ธารโบกขรณี
|
|
อยู่บริเวณที่ทำการอุทยาน
สภาพทั่วไปเป็นธารน้ำธรรมชาติไหลลงมายังแอ่งน้ำน้อยใหญ่ซึ่งอยู่ต่างระดับกัน
รายรอบด้วยป่าไม้ร่มรื่น ด้านเหนือของธารโบกขรณี
มีมณฑปพระพุทธบาทจำลองที่แกะสลักจากไม้
ประดิษฐานอยู่ใกล้กับศาลาบูชาเจ้าพ่อโต๊ะยวน-โต๊ะช่อง |
|
|
..........................................................
|
ถ้ำชาวเล |
|
อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของแหลมสัก
ในเวิ้งอ่าวที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงามของเกาะแก่งและภูผา
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยและภาพเขียนสมัยก่อนประวัติศาสตร์เป็นรูปคน
รูปสัตว์ และรูปทรงเรขาคณิตต่าง ๆ หลายภาพด้วยกัน
สันนิษฐานว่าน่าจะมีอายุอยู่ในช่วงหลังภาพเขียนที่ถ้ำผีหัวโต
สำหรับการไปเที่ยวชมสามารถโดยสารเรือบริเวณสะพานปลาที่แหลมสัก
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที |
|
|
..........................................................
|
ถ้ำสองพี่น้องหรือถ้ำปูนเหนือ-ใต้
|
|
อยุ่ห่างจากถ้ำผีหัวโตไปทางตะวันตก
ภายในถ้ำพบโครงกระดูกมนุษย์เครื่องปั้นดินเผา เครื่องประดับหู
และกำไลมือสำริด |
|
|
..........................................................
|
ถ้ำโต๊ะหลวง
|
|
อยู่ในเขตบ้านนบ
ตำบลคลองหินมีลักษณะเป็นถ้ำซ้อนกันอยู่ถึง 3 ชั้น
แต่ละชั้นมีหินงอกหินย้อยรูปร่างคล้ายองค์พระบ้าง คล้ายนาคบ้าง
เข้าใจกันว่าถ้ำแห่งนี้เป็นที่สถิตของเจ้าพ่อโต๊ะหลวง
จึงได้ชื่อว่าถ้ำโต๊ะหลวงิด |
|
|
..........................................................
|
ถ้ำเสือนอกหรือถ้ำเทพนิมิตร
|
|
เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์เทพนิมิตร
มีเพิงผาที่เต็มไปด้วยเปลือกหอยจำนวนมาก
ทับถมอยู่เนื่องจากมีอุโมงค์ใต้ทะเลภายในถ้ำ
ชั้นบนเป็นถ้ำมืดขนาดใหญ่ซึ่งถัดไปอีกประมาณ 50 เมตร
มีถ้ำอรหันต์ซึ่งเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยระย้าเหมือนหลอดแก้วสวยงามและแปลกไปกว่าถ้ำอื่น
ๆ |
|
|
..........................................................
|
เกาะแดง
|
|
มีหาดทรายสวยงามยาวถึง 25 เมตร และมีถ้ำลอดกว้าง 70
เมตร สูง 20 เมตร |
|
|
..........................................................
|
ถ้ำเพชร |
|
ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลอ่าวลึกเหนือ
อยู่ห่างจากสี่แยกตลาดอ่าวลึกเหนือ 3 กม.
บริเวณด้านหน้ามีพระพุทธรูปปูนประดิษฐานอยู่
และมีหินสะท้อนแสงซึ่งส่องประกายสวยงามราวกับเพชรตามผนังถ้ำ
การไปเที่ยวชมถ้ำเพชร
สามารถติดต่อขอคนนำทางจากอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณีได้
ทั้งนี้ควรนำไฟฉายติดตัวไปด้วย |
|
|
|
..........................................................
