สวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2536
ตั้งอยู่บริเวณชายเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย
อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บนพื้นที่ประมาณ
6,500 ไร่ และในปี พ.ศ.2537 สมเด็จพระนางเจ้าฯ
พระบรมราชินีนาถได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาตให้ใช้ชื่อสวนพฤกษศาสตร์สากลแห่งแรกของประเทศไทยแห่งนี้ว่า"สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์"
หรือ Queen Sirikit Botanic Garden
ภายในสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์จัดแบ่งพื้นที่ออกเป็น
2 ส่วนหลักก็คือ พื้นที่เพื่อการศึกษาวิจัย
และส่วนพื้นที่สวนและการจัดแสดง
สำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป
จุดทีดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากก็คือกลุ่มอาคารเรือนกระจก
ซึ่งมีทั้งหมด 12 โรงเรือน
เป็นแหล่งแสดงพืชพรรณที่น่าสนใจ
โดยเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดคือ
เรือนแสดงไม้ป่าดงดิบ
ที่ได้จัดสภาพไว้เหมือนกำลังเดินอยู่ท่ามกลางป่าดงดิบจริง
ด้วยการจัดตกแต่งพื้นที่เป็นเนินเขาและน้ำตกเพื่อเพิ่มความหลากหลายของภูมิทัศน์
พืชพรรณที่จัดแสดงอาทิ พืชจำพวกหมาก ปาล์ม
และเรือนแสดงไม้ป่าดงดิบแห่งนี้ยังเป็นเรือนกระจกที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในเอเชียอีกด้วย
นอกจากเรือนไม้ดงดิบแล้ว เรือนพืชแล้ง
ก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ภายในเรือนพืชแล้งได้รวบรวมพืชสกุลกระบองเพชรต่างๆจากทั่วโลกทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่และยังออกดอกสีสันสวยงาม
และพืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน เสมา
นอกจากนี้ยังมีโรงเรือนกระจกที่จัดแสดงพรรณไม้อีกหลายชนิดอาทิเรือนไม้น้ำ
เรือนรวมพรรณบัว เรือนแสดงพันธุ์สัปปะรดสี
เรือนแสดงไม้ดอกไม้ประดับ เรือนแสดงพืชสมุนไพร
เป็นต้น
เรือนรวมพรรณกล้วยไม้ไทยก็เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ
โดยในปัจจุบันทางสวนได้ทำการรวบรวมและเพาะเลี้ยงไว้กว่า
350 ชนิด
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้เดินเที่ยวชมหลายเส้นทาง
อาทิ เส้นทางสวนหิน-เรือนรวมพรรณกล้วยไม้ไทย
เป็นเส้นทางเดินเท้าเลียบไปตามห้วยแม่สาน้อยผ่านไปทางสวนหิน
ซึ่งเป็นแหล่งรวมพืชแล้งนานาชนิด
และไปสิ้นสุดที่เรือนรวมพรรณกล้วยไม้ไทย
เส้นทางสวนรุกขชาติ
เริ่มจากศูนย์สารนิเทศเดินไปตามถนนสู่สวนรุกขชาติ
ผ่านวงศ์กล้วยไม้ ปาล์ม เตย บอน ราชพฤกษ์
เข้าสู้สวนเฟิน จากนั้นผ่านวงศ์ขิง-ข่า ปรง
และสนเขา
ทางสวนพฤกษศาสตร์ยังมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติ
อาคารหอพรรณไม้
และร้านขายของที่ระลึกที่มีสินค้าจากธรรมชาติ
และพันธุ์พืช
หรือไม้ดอกไม้ประดับจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจอีกด้วย
เวลาทำการ
เปิดให้เข้าชมทุกวัน
เวลา 8.30-17.00 น. ค่าธรรมเนียม ผู้ใหญ่ 20 บาท
เด็ก 10 บาท รถรวมทั้งคนขับ 50 บาท |