อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
ดอยปุย ยอดเขาที่สูง 1,658 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง
เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จังหวัดเชียงใหม่
เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 24 ของประเทศ
มีลักษณะของพื้นที่เป็นภูเขาสูงสลับซับซ้อนอยู่ในแนวเทือกเขาถนนธงไชย
นอกจากนี้ ยังเป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่สำคัญของตัวเมืองเชียงใหม่
และพื้นที่บางส่วนของอำเภอรอบ ๆ
สภาพภูมิอากาศส่วนใหญ่จะหนาวเย็นและชุ่มชื้น
เนื่องจากได้รับไอน้ำจากเมฆหมอกที่ปกคลุมอยู่เกือบตลอดปี
อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดในพื้นที่อยู่ระหว่าง 10-12 องศาเซลเซียส
สถานที่ท่องเที่ยว ดอยปุย ได้แก่
1. ยอดดอยปุย สูง 1,658 เมตร จากระดับน้ำทะเล
เป็นจุดสูงสุดของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
บนยอดดอยปกคลุมด้วยป่าสนเขาผืนใหญ่
และเป็นแหล่งดูนกที่น่าสนใจแห่งหนึ่ง
ดอยสุเทพและดอยปุยเป็นถิ่นอาศัยของนกมากกว่า 300 ชนิด เช่น
ไก่ฟ้าหลังขาว นกกางเขนน้ำหลังดำ นกศิวะปีกสีฟ้า ฯลฯ
ในช่วงฤดูหนาวยังมีนกอพยพบินย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอีกเป็นจำนวนมาก
หลายชนิดเป็นนกหายาก โดยเฉพาะ นกเขน นกจับแมลงสีคราม นกเดินดงอกลาย
นกปีกแพรสีม่วง ฯลฯ ใกล้กับยอดดอยปุยมีสถานที่สำหรับกางเต็นท์
ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 250 คน
ซึ่งห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 7 กิโลเมตร
เส้นทางค่อนข้างแคบและลาดชัน สำหรับผู้ที่ไม่ชินเส้นทาง
ควรเดินทางไปถึงก่อนเวลา 17.00 น. เพื่อความสะดวกและปลอดภัย
2. พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงาม และมีความสำคัญยิ่ง คือ
เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์
บริเวณใกล้ดอยบวกห้า คำว่า "ดอยบวกห้า" เป็นชื่อเรียกตามคำพื้นเมือง
ดอยหมายถึงภูเขา บวกหมายถึง หนองน้ำ ห้าหมายถึงต้นหว้า หมายความว่า
ที่ยอดดอยแห่งนี้มีหนองน้ำอุดมไปด้วยต้นหว้า
ขึ้นปกคลุมทั่วบริเวณหนองน้ำนั้น
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี
พ.ศ. 2504 และพระราชทานนามพระตำหนักนี้ว่า "ภูพิงคราชนิเวศน์"
โดยทรงเลือกจากหนึ่งใน 2 ชื่อ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
สกลมหาสังฆปรินายก วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อครั้งเป็นที่ พระศาสนโสภณ
เป็นผู้คิดชื่อถวาย คือ "พิงคัมพร" กับ "ภูพิงคราชนิเวศน์"
พระตำหนักแห่งนี้
ใช้เป็นที่ประทับในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนินแปรพระราชฐาน
มาประทับแรมที่จังหวัดเชียงใหม่
เพื่อทรงงานและเยี่ยมเยียนราษฎรในเขตภาคเหนือ
รวมทั้งเพื่อรับรองพระราชอาคันตุกะที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับไทยในโอกาสต่าง
ๆ การที่ทรงเลือกสร้างที่จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากมีอากาศเย็นสบาย
ภูมิประเทศสวยงาม อีกทั้งเคยเป็นเมืองหลวงมาก่อน
ผู้คนพลเมืองยังดำรงรักษา จารีตขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามไว้
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
เปิดจำหน่ายบัตรเข้าชม 2 ช่วงเวลา ได้แก่ ช่วงเช้า
(08.30 - 11.30 น.) และช่วงบ่าย (13.00 - 15.30
น.) ปิดพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ เวลา 16.30 น.
อัตราค่าธรรมเนียมเข้าชม สำหรับชาวไทย 20 บาท
ชาวต่างชาติ 50 บาท ทั้งนี้
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติประมาณ
4 กิโลเมตร
และเปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ
3.
หมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง (แม้ว) ดอยปุย
บริเวณหมู่บ้านจำหน่ายของที่ระลึกจำนวนมากซึ่งมีทั้งที่ผลิตภายในหมู่บ้าน
และนำมาจากที่อื่นวางขายให้แก่นักท่องเที่ยว
มีพิพิธภัณฑ์ม้ง
สวนดอกไม้ซึ่งมีบริการถ่ายรูปแต่งชุดชาวเขา
บริเวณรอบ ๆ หมู่บ้านมีทิวทัศน์ที่สวยงาม
สามารถมองเห็นดอยอินทนนท์ได้
นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้สะดวกเพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง
โดยใช้เวลาในการเดินทางจากตัวเมืองประมาณ 1
ชั่วโมงเท่านั้น ส่วนการเดินทาง
หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่บนดอยปุย ห่างจากพระตำหนักฯ 3
กิโลเมตร เป็นทางลาดยางตลอด
สามารถเข้าไปเที่ยวด้วยตนเองได้
หรือจะเช่ารถสองแถวจากดอยสุเทพขึ้นไปได้ทุกฤดูกาล
ประมาณคันละ 600-900 บาท
4. น้ำตกตาดหมอก เป็นน้ำตกขนาดกลาง
เกิดจากลำห้วยแม่แรม อยู่ห่างจากตัวอำเภอแม่ริม
ประมาณ 5 กิโลเมตร ตามเส้นทางสายแม่ริม-สะเมิง
แล้วแยกไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร
การเดินทางไปน้ำตกตาดหมอก
ต้องเดินทางโดยรถส่วนตัวเท่านั้น
เนื่องจากรถบัสไม่สามารถเข้าถึง
และไม่มีรถยนต์โดยสารวิ่งผ่าน
5. น้ำตกมณฑาธาร หรือน้ำตกสันป่ายาง
เป็นน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งในเขตอุทยานฯ
สูงกว่าระดับน้ำทะเล 730 เมตร มีทั้งหมด 9 ชั้น
โดยมีน้ำตกไทรย้อย เป็นน้ำตกชั้นสูงสุด
ที่ไหลมาจากห้วยคอกม้า
แล้วไหลไปสมทบกับน้ำตกมณฑาธาร ผ่านผาเงิบ
วังบัวบาน น้ำตกห้วยแก้ว ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำปิง
ที่มาของน้ำตกนั้นมาจากต้นมณฑา ซึ่งเป็นไม้ยืนต้น
ดอกสีขาว ใบใหญ่ สีเขียวจัด
เห็นได้ทั่วไปตามข้างทาง
ลักษณะของน้ำที่ตกลงมาแยกออกเป็น 2 สายเล็ก ๆ
แล้วไหลลงสู่แอ่ง ก่อนจะผ่านลานหินลงไปชั้นที่ 1
อยู่ห่างจากน้ำตกห้วยแก้วประมาณ 3 กิโลเมตร
บริเวณน้ำตกมณฑาธาร มีบ้านพักนักท่องเที่ยว จำนวน
2 หลัง พักได้หลังละ 6 คน ราคาหลังละ 1,500 บาท
และมีสถานที่กางเต็นท์
ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 150 คน
สามารถสำรองบ้านพักได้ผ่านทางเว็บไซด์
www.dnp.go.th หรือ โทรสำรองที่พักได้ที่
053-210244
6. น้ำตกแม่สา เป็นน้ำตกที่สวยงาม มีน้ำไหลตลอดปี
มีทั้งหมด 10 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันประมาณ 100-500
เมตร โดยเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่
ไปตามถนนสายแม่ริม-สะเมิง ระยะทางประมาณ 7
กิโลเมตร น้ำตกแม่สา
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่
ที่ปกคลุมด้วยต้นไม้ใหญ่ทั่วบริเวณ
ทำให้สภาพอากาศร่มรื่นเย็นสบายตลอดปี
ทำให้ได้รับความนิยมมาก
การเดินทางไปน้ำตกแม่สา
นอกจากนำรถส่วนตัวหรือรถบัสไปแล้ว
ยังสามารถนั่งรถโดยสารประจำทาง สายเชียงใหม่ -
สะเมิง บริเวณข้างวัดแม่ริม
ซึ่งท่านจะต้องขึ้นรถสายเชียงใหม่ - แม่ริม
บริเวณตลาดวโรรส หรือขนส่งช้างเผือก
แล้วลงรถที่สี่แยกวัดแม่ริม
เพื่อต่อรถสายเชียงใหม่ - สะเมิง
เพื่อไปเที่ยวน้ำตกแม่สา แต่ไม่มีบ้านพักไว้บริการ
มีแต่สถานที่กางเต็นท์ และมีเต็นท์ให้เช่า
ท่านสามารถติดต่อได้ที่ 053-229731
ซึ่งสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 50 คน
แหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงกับน้ำตกแม่สา
ส่วนมากเป็นแหล่งท่องเที่ยวของเอกชน ซึ่งมีทั้ง
ฟาร์มผีเสื้อ ฟาร์มงู ฟาร์มสุนัข โรงเรียนลิง
กิจกรรมขี่ม้า การเล่นบันจี้จั๊ม การขี่รถบักจี้
ออฟโรด หรือเยี่ยมชมสวนพฤกษศาสตร์สิริกิติ์
