สังขละบุรี
|
เป็นอำเภอชายแดนติดต่อกับพม่า ห่างจากตัวเมือง ประมาณ 220
กม.และอยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิ 74 กม.
เส้นทางคดเคี้ยวไปตามไหล่เขา
และตัดผ่านภูเขาเลียบทะเลสาบเขื่อนเขาแหลม
มองเห็นทัศนียภาพที่งดงามอำเภอสังขละบุรี
มีชาวมอญอาศัยตั้งบ้านเรือนอยู่เป็นจำนวนมากตัวอำเภอตั้งอยู่บริเวณที่เรียกว่า
"สามประสบ" คือบริเวณที่ลำน้ำสามสาย อันได้แก่ ห้วยซองกะเลีย
ห้วยบิคลี่ และห้วยรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำแควน้อย
|
|
-----------------------------------------------------------------
วัดวังวิเวการาม
|
ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรีประมาณ 3 กม.
มีวิหารริมแม่น้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอ้นงดงามและเป็นที่จำพรรษาของ
"หลวงพ่ออุตตมะ" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังซึ่งประชาชนชาวไทย
ชาวมอญ
รวมทั้งกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นเคารพนับถือจากบริเวณวัดวังก์วิเวการามไปอีก
1 กม.จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ |
|
-----------------------------------------------------------------
สะพานไม้มอญ |
อยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการามนัก จะมีแยกทางเข้าเล็กๆ
(สังเกตดีๆ นะครับ ผมยังหาไม่ค่อยเจอเลย)
เมื่อเราเดินทางไปวัดฯ
เราสามารถสังเกตเห็นสะพานไม้มอญได้แต่ไกล
ลำพังสะพานนี้ก็ไม่ค่อยมีอะไรเด่นนัก แต่สิ่งที่ดึงดูดใจผม
มากที่สุดก็จะเห็นได้แก่ บรรยากาศรอบๆ ซึ่งจริงๆ
แล้วอำเภอสังขละนี้อยู่บริเวณที่สูง สภาพอากาศที่นี่จะร่มเย็น
และบางทีคลึ้มฟ้าคลึ้มฝนตลอดทั้งวัน
ทิวทัศน์โดยรอบเมื่อมองไปก็จะเห็นสีเขียวของทุ่งหญ้าตัดกับพื้นน้ำ
และขอบฟ้า สวยงามมากครับสังเกตได้ที่รูปข้างๆ ครับ |
|
-----------------------------------------------------------------
เที่ยวป่าสังขละบุรี |
เป็นบริการนำเที่ยวของสถานที่พักในเขตอำเภอสังขละบุรี โดยจัดให้นักท่องเที่ยวล่องเรือไปตามลำน้ำซองกะเลีย
แล้วต่อด้วยการนั่งช้างเที่ยวป่าและล่องแก่ง ผู้สนใจติดต่อล่วงหน้าที่บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 1 โทร. (034) 511200
จริงๆ แล้วที่ป่าสังขละยังมีน้ำตกลำธารอีกมากมาย
ซึ่งยังเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว thai-tour.com
มีโอกาสได้เข้าไปสัมผัสมาบ้างแล้ว (น้ำตกซึ่งไม่มีใครตั้งชื่อ
ดังรูปด้านขวามือ)
|
|
-----------------------------------------------------------------
ด่านเจดีย์สามองค์
|
ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลูก่อน ถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กม.
มีทางแยกขวาไปด่านเจดีย์สามองค์อีก 18 กม. ทางราดยางตลอดสาย
พระเจดีย์สามองค์นี้เดิมเรียกว่า หินสามกอง
เป็นที่สักการะของคนไทยในสมัยโบราณก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่เขตพม่า
ต่อมาในปี 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีของไทย
ได้เป็นผู้น้ำชาวบ้านสร้างเป็นเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้
นอกจากนี้บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ยังเป็นช่างทางเดินทัพที่สำคัญของไทยและพม่าในอดีต
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมตลาดชายแดนในเขตพม่าได้
โดยเสียค่าผ่านด่านชาวไทย 25 บาท ชาวต่างประเทศ 130 บาท
ถ้าเราได้ข้ามไปฝั่งพม่า เลยไปตามทางลูกรัง ประมาณ 10 กม.
เราจะพบ วัดเสาร้อยต้น (ดังรูปขวามือ)
|
|
-----------------------------------------------------------------
วัดเสาร้อยต้น |
วัดเสาร้อยต้น อยู่ห่างจากชายแดนไทย-พม่า ด่านเจดีย์สามองค์
ประมาณ 5 กม.