|
ถ้ำพระ
|
|
ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลอ่าวลึกใต้
ห่างจากที่ว่าการอำเภอประมาณ 2 กม. ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปใหญ่ 3 องค์
รอบฐานมีพระพุทธรูปไม้แกะสลักองค์เล็กตั้งอยู่โดยรอบ
ฐานจะสร้างในสมัยใดไม่ปรากฏ
แต่จากคำบอกเล่ากล่าวกันว่าสร้างพร้อมกับพระบรมธาตุเมืองนครฯ
เนื่องจากผู้ศรัทธาที่จะเดินทางเอาทรัพย์สินเงินทองไปร่วมสร้างองค์พระบรมธาตุได้ทราบข่าวการสร้างองค์พระธาตุเสร็จสิ้นแล้ว
จึงพร้อมใจกันสร้างพระพุทธรูป 3 องค์นี้ขึ้น
พร้อมกับฝังทรัพย์สินเงินทองไว้อีกด้วย
จากความเชื่อของชาวบ้านดังกล่าวก็อาจจะเป็นไปได้
เพราะเส้นทางระหว่างอ่าวลึก-ปากลาว-ปากพนม
ตลอดแม่น้ำตาปีนั้นเป็นเส้นทางเดินข้ามแหลมมลายูมาแต่โบราณเส้นทางหนึ่ง |
|
|
|
..........................................................
|
ถ้ำลอดเหนือและถ้ำลอดใต้ |
|
อยู่ห่างจากตัวอำเภออ่าวลึกไปตามถนนอ่าวลึก-แหลมสักประมาณ 2 กม.
แยกขวาไปยังท่าเรือบ่อท่อ แล้วลงเรือรับจ้างไปตามลำคลองท่าปรัง
ผ่านป่าชายเลนไปประมาณ 10 นาที ถ้ำลอดใต้เป็นอุโมงค์ใต้เขาหินปูน
มีธารน้ำไหลผ่านอุโมงค์แคบ มีหินงอกและหินย้อยสวยงาม
ส่วนถ้ำลอดเหนือเป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่
มีแนวอุโมงค์คดเคี้ยวและยาวกว่าถ้ำลอดใต้
เรือสามารถแล่นผ่านได้ในช่วงน้ำลงเท่านั้น |
|
|
|
..........................................................
|
ถ้ำผีหัวโต
หรือถ้ำหัวกะโหลก |
|
อยู่ในเทือกเขาผีหัวโต
มีลักษณะเป็นเขาหินปูนล้อมรอบด้วยบึงและป่าโกงกาง
นั่งเรือจากท่าเรือบ่อท่อไปประมาณ 10 นาที
เลยทางแยกไปถ้ำลอดใต้เล็กน้อย จากปากถ้ำมองเข้าไปจะเห็นทางแยกเป็น 2
ทาง ทางซ้ายมือจะตัดตรงไปยังด้านหลังของถ้ำที่เป็นโพรงใหญ่
มีแสงสว่างส่องเข้ามาถึงได้
ส่วนด้านขวามือเป็นทางที่จะตรงเข้าไปยังห้องโถงของตัวถ้ำ
แต่เดิมภายในถ้ำเคยพบหัวกะโหลกมนุษย์ มีขนาดโตกว่าปกติจึงมีชื่อว่า
"ถ้ำผีหัวโต"
นอกจากนี้บนผนังถ้ำยังปรากฎภาพเขียนสีก่อนสมัยประวัติศาสตร์จำนวนมาก
อาทิ รูปคน รูปสัตว์ ตลอดจนรูปอวัยวะต่างๆ
และบนพื้นถ้ำมีเปลือกหอยทับถมกันอยู่เป็นจำนวนมาก |
|
|
|
..........................................................
|
ถ้ำหัวกะโหลกในหรือถ้ำบุญมาก |
|
อยู่ห่างจากถ้ำผีหัวโตเพียง 100 เมตรเท่านั้น
ถ้ำแห่งนี้นายบุญมาก ชาวบ้านแถบนั้นเป็นผู้ค้นพบ
ภายในเป็นถ้ำมืดขนาดใหญ่เต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยสวยงาม
และบริเวณเพิงผาด้านหน้ามีการขุดพบเศษภาชนะดินเผาสมัยก่อนประวัติศาสตร์จำนวนมากเป็นลายทับเชือก
มีลักษณะหนาและเนื้อหยาบกว่าที่เคยพบในแหล่งอื่น ๆ |
|
|
..........................................................
|
ถ้ำเสือน้อย
|
|
เป็นที่ตั้งสำนักสงฆ์
ถ้ำเสือน้อยอยู่ห่างจากถ้ำหัวกะโหลกที่บ้านบ่อประมาณ 2 กม.