ซึ่งอยู่ห่างจากน้ำตกแม่สาประมาณ 5 กิโลเมตร
7. น้ำตกศรีสังวาลย์ เป็นน้ำตกขนาดกลาง
เกิดจากลำห้วยแม่ปานตอนบน อยู่ในพื้นที่อำเภอหางดง
สามารถเดินทางโดยใช้ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1269
(หางดง-สะเมิง)
8. น้ำตกหมอกฟ้า
เป็นน้ำตกที่สวยงามอีกแห่งของอุทยานฯ
มีน้ำไหลตลอดปี ตั้งอยู่ในเขต อ.แม่แตง
โดยเดินทางไปตามเส้นทางสายเชียงใหม่-ฝาง
(ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 107)
ถึงทางแยกบ้านแม่มาลัย อ.แม่แตง
เลี้ยวซ้ายตามถนนสายแม่มาลัย-ปาย
(ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1095) รวมระยะทางประมาณ 58
กิโลเมตร ซึ่งการเดินทางไปน้ำตกหมอกฟ้า
หากต้องการขึ้นรถโดยสารประจำทาง
สามารถขึ้นได้ที่สถานีขนส่งจังหวัดเชียงใหม่
(อาเขต) เพื่อขึ้นรถสายเชียงใหม่ - ปาย
แล้วลงรถตรงปากทางเข้าน้ำตกหมอกฟ้า
แล้วต้องเดินเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร
หรือหากนำรถไปเองก็สามารถนำไปได้ ยกเว้นรถบัส
เนื่องจากระยะทางแคบและลาดชัน
น้ำตกหมอกฟ้า มีบริเวณที่เหมาะสำหรับการจัดทำค่าย
เนื่องจากมีบ้านที่จัดเตรียมไว้สำหรับการจัดทำค่ายจำนวน
4 หลัง พักได้หลังละ 15 คน ราคาหลังละ 1,500 บาท
และมีสถานที่กางเต็นท์
ซึ่งรองรับนักท่องเที่ยวได้ประมาณ 150 คน
สามารถสำรองบ้านพักได้ผ่านทางเว็บไซด์
www.dnp.go.th หรือ โทรสำรองที่พักได้ที่
053-210244 หรือ 08-4616-2389
9. น้ำตกห้วยแก้ว เป็นน้ำตกเล็ก ๆ สูงประมาณ 10
เมตร เกิดจากลำน้ำห้วยแก้ว
อยู่บริเวณเชิงดอยใกล้ทางขึ้นดอยสุเทพ
เหนือน้ำตกห้วยแก้วขึ้นไปเล็กน้อย จะเป็น
“วังบัวบาน”
เป็นสถานที่ที่กล่าวถึงตำนานรักอันอมตะที่ลือชื่อของสาวเหนือ
และผาเงิบ ซึ่งอยู่เหนือวังบัวบานประมาณ 100 เมตร
ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน
บริเวณเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ
เส้นทางน้ำตกห้วยแก้ว วังบัวบาน ผาเงิบ
มีนกหลากชนิดที่น่าสนใจ ได้แก่ นกกระรางหัวหงอก
นกแซงแซวหางปลา นกเขาเขียว และอื่น ๆ อีกมากมาย
ซึ่งเป็นจุดชมนกที่น่าสนใจอีกแห่งในอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
10. สันกู่ เมื่อปี พ.ศ.2526 หน่วยศิลปากรที่ 4
เชียงใหม่ ได้ขุดแต่งบูรณะซากโบราณสถานสันกู่
การทำงานในครั้งนั้น
เป็นไปตามพระประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงทราบฝ่าละอองพระบาทว่า
โบราณสถานแห่งนี้ถูกขุดทำลายเป็นเวลานานแล้ว
สมควรให้กรมศิลปากรสำรวจและบูรณะให้อยู่ในสภาพที่ดีต่อไป
นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อการศึกษาประวัติศาสตร์และโบราณคดี
สันกู่ ตั้งอยู่บริเวณเส้นทางไปลานกางเต็นท์ดอยปุย
ห่างจากพระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ประมาณ 4
กิโลเมตร เส้นทางค่อนข้างคดเคี้ยว และลาดชัน
ควรขับรถด้วยความระมัดระวัง
11. สถานีวิจัยดอยปุย หรือเรียกว่า สวนสองแสน
ตั้งอยู่ที่ถนนศรีวิชัย ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง
จังหวัดเชียงใหม่ มีพื้นที่ 119 ไร่ 2 งาน 2.5
ตารางวา เป็นแปลงทดลอง 74 ไร่ 1 งาน 97.5 ตารางวา
สวนนี้นับเป็นสวนประวัติศาสตร์ของการเกษตรบนที่สูง
คือเป็นสวนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน
200,000 บาท
เพื่อทรงสนับสนุนการดำเนินงานวิจัยและพัฒนาบนที่สูง
เพื่อการจัดหาพื้นที่เพิ่มเติมให้แก่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ดำเนินการศึกษาวิจัยขอองมูลนิธิโครงการหลวง
ในการดำเนินการวิจัยทดลองและขยายพันธุ์พืชเขตหนาว
--------------------------------
|