข้าไปประมาณ 100 เมตร
เนื้อที่ของอุทยานฯ ครอบคลุมพื้นที่ทางทะเล เกาะแก่ง ภูเขา
และพื้นที่ชายฝั่งทะเลของอำเภอขนอมทั้งหมด
รวมทั้งพื้นที่ทางทะเลสาบบางส่วนของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
อุทยานแห่งชาติหาดขนอมหมู่เกาะทะเลใต้ประกอบไปด้วยเกาะน้อย เกาะวังใน
เกาะวังนอก เกาะแตน เกาะราบ เกาะท่าไร่ เกาะผี เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีอ่าวขนอม อ่าวท้องท่าค่ำ อ่าวท้องหลาง อ่าวท้องหยี
อ่าวท้องยาง และภูเขาต่างๆ เช่น เขาพลายดำ เขาผีหงาย เขาคอ
เขาเพลาเขาดาดฟ้า เป็นต้น |
|
---------------------------------------------------------
อ่าวขนอม
|
เป็นอ่าวที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาอ่าวต่างๆ ของอำเภอขนอม
อยู่ห่างจากตัวอำเภอประมาณ 1.5 กม.สามารถเดินทางโดยทางหลวงหมายเลข 4014
แยกจากทางหลวงสาย 401 ประมาณ 17 กม. ผ่านตลาดสุขาภิบาลขนอมประมาณ 1 กม.
จากนั้นจึงเลี้ยวขวาไปตามตัวหาดขนอม หาดขนอมนั้น
เป็นชายฝั่งทะเลที่สวยงามยาวติดต่อกัน ซึ่งประกอบไปด้วย |
|
หาดในเพลา
เป็นหาดที่ใหญ่ที่สุดของอำเภอขนอม
และเป็นจุดที่เด่นที่สุดในการท่องเที่ยว
ลักษณะหาดเป็นแนวยาวโค้งขนานกับแนวภูเขา
หาดทรายขาวเนียนเหมาะสำหรับเล่นน้ำ บริเวณหาดจะมีที่พัก
ร้านอาหารบริการนักท่องเที่ยว |
|
หาดหน้าด่าน
ลักษณะหาดเป็นแนวยาว ทรายขาว มีสวนมะพร้าวโดยรอบ
สามารถมองทิวทัศน์ท้องทะเลสีครามสวยงาม |
|
หาดคอเขา
มีเปลือกหอยและเศษหินปนทราย ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ
อยู่ใกล้ท่าเรือขนหินทราย เป็นหาดที่ใกล้ตัวอำเภอกขนอมกว่า
2 หาดแรก |
|
|
---------------------------------------------------------
อ่าวท้องหยี |
เป็นหาดทรายที่มีสภาพแวดล้อมเป็นธรรมชาติสมบูรณ์
เหมาะสำหรับการพักแรมแบบแค้มปิ้ง หรือเต๊นท์
อ่าวท้องหยีมีพื้นที่อยู่ในวงล้อมของเขาเพลาและเขากลาง
ทำให้ชายหาดสงบเงียบและเป็นส่วนตัวการพักแรมต้องติตต่อขออนุญาตจากเจ้าของสถานที่
การเดินทางใช้เส้นทางถนนลูกรังต่อจากหาดในเพลาที่บริเวณขนาบน้ำรีสอร์ท
ระยะทาง 2.5 กม. |
|
---------------------------------------------------------
วัดกระดังงา
|
เป็นวัดเก่าแก่ของอำเภอขนอม
สันนิษฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาวัดนี้ห่างจากถนนสายขนอม-ในเพลา
ประมาณ 200 เมตร ภายในอุโบสถมีภาพ
เขียนพุทธประวัติฝีมือวิจิตรบรรจง
มีพระประธานเป็นพระพุทธรูปสมัยอยุธยา ประดิษฐานอยู่ภายใน
และมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะเครื่อง ถ้วยชาม เป็นต้น
|
|
---------------------------------------------------------
วัดธาตุธาราม
หรือ วัดเขาธาตุ
|
มีเจดีย์ปะการังประดิษฐานอยู่บนเขาธาตุ
ตามตำนานกล่าวว่าเจดีย์นี้ได้ทำการก่อสร้างหลังจากสร้างพระบรมธาตุเมืองนครศรีธรรมราชเสร็จเรียบร้อย
โดยผู้ มีจิตศรัทธาจากเมืองไชยา ได้รวบรวมเงินทอง และของมีค่าต่างๆ
เพื่อไปบรรจุ ที่พระบรมธาตุเมืองนคร แต่ได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย
แล้วผู้มีจิตศรัทธาดังกล่าว
จึงได้ร่วมใจกันสร้างเจดีย์ขึ้นบนเขาธาตุ
ซึ่งสร้างด้วยหินปะการังทั้งองค์ องค์เจดีย์เป็นรูปโอคว่ำ
มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-6 เมตร รอบๆ
เจดีย์มีพระพุทธรูปแกะสลักหินทรายแดง ประดิษฐานบริเวณเจดีย์
เชื่อว่าคงเป็นแหล่งอารยธรรม
ทางด้านพุทธศาสนาสมัยหนึ่งในบริเวณอ่าวทางตอนเหนือของคาบสมุทรนี้
|
|
---------------------------------------------------------
วัดเจดีย์หลวง
|
ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 บ้านท่าใน ตำบลควนทอง
เป็นชุมชนโบราณ ซึ่งมีร่องรอยของเนินดินสระน้ำ
หินชิ้นส่วนของเทวสถาน แท่นเทวรูป แท่นศิวลึงค์
ที่กระจัดกระจายอยู่เป็น จำนวนมาก |
|
---------------------------------------------------------
ถ้ำเขาวังทอง
|
ห่างจากตัวเมือง 77 กม.
เป็นถ้ำที่มีความงดงามทางธรรมชาติแห่งหนึ่งของจังหวัดนครศรีธรรมราช
ภายในถ้ำเขาวังทองมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างหลายห้อง
แต่ละห้องมีหินงอกหินย้อยที่มีขนาดและรูปร่างที่แปลกๆ ต่างกัน อาทิ
คล้ายเจดีย์ ไดโนเสาร์ น้อยหน่า ไข่ดาว เป็นต้น การเข้าชมบางห้อง
จะต้องใช้วิธีคลาน ลอด หรือปีนป่าย
การเดินทางจากอำเภอขนอมเลี้ยวขวาตรงทางแยกไปยังอำเภอดอนสัก
และเลี้ยวซ้ายอีกครั้งหนึ่ง
ตรงปากทางเข้ามีศาลาที่พักผู้โดยสารเป็นที่สังเกต ชื่อศาลาตันสกุล
เข้าไปอีก ประมาณ 6 กม. ถึงปากทางเข้าถ้ำ
ผู้ที่ต้องการเข้าชมถ้ำวังทองต้องติดต่อขอกุญแจจากผู้ดูแลถ้ำก่อนได้
ที่บ้านที่อยู่ตรงปากทางเข้าถ้ำ |
|
---------------------------------------------------------
เขาพลายดำ
|
เป็นภูเขาที่ติดทะเลเป็นรอยต่ออำเภอขนอมและอำเภอสิชล
ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสถานที่พัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาพลายดำ
ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งใส มีหาดที่สวยงามคือ บริเวณหาดท้องยาง
สามารถลงเล่นน้ำได้
เขาพลายดำมีสัตว์ป่าประเภทกินพืชอาศัยอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น กวาง
กระจง และนกนานาชนิด การเดินทางแยกจากตัวเมืองสิชลไปทางเหนือ
ตำบลทุ่งใสประมาณ 12 กม. |
|
|