|
วัดร่องขุ่น เป็นวัดที่มีความสวยงามโดดเด่นต่างจากวัดอื่นๆ
ด้วยฝีมือการออกแบบ และก่อสร้างของ อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์
ศิลปินชื่อดัง เพื่อเป็นวัดประจำบ้านเกิด สร้างโดยจินตนาการของอาจารย์
จัดเป็นงานพุทธศิลป์ที่ยิ่งใหญ่ และงดงามน่าแวะชมมากแห่งหนึ่ง
อ. เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ มีแรงบันดาลใจในการสร้างวัดแห่งนี้อยู่ 3
ประการ คือ เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งอาจารย์บอกว่า
จึงตั้งความปรารถนาที่จะถวายชีวิต ใช้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตนเอง
สร้างงานพุทธศิลป์ เพื่อเป็นงานประจำรัชกาลของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้ได้ และจะถวายชีวิตไปจนตายคาวัด" (จากเอกสารของวัดร่องขุ่น)
ความงดงามของวัดแห่งนี้อยู่ที่ "โบสถ์"
เพราะอาจารย์อยากจะเนรมิตวัดให้เหมือนเมืองสวรรค์
เป็นวิมานบนดินที่มนุษย์สามารถสัมผัสได้ โบสถ์
เปรียบเหมือนบ้านของพระพุทธเจ้า สีขาว แทนพระบริสุทธิคุณของพระพุทธเจ้า
กระจกขาว หมายถึง
พระปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าที่เปล่งประกายไปทั่วโลกมนุษย์ และจักรวาล
สะพาน หมายถึง การเดินข้ามวัฏสงสารมุ่งสู่พุทธภูมิ
ก่อนขึ้นสะพานครึ่งวงกลมเล็ก หมายถึง โลกมนุษย์
วงใหญ่ที่มีเขี้ยวเป็นปากของพญามารหรือพระราหู หมายถึง
กิเลสในใจแทนขุมนรกคือทุกข์
ผู้ที่จะเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าในพุทธภูมิต้องตั้งจิตปลดปล่อยกิเลสตัณหาของตนเองลงไปในปากพญามาร
เพื่อเป็นการชำระจิตให้ผ่องใสก่อนที่จะเดินผ่านขึ้นไปพบกับพระราหูอยู่เบื้องซ้าย
และพญามัจจุราชอยู่เบื้องขวา บนสันของสะพานจะประกอบไปด้วยอสูรกลืนกัน
16 ตน ข้างละ 8 ตน หมายถึง อุปกิเลส 16
จากนั้นก็จะถึงกึ่งกลางสะพานหมายถึง เขาพระสุเมรุ
ซึ่งเป็นที่อยู่ของเทวดา ด้านล่างเป็นสระน้ำหมายถึง สีทันดรมหาสมุทร
มีสวรรค์ตั้งอยู่ด้วยกัน 6 ชั้นด้วยกัน ผ่านสวรรค์ 6 เดินลงไปสู่พรหม
16 ชั้น แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 16 ดอกรอบพระอุโบสถ ดอกที่ใหญ่สุด 4 ดอก
ตรงทางขึ้นด้านข้างโบสถ์หมายถึง ซุ้มพระอริยเจ้า 4 พระองค์
ประกอบด้วยพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี และพระอรหันต์
เป็นสงฆ์สาวกที่ควรกราบไหว้บูชา
ก่อนขึ้นบันได ครึ่งวงกลมหมายถึง โลกุตตรปัญญา บันไดทางขึ้น 3 ขั้นแทน
อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา ผ่านแล้วจึ้งขึ้นไปสู่อรูปพรหม 4
แทนด้วยดอกบัวทิพย์ 4 ดอกและบานประตู 4 บาน
บานสุดท้ายเป็นกระจกสามเหลี่ยมแทนความว่าง ซึ่งหมายถึงความหลุดพ้น
แล้วจึงก้าวข้ามธรณีประตูเข้าสู่พุทธภูมิ
ภายในประกอบด้วยภาพเขียนโทนสีทองทั้งหมด ผนัง 4 ด้าน
เพดานและพื้นล้วนเป็นภาพเขียนที่แสดงถึงการหลุดพ้นจากกิเลสมาร
มุ่งเข้าสู่โลกุตตรธรรม ส่วนบนของหลังคาโบสถ์
ได้นำหลักการของการปฏิบัติจิต 3 ข้อ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
นำไปสู่ความว่างคือความหลุดพ้นนั่นเอง
นี่เป็นเพียงรายละเอียดคร่าวๆ ของโบสถ์ของวัดร่องขุ่น
ส่วนรายละเอียดจริงๆ นั้น อาจารย์บอกว่าจะสร้างทั้งหมด 9 หลัง
แต่ละหลังมีความหมายเป็นคติธรรมทุกหลัง
ผมหวังจะสร้างงานพุทธศิลป์ของแผ่นดินให้ยิ่งใหญ่อลังการ
เพื่อให้คนทั้งโลกยอมรับ และปรารถนาจะมาชื่นชมให้ได้
จะถวายชีวิตสร้างจนลมหายใจสุดท้าย และได้สร้างลูกศิษย์รอรับช่วงต่ออีก
2 รุ่น หลังผมตาย คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ทั้ง 9 หลัง คงใช้เวลาทั้งหมด
60-70 ปีครับ"
นอกจากจะชมความงดงามของพระอุโบสถแล้ว ยังสามารถเข้าชมผลงานของอาจารย์
และเลือกซื้อของที่ระลึกจากวัดร่องขุ่นได้อีกด้วย
|
|
|
พระในโบสถ์ เป็นภาพวาด
|
|
|
ศิลปะ ช่อฟ้า ของอาจารย์เฉลิมชัย
|
|
|
|
ภาพมุมกว้าง
มุมที่มีนักท่องเที่ยวน้อยๆ อย่างนี้หาถ่ายได้ยาก |
|
|
ด้านตะวันตก
|
|
|
|
ทางเข้าโบสถ์
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|