ตั้งอยู่ภายในบริเวณคุ้มของอดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน
ที่เรียกว่า "หอคำ"
โดยเจ้าสุริยพงศ์ผริตเดช
เจ้าเมืองน่าน
สร้างขึ้นเป็นที่ประทับ
เมื่อ พ.ศ. 2446
ลักษณะตัวอาคารโอ่โถงงดงามก่ออิฐถือปูน
แข็งแรง
แต่ตกแต่งให้อ่อนช้อยสวยงามด้วยลายลูกไม้
นับเป็นสถาปัตยกรรมก่อสร้างที่ดีเด่นแห่งหนึ่งของเมืองไทย
นอกจากนั้นบริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์เป็นที่ตั้งอนุสาวรีย์เจ้าสุริยพงศ์ผริตเดช
ผู้เป็นเจ้าของหอคำ
แห่งนี้ด้วย
กรมศิลปากรได้รับมอบอาคารหอคำเพื่อใช้เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่านเมื่อปี
พ.ศ.2517
แล้วจึงนำโบราณวัตถุ
ตลอดจนสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์
ศิลปะ โบราณคดี
และชาติพันธุ์วิทยาประจำท้องถิ่นมาจัดแสดงให้ชมอย่างมีระบบและระเบียบสวยงาม
คือ
ส่วนที่เป็นห้องจัดแสดงชั้นล่าง
จัดแสดงชาติพันธุ์วิทยาเกี่ยวกับล้านนาเช่น
ลักษณะอาคารบ้านเรือน
และเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน
การทอผ้าและผ้าพื้นเมืองน่านแบบต่างๆ
ที่สวยงามมาก
การสาธิตงาน
ประเพณีและความเชื่อต่างๆ
เช่น
การแข่งเรือจุดบ้องไฟสงกรานต์
และพิธีสืบชะตา
เป็นต้น
ที่น่าสนใจในการจัดแสดงห้องโถงข้างล่างนี้
ยังมีการจัดแสดงเรื่องราวชีวิตความเป็นอยู่
และเครื่องใช้
ของชนกลุ่มน้อยในเมืองน่าน
รวม 5 เผ่าด้วยกัน คือ
ไทยลื้อ แม้ว เย้า ถิ่น
และผีตองเหลือง
ส่วนบริเวณหัองจัดแสดงชั้นบน
เป็นการจัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน
การสร้างเมืองและโบราณสถานที่สำคัญ
รูปถ่ายโบราณ
งานประณีตศิลป์
เครื่องใช้เงินตรา
อาวุธ ศิลาจารึก
และเครื่องถ้วยชามที่ค้นพบในเมืองน่านที่สำคัญที่สุดได้แก่
ห้องเก็บ "งาช้างดำ"
ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุคู่เมืองน่าน
ตามประวัติกล่าวว่า
ได้มาจากเมืองเชียงตุงตั้งแต่ครั้งโบราณ
เมื่อเจ้ามหาพรหมสุรธาดา
เจ้าผู้ครองนครน่านองค์สุดท้ายถึงแก่พิราลัย
เจ้านายบุตรหลานจึงมอบให้เป็นสมบัติของแผ่นดินพร้อมกับหอคำ
ลักษณะของงาช้างดำนี้เป็นงาปลีเปลือกสีน้ำตาลเข้ม
ขนาดความยาว 97 ซม.
วัดโดยรอบ 47 ซม.
มีน้ำหนัก ประมาณ 18 กก.
ส่วนปลายมนมีจารึก
อักษรธรรมล้านนา
ภาษาไทยกำกับไว้ว่า
"กิ่งนี้หนักหนึ่งหมื่นห้าพัน"
หรือประมาณ 18 กก. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจังหวัดน่านเปิดให้ประชาชน
และนัก-ท่องเที่ยวเข้าชมตั้งแต่เวลา
09.00-16.00 น. ทุกวัน
เว้นวันจันทร์ อังคาร
และวันหยุดนักขัตฤกษ์
โดยเสียค่าธรรมเนียมเข้าชม
ชาวไทยคนละ 5 บาท
ชาวต่างประเทศ 10 บาท
รายละเอียดติดต่อ โทร.
054-710561 |