อยู่ในเขตประเทศพม่าใช้เสาใหญ่จำนวนมากในการสร้างวัด
สถาปัตยกรรมสวยงาม ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านพม่า
อยู่ติดกับด่านเจดีย์สามองค์
รายละเอียด :วัดเสาร้อยต้น สร้างขึ้นโดยหลวงพ่ออุตตมะ อยู่ใน
จ.พม่า มีด้วยกัน 3 ชั้น ใช้เสาจำนวนมากในการสร้างวัด
จึงเป็นที่มาของชื่อวัด มีสถาปัตยกรรมสวยงาม
บริเวณวัดยังมีตลาดให้เลือกซื้อสินค้าจากพม่า
|
|
-----------------------------------------------------------------
น้ำตกตะเคียนทอง |
เป็นน้ำตกที่ถูกปกคลุมด้วยป่าไผ่ ดงหวาย
ดงเฟิร์นและไม้ใหญ่ยืนต้นนานาพันธุ์บริเวณเทือกเขาตะนาวศรี
แนวเขตชายแดนไทย-พม่าในเขตสังขละบุรีตัวน้ำตกมีต้นน้ำอยู่ในเขตประเทศพม่าไหลเลาะเลื้อยมาตามแนวเขาที่กั้นเขตแดน
สู่ประเทศไทยที่ห้วยซองกาเลียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของต้นแม่น้ำแควน้อย
จากความอุดมสมบูรณ์ของป่า ทำให้เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี
แต่ละชั้นมีความงดงามแปลกตา ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นลานกว้าง
มีน้ำตกไหลผ่านกระจายกันออกไปนักท่องเที่ยวสามารถเดินลุยน้ำไปตามน้ำตกเพื่อขึ้นไปชมชั้นสูงๆ
ได้
การเดินทาง
ขับรถจากทางแยก อ.สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ไปประมาณ 8 กม.
จะมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกอยู่ริมถนนด้านขวาเลี้ยวตามทางแยกไปบนถนนลูกรังอีกประมาณ
12 กม. เส้นทางค่อนข้างแคบและบางช่วงมีเนินสูงชัน
และต้องตัดผ่านลำธารเป็นบางช่วง จึงควรใช้รถขับเคลื่อน 4 ล้อ
หรือรถกะบะในการเดินทาง
เมื่อถึงจุดพักรถจะต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 30 นาที
จึงจะถึงตัวน้ำตกชั้นแรก
หากต้องการความสะดวกควรติดต่อสอบถามรายละเอียดเส้นทางการเดินทางหรือว่าจ้างผู้นำทางจากชาวบ้านในเขตอำเภอสังขละบุรีหรือติดต่ออำเภอสังขละบุรี
หรือติดต่อผ่านบริษัทนำเที่ยว
ที่มีการจัดนำเที่ยวในเส้นทางน้ำตกสายนี้
|
|
-----------------------------------------------------------------
ถ้ำวังตะเคียน |
อยู่ในเขตบ้านวังตะเคียน
ห่างจากตัวเมือง 77 กม. ตามทางหลวงหมายเลข
323 ถึง กม.ที่ 10 แยกซ้ายเข้าทาง
หลวงหมายเลข 3229 เป็นทางลูกรัง
ภายในถ้ำวังตะเคียนมีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก |
|
-----------------------------------------------------------------
น้ำตกกระเต็งเจ็ง |
เป็นน้ำตกที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อ.สังขละบุรี
เป็นน้ำตกที่มีความสูงถึง 36 ชั้น
นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายผ่านสายน้ำขึ้นไปตามชั้นต่างๆ
จนถึงชั้นบนสุด
เมื่อขึ้นไปถึงแล้วนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางกลับได้
โดยไม่ใช้ทางเดิม
แต่เปลี่ยนเป็นเส้นทางเดินป่าที่ยังคงสภาพป่าดิบอันสมบูรณ์ระหว่างทางจะผ่านดงเฟิร์นที่กว้างใหญ่ตระการตา
ผ่านป่ามะไฟป่าและต้นไม้ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 13 คนโอบ
ตลอดทางเดินจะได้ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังก้องอยู่ในป่าตลอดเวลา
จัดเป็นเส้นทางเดินป่าที่สวยงามและน่าตื่นตาตื่นใจอย่างยิ่ง
การเดินทาง
ไปน้ำตกกระเจ็งใช้เส้นทางทองผาภูมิ-สังขละบุรีจนถึงอุทยานแห่งชาติเขาแหลม
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณขวามือของถนน ก่อนถึง อ.สังขละบุรีประมาณ 30
กม. นำรถจอดที่อุทยาน แล้วเดินทางเท้าต่อไปอีกประมาณ 2-3
ชั่วโมง ก็จะถึงตัวน้ำตก
การเดินทางควรติดต่อหาผู้นำทางที่เชี่ยวชาญโดยอาจติดต่อผ่านทางบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี
หรือในเขตอ.สังขละบุรี
ทั้งนี้เนื่องจากสภาพป่ามีลักษณะเป็นป่าดงดิบ
อาจทำให้เกิดพลัดหลงได้
และควรสวมเสื้อผ้าในชุดเดินป่าที่รัดกุม
เนื่องจากมีทากชุกชุมตลอดเส้นทางทุกฤดูกาล
|
|
-----------------------------------------------------------------
น้ำตกคลีตี้ |
เป็นภาษากระเหรี่ยงแปลว่า “เสือโทน” มีต้นน้ำอยู่บนยอดเขาดีกะ
ใกล้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
การเดินทางไปน้ำตกคลีตี้บนต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 วัน
จากบ้านกระเหรี่ยงคลีตี้ และจะต้องมีลูกหาบและคนนำทาง
ส่วนน้ำตกคลีตี้ล่าง อยู่เหนือทะเลสาบแควใหญ่บริเวณลำเขางู
ใช้เวลาเดินทางเรือจากท่าเรือกระดานหรือท่าหม่องกระแทะ ประมาณ
2 ชั่วโมงครึ่ง
|
|
-----------------------------------------------------------------
ซองกาเลีย |
ลำน้ำซองกาเลีย อยู่ในอำเภอสังขละบุรี
บริเวณชายแดนไทย-พม่า เป็นสถานที่ดินแดนