อำเภอเมือง
|
ลำปางเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่ยังนิยมใช้รถม้าเป็นพาหนะเดินทางระยะใกล้ๆ
ภายในตัวเมืองจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยว
รถม้าลำปางเป็นรถเปิดประทุน ที่นั่งผู้โดยสารคล้าย
คลึงกับที่นั่งของจักรยานสามล้อแต่มีขนาดใหญ่กว่า
อยู่ทางตอนหลังของที่นั่งคนบังคับม้า ซึ่งมีระดับสูง
กว่าเล็กน้อย นั่งได้คันละ 2 คน สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถไปขึ้นรถม้าได้ที่
หน้าศาลากลางเก่าจังหวัดลำปาง, หน้าโรงแรมเวียงทอง และ หน้าโรงแรมทิพย์ช้าง
ตั้งแต่ 06.00-23.00 ยกเว้นหน้าศาลากลางเก่ามีบริการ 06.00-16.00 น.
อัตราค่าโดยสาร 100-200 บาท ปัจจุบันยังมีการทำรถม้าที่หมู่บ้านวังเหนือ
ท่าคร่าวน้อย ศรีบุญเรือง นาก่วมเหนือ และนาก่วมใต้ |
|
------------------------------------------
วัดพระแก้วดอนเต้า
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลเวียงเหนือ เป็นวัดเก่าแก่และสวยงาม มีอายุนับพันปี
เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ตั้งแต่ปี พ.ศ.
1979 เป็นเวลานานถึง 32 ปี
เหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่าวัดพระแก้วดอนเต้ามีตำนานกล่าวว่า
พระมหาเถระแห่งวัดนี้ได้พบแก้วมรกตในแตงโม (ภาษาเหนือเรียกว่า หมากเต้า)
และนำมาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป
แต่ต่อมาถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วัดพระธาตุลำปางหลวงจนถึงปัจจุบัน ปูชนียสถานที่สำคัญในวัดพระแก้วดอนเต้า
ได้แก่ พระเจดีย์องค์ใหญ่ซึ่งบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า
มณฑปศิลปะพม่าซึ่งมีลักษณะงดงามและเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่
วิหารประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่มีอายุเก่าพอๆกับวัดนี้ นอกจากนี้ยังมี
วิหารหลวง และพิพิธภัณฑสถานแห่งลานนา การเดินทางไปยังวัด
ข้ามสะพานรัชฎาภิเษกแล้วเลี้ยวขวาไปตามถนนพระแก้วประมาณ 1 กม.
จะเห็นองค์พระธาตุตั้งเด่นอยู่บนเนิน |
|
------------------------------------------
วัดเจดีย์ซาวหลัง
|
"ซาว"
แปลว่า ยี่สิบ "หลัง"
แปลว่า องค์ วัดเจดีย์ซาวหลัง
แปลว่าวัดที่มีเจดีย์ 20 องค์ ตั้งอยู่ที่ตำบลต้นธงชัย ห่างจากตัวเมือง 5 กม.
ตามถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม เป็นวัดใหญ่อยู่กลางทุ่งนา
บริเวณวัดร่มรื่นไปด้วยต้นไม้ใหญ่ วัดนี้เป็นปูชนียสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปางสร้างแต่โบราณ
ทรงคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุ
จากหลักฐานการขุดพบพระเครื่องสมัยหริภุญชัยที่องค์พระเจดีย์
ทำให้สันนิษฐานได้ว่าวัดนี้สร้างมานานกว่าพันปีสิ่งที่น่าชมภายในวัดคือ
องค์พระธาตุเจดีย์ซาว ที่มีศิลปะล้านนาผสมศิลปะพม่า
ข้างหมู่พระเจดีย์มีวิหารหลังเล็ก ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางสมาธิ
ศิลปะเชียงแสน ชาวบ้านเรียกว่า "พระพุทธรูปทันใจ"
|
|
พระอุโบสถหลังใหญ่ซึ่งประดิษฐานพระประธาน
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงาม บานประตูทั้งสามเป็นของโบราณ
เขียนลวดลายรดน้ำละเอียดสวยงาม
เสาซุ้มประตูหน้าต่างประดับลวดลายกระจกสีเป็นลักษณะศิลปะสมัยใหม่
และที่ศาลาการเปรียญเรือนไม้ชั้นเดียวด้านหลังพระอุโบสถ
ได้จัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงโบราณวัตถุที่ชาวบ้านนำมาถวาย นอกจากนี้ เมื่อปี
พ.ศ. 2526 ชาวบ้านได้ขุดพบพระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์หนัก 100 บาทสองสลึง
มามอบให้แก่ทางวัดซึ่งพระพุทธรูปองค์นี้ชื่อว่า "พระแสนแซ่ทองคำ"
เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยล้านนา ราวพุทธศตวรรษที่ 21
ขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้วครึ่ง สูง 15 นิ้ว
เป็นพระพุทธรูปทองคำองค์แรกที่ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุแห่งชาติ
|
------------------------------------------
วัดป่าฝาง
|
ตั้งอยู่ที่ ถนนสนามบิน ตำบลหัวเวียง สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5
โดยชาวพม่าที่มาประกอบอาชีพการป่าไม้ในจังหวัดลำปาง มีพุทธสถานที่เด่นคือ
พระเจดีย์ใหญ่สีทองสุกปลั่งบรรจุ
พระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากพม่าเมื่อประมาณ พ.ศ. 2449
ศาลาการเปรียญเป็นเรือนไม้ทั้งหลังขนาดใหญ่ หลังคาซ้อนกันเป็นชั้นๆ แบบพม่า
และพระอุโบสถขนาดเล็กหลังคาเครื่องไม้แบบพม่า
มีลวดลายเครือเถาปูนปั้นเหนือประตูสวยงาม วัดนี้มีพระสงฆ์พม่าจากเมืองมัณฑเลมาเป็นเจ้าอาวาสอยู่เสมอ |
|
------------------------------------------
วัดไชยมงคล
|
ตั้งอยู่ที่ถนนสนามบิน ตำบลหัวเวียง เยื้องกับวัดป่าฝาง
มีชื่ออีกชื่อหนึ่งว่า วัดจองคา พุทธสถานที่เด่นของวัดคือ กุฏิ ขนาดปานกลาง
ตัวอาคารเป็นตึกสีขาว หลังคาเครื่องไม้แบบพม่า
หน้าบันประดับกระจกเป็นรูปเทวดา เสาประดับด้วยลวดโลหะสีทองขดเป็นลายเครือเถา
ประดับกระจกสีสวยงาม ม่านและระเบียงโดยรอบทำด้วยแผ่นไม้ฉลุฝีมือประณีต
ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปสำริด มีลักษณะงดงามสร้างจากเมืองมัณฑเล สหภาพพม่า |
|
------------------------------------------
วัดศรีชุม
|
เป็นวัดพม่าที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวัดพม่าที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งหมด 31 วัด
สร้างในปี พ.ศ. 2436 โดยคหบดีพม่าชื่อ อูโย
ซึ่งติดตามชาวอังกฤษเข้ามาทำงานป่าไม้ในประเทศไทย
เมื่อตนเองมีฐานะดีขึ้นจึงต้องการทำบุญโดยสร้างวัดศรีชุมขึ้นในเขตตำบลสวนดอก
การเดินทางไปวัดศรีชุม จากถนนพหลโยธินเมื่อถึงโรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัยแล้ว
เลี้ยวซ้าย ตรงสี่แยกเข้าถนนศรีชุมไปประมาณ 100 เมตร
จะพบทางเข้าวัดอยู่ทางด้านขวามือ จุดเด่นของวัดนี้เดิมอยู่ที่ พระวิหาร
ซึ่งเป็นอาคารครึ่งตึกครึ่งไม้ที่มีศิลปะการตกแต่งภายในร่วมสมัยระหว่างศิลปะล้านนาและศิลปะพม่า
หลังคาเครื่องไม้ยอดแหลมแกะสลักเป็นลวดลายสวยงามมาก
แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าได้เกิดเหตุเพลิงไหม้พระวิหารลงทั้งหลัง
เมื่อตอนเช้าตรู่ของวันที่ 16 มกราคม2535 คงเหลืเพียงไม้แกะสลักตรงซุ้มประตู
|
|
------------------------------------------
สถานปฏิบัติธรรม-มณฑป
หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ |
ตั้งอยู่ชานเมืองลำปางประมาณ 4 กม. ตามทางสายลำปาง-แจ้ห่ม
ภายในบริเวณมีมณฑปลักษณะ เป็นอาคารทรงไทยประยุกต์
มีรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อเกษม เขมโก
เกจิอาจารย์ซึ่งมีผู้เคารพนับถือเป็นจำนวนมาก นั่งในท่าสมาธิขนาดเท่ารูปจริง
เพื่อให้ประชาชนเคารพสักการะ และบริเวณหน้า มณฑป
ก็มีที่จอดรถและสถานที่เช่าพระเครื่อง
ส่วนกุฏิของหลวงพ่อเกษมอยู่ด้านข้างมณฑป |
|
------------------------------------------
วัดศรีรองเมือง
|
ตั้งอยู่ที่บ้านท่าคร่าวน้อย ตำบลสบตุ๋ย
ในเขตเทศบาลเมืองด้านทิศตะวันตก เป็นวัดพม่าที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2448
สมัยที่ลำปางเป็นศูนย์กลางการค้าขายและการทำป่าไม้ สถาปัตยกรรมที่สำคัญได้แก่
วิหารไม้ซึ่งมีหลังคาจั่วซ้อนกันเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยสวยงามตามแบบศิลปะพม่า
นอกจากนี้ยังนับว่าเป็นวัดที่มีการประดับตกแต่งภายในด้วยลายไม้แกะสลักและลายปูนปั้นลงรักปิดทองประดับด้วยกระจกสี
ฝีมือประณีต วิจิตรสวยงาม
|
------------------------------------------
เขื่อนกิ่วลม
|
อยู่ห่างจากตัวเมืองไป 38 กม.