สภาพด้านหน้าเป็นเพิงผาค่อนข้างกว้างแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่เงียบสงบ
ภายในเป็นโพรงถ้ำมีความสวยงาม
นอกจากนี้ยังเคยมีการขุดพบภาชนะดินเผาอีกด้วย |
|
|
..........................................................
|
คลองชายเขา |
|
มีลักษณะคล้ายอ่าวมาหยาที่เกาะพีพี
สามารถนั่งเรือหางยาวลอดถ้ำไปยังอีกด้านหนึ่งได้ โดยใช้เวลาเพียง 5
นาที เท่านั้น |
|
|
..........................................................
|
เกาะกาโรส |
|
อยู่ทางด้านตะวันออกของปลายแหลมสัก
พบภาพเขียนสีทั้งรูปคนและสัตว์ในบริเวณหน้าผาของอ่าวหินใบ |
|
|
|
..........................................................
|
เกาะทะลุ |
|
สภาพของเกาะช่วงกลางมีภูเขาสูง 45 เมตร
มีช่องทะลุกว้าง 30 เมตร บนเกาะมีนกนางแอ่น อาศัยทำรังอยู่จำนวนมาก |
|
|
..........................................................
|
หมู่เกาะห้อง
|
|
เป็นหมู่เกาะที่ประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่หลายเกาะ
อาทิเช่น เกาะเหลาหรือเกาะซากา เกาะเหลาเหรียม เกาะปากกะ เกาะเหลาลาดิง
เป็นต้น โดยมีเกาะห้องหรือเกาะเหลาปิเละ เป็นเกาะทาง
ตอนใต้ที่ใหญ่ที่สุด ลักษณะโดยทั่วไปเป็นเขาหินปูน
มีแนวปะการังทั้งในระดับน้ำตื้นและน้ำลึกเหมาะแก่ การดำน้ำ ตกปลา
การไปเที่ยวชมสามารถเช่าเรือจากอ่าวนาง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง
ผู้ประสงค์จะค้างแรมในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ต้องนำเต็นท์มาเอง
รายละเอียดติดต่อ กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. 579-7223, 579-5734
|
|
|
|
..........................................................
|
น้ำพุร้อนเค็ม |
|
นักท่องเที่ยวรวมทั้งคนในพื้นที่ต่างนิยมที่จะมาแช่น้ำ
เพราะมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรค
เช่น โรคเบาหวาน
โรคปวดเมื่อยตามข้อกระดูก
โรคไหลเวียนโลหิต โรคผดผื่นคัน
รวมทั้งมีบ่อโคลนอีก 1 บ่อ
ซึ่งสามารถนำมาพอกหน้า พอกตัวรักษาสิว
ฝ้า และโรคผิวหนังได้
แต่ระยะหลังกลับเงียบหายไปเนื่องจากการคมนาคมไม่สะดวก
ถนนทางเข้าหมู่บ้านจนถึงบ่อน้ำพุร้อนเค็มยังคงเป็นป่า
และต้องเดินด้วยเท้า
ต่อมาประมาณปี 2544
ทางจังหวัดกระบี่ก็ได้มีการผลักดันให้บ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแบบ
"สปา"
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะยกระดับให้เป็น
1 ของเอเซีย ล่าสุดเมื่อปี 2547
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ว่าจ้างบริษัทวิศวกรรม
สุวรรณภูมิ
เพื่อเข้ามาศึกษาความเป็นไปได้
ในการพัฒนาบ่อน้ำพุร้อนเค็มแห่งนี้ให้เป็น
"สปา" ระดับเอเซีย |
|
|
|