ปราสาทเมืองสิงห์
มีจุดมุ่งหมายสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา
นิกายมหายาน
จากการขุดตกแต่งของกรมศิลปากรที่ค่อยทำค่อยไปตั้งแต่ พ.ศ.
๒๔๗๘ แต่มาเริ่มบุกเบิกกันจริงจังเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๗
แล้วเสร็จเป็นอุทยานประวัติศาสตร์เมื่อ
พ.ศ. ๒๕๓0 จึงสวยงามดังที่เห็นอยู่ในวันนี้
ปราสาทเมืองสิงห์นี้กล่าวว่าสถาปัตยกรรมและปฏิมากรรม
คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (พ.ศ. ๑๗๒๐ -
๑๗๘๐) กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอม
จากการขุดแต่งของกรมศิลปากร
พบศิลปกรรมที่สำคัญยิ่งคือพระพุทธรูปนาคปรก
พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ นางปรัชญาปารมิตา
และยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่ง
รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชา
ปัจจุบันกรมศิลปากรได้นำไปเก็บรักษาอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
พระนคร แล้ว
คงเหลือแต่องค์จำลองไว้จากศิลาจารึกปราสาทพระขรรค์
เมืองพระนคร ประเทศกัมพูชา ซึ่งจารึกโดย พระวีรกุมาร
พระราชโอรสของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ จารึกชื่อเมือง ๒๓
เมือง ที่พระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ทรงสร้างไว้ มีเมืองชื่อ
ศรีชัยสิงห์บุรี ซึ่งสันนิษฐานกันว่าคือเมือง
ปราสาทเมืองสิงห์ นี่เอง และยังมีชื่อของเมือง
ละโวธยปุระ หรือ ละโว้ หรือลพบุรี
ที่มีพระปรางค์สามยอด เป็นโบราณวัตถุร่วมสมัย
ในสมัยรัชกาลที่ ๑
เมืองสิงห์เป็นเมืองหน้าด่าน รัชกาลที่ ๔
โปรดให้เจ้าเมืองสิงห์เป็น พระสมิงสิงห์บุรินทร์
แต่สมัยรัชกาลที่ ๕ เปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นมณฑลเทศาภิบาล
จึงยุบเมืองสิงห์เหลือแค่ตำบล
โบราณสถาน
โบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์
สามารถแบ่งได้เป็นเช่นนี้
โบราณสถานหมายเลข
โบราณสถานหมายเลข ๑
สันนิษฐานว่า
สร้างเพื่ออุทิศถวายพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร
ในนิกายมหายาน
ตัวปราสาทตั้งอยู่เกือบกึ่งกลางเมือง
ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน ประดับลวดลายปูนปั้น
ศิลาแลงนั้นได้มาจากเมืองครุฑ
ซึ่งเป็นแหล่งตัดหินริมแม่น้ำน้อย
ห่างจากเมืองสิงห์ไปทางทิศตะวันออกประมาณ
๕ กิโลเมตร
ซึ่งการลำเลียงแท่งศิลาแลงมานี้คงจะมาทางน้ำ
เช่นเดียวกับการสร้างนครวัด นครธม
ที่ลำเลียงมาไกลถึง ๕๐ กิโลเมตร
แต่ละแท่งหนักร่วมตัน
น่าจะใช้ช้างดันลากจูงจนลงแพแล้วลอยมาตามแควนี้
มาชักลากขึ้นฝั่งแล้วใช้ถมดินเอาก้อนศิลาแลงยกขึ้นไปบนฐานโบราณสถานยังมี
โคปุระ(ซุ้มประตู) ระเบียงคต
อยู่รอบปรางค์ประธานทั้ง ๔ ทิศบรรณาลัย
สร้างเพื่อเก็บคัมภีร์ทางศาสนา และ
กำแพงแก้ว
โบราณสถานหมายเลข ๒
โบราณสถานหมายเลข ๒
ยังมีปรางค์ประธาน โคปุระ ๔ ด้าน
แต่พังลงมามาก บูรณะได้น้อย
สถานที่ขุดพบเทวรูป
โบราณสถานหมายเลข ๓
โบราณสถานหมายเลข ๓
ตั้งอยู่นอกกำแพงแก้ว
เป็นโบราณสถานขนาดเล็ก ก่อด้วยศิลาแลง
โบราณสถานหมายเลข ๔
โบราณสถานหมายเลข ๔
อยู่ใกล้หมายเลข ๓ ยังบูรณะอยู่
เป็นอาคารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
หลุมขุดค้นทางโบราณคดี
หลุมขุดค้นทางโบราณคดี
ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
ซึ่งขุดค้นพบทั้งโครงกระดูก
เครื่องมือเครื่องใช้ ภาชนะสำริด ดินเผา
เครื่องมือเหล็ก
สร้องคอทำด้วยลูกปัดหินและลูกปัดแก้ว
ซึ่งชี้ชัดว่าชุมชนเหล่านี้เกิดขึ้นก่อนที่จะสร้างเมืองสิงห์
เพราะเป็นศพของคนที่ตายมา ๒,๐๐๐ ปีแล้ว
คงจะยุคเดียวกับคนในชุมชนบ้านเก่า