ตามเส้นทางสายลำปาง-งาว โดยแยกซ้ายตรงหลักกม.ที่ 623-624 เข้าไปอีก 14 กม.
เปิดให้ประชาชนเข้าไปพักผ่อนหย่อนใจได้ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
เขื่อนกิ่วลม อยู่ภายใต้การดูแลของกรมชลประทาน บริเวณเหนือ เ ขื่อน เป็น
อ่างเก็บ น้ำ เหมาะ แก่การ ล่องเรือ หรือแพ เพราะมีทัศนียภาพสวยงาม
การล่องแพใช้เวลา ประมาณครึ่งวัน
มีสถานที่น่าสนใจ เช่นแหลมชาวเขื่อน ผาเกี๋ยง ผางาม เกาะชวนฝัน ทะเลสาบสบพุ
หมู่บ้านชาวประมง บ้านสา ฯลฯ สำหรับผู้ที่สนใจกีฬาทางน้ำ บอสสินี่ สปอร์ต
คลับ ได้รับอนุญาตจาก กรมชลประทานให้จัดตั้ง ศูนย์กีฬา ทางน้ำ
ที่บริการอุปกรณ์กีฬาทางน้ำประเภทต่างๆ เข่น สกู๊ตเตอร์ บานานาโบ๊ท วินเสริฟ
เป็นต้น บ้านพักรับรอง ของทางกรมฯ อนุญาตให้เข้าพักได้เฉพาะข้าราชการ
หรือหน่วยงานราชการเท่านั้น โดยมีหนังสือแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 15 วัน
ไปที่กรมชลประทาน ถนนสามเสน หรือ โทร. 241-4806 บริการจองแพ เรือ
และที่พักบริเวณอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน สามารถติดต่อได้ที่ กิ่วลมรีสอร์ท
แพวังแก้วและวังแก้วรีสอร์ท |
------------------------------------------
พิพิธภัณฑ์บ้านย่าแดง
|
เจ้าของคือ อาจารย์วิถี พานิชพันธ์
ตั้งอยู่ที่ ถนนตลาดเก่า (ตลาดจีน)เป็นที่เก็บสะสมเครื่องเขินและผ้าล้านนา
ไม่มีการจัดแสดงอย่างเป็นทางการ ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อขอเข้าชมล่วงหน้าได้
โทร. (054) 217063 |
------------------------------------------
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง
|
ตั้งอยู่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดลำปางด้านตะวันตกเฉียงใต้
หลักเมืองทำด้วยไม้สัก สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีมาแล้ว
โดยหลักที่หนึ่งสร้างเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2400 หลักที่สองสร้างประมาณปี พ.ศ.
2416 และหลักที่สามสร้างประมาณปี พ.ศ. 2429 ต่อมาในปี พ.ศ. 2440
เมื่อสร้างศาลากลางจังหวัดขึ้น ได้นำหลักเมืองมาไว้ที่บริเวณหน้าศาลากลาง
และได้มีการสร้างมณฑปครอบหลักเมืองทั้งสามในปี พ.ศ. 2511 |
------------------------------------------
พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ
|
ประดิษฐานอยู่ในมณฑปทรงไทยแบบจตุรมุขชึ่งตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง
พระพุทธรูปสร้างด้วยโลหะผสมรมดำทั้งองค์ ปางสมาธิ ชาวบ้านเรียก "หลวงพ่อดำ"
จัดสร้างโดยกรมการรักษาดินแดนเมื่อปี พ.ศ. 2511 มี 4 องค์
เพื่อนำไปประดิษฐานไว้ 4 ทิศของประเทศ โดยทางทิศเหนือได้นำมา ประดิษฐานไว้ ณ
จังหวัดลำปาง นับเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง
เป็นที่เคารพสักการะของประชาชน
ปัจจุบันพระพุทธรูปองค์นี้ปิดทองเกือบทั้งองค์โดยสาธุชนที่มานมัสการ |
------------------------------------------
วัดพระธาตุม่อนพญาแช่
|
ตั้งอยู่ที่ ต.พิชัย บนเส้นทางสายลำปาง-งาว
ระยะทางประมาณ 5 กม. จากตัวเมืองโดยเลี้ยวขวาเข้าไปตรงหลักกม.ที่ 605 ประมาณ
1 กม.
วัดตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของจังหวัดลำปางได้อย่างชัดเจน
ทางวัดได้พัฒนาเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
และขอความร่วมมือกับสำนักงานป่าไม้เขตลำปางจัดให้เป็นวนอุทยานม่อนพญาแช่
ความสวย
งามของวัดอยู่ที่บันไดนาคที่ทอดยาวขึ้นไปสู่พระเจดีย์ซึ่งกล่าวว่าบรรจุพระบรมสารีริกธาตุเจดีย์เดิมถูกทำลายในสมัยสงครามโลกครั้งที่
2 และได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ในปี พ.ศ. 2498
ทุกปีจะมีงานนมัสการพระธาตุในวันแรม 8 ค่ำ เดือน 7 เหนือ (ตรงกับเดือน 9) |
------------------------------------------
วัดพระธาตุเสด็จ
|
อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามเส้นทางลำปาง-งาว
ประมาณ 19 กม. แยกซ้ายตรงกม.ที่ 17 เข้าไปประมาณ 2 กม.
วัดพระธาตุเสด็จเป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง
มีตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวี เมื่อประมาณ 500 ปีมาแล้ว
อุโบสถและวิหารต่างๆ ในวัดนี้ล้วนแต่เป็นของโบราณที่ได้รับการบูรณะใหม่
แต่ยังคงสภาพศิลปะโบราณให้เห็นได้อยู่จนปัจจุบัน
กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานของชาติแล้วพุทธสถานที่สำคัญคือ
องค์พระธาตุเสด็จ เป็นเจดีย์ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
เป็นเจดีย์แบบลานนา ลักษณะคล้ายพระธาตุลำปางหลวงแต่องค์เล็กกว่า
นอกจากนี้ยังมีวิหารใหญ่ เรียกว่า "วิหารกลาง"
ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางลีลาองค์ใหญ่มีพุทธลักษณะงดงามนามว่า
"หลวงพ่อห้ามญาติ" วิหารหลวง เรียกว่าวิหารจามเทวี
ประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ
ศิลปะเชียงแสนและวิหารพระพุทธ มีพระพุทธรูปชื่อ "พระเจ้าดำองค์อ้วน"
เป็นพระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ |
------------------------------------------
สวนสาธารณะหนองกระทิง
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อแฮ้ว
จากตัวเมืองข้ามลำน้ำวังไปตามเส้นทางสายลำปาง - ห้างฉัตร ประมาณ 3
กม.เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนชาว ลำปางที่ใกล้ตัวเมือง
มีหนองน้ำใสเหมาะสำหรับว่ายน้ำ เล่นเรือถีบ มีสวนหย่อม และต้นไม้ร่มรื่น
มีร้านอาหารและเครื่องดื่มบริการหลายแห่ง |
------------------------------------------
อ่างเก็บน้ำวังเสือ
|
อยู่ห่างจากตัวเมืองไปตามถนนสายลำปาง-เด่นชัย 18
กม.แล้วเลี้ยวขวาตามถนนเข้าตัวเมือง อีกราว 300 เมตร
เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ริมถนน เหมาะแก่การแวะพักผ่อนปิคนิค
ริมอ่างเก็บน้ำเป็นทิวเขาที่มีทิวทัศน์สวยงาม
โดยเฉพาะยามเย็นเมื่ออาทิตย์อัสดง |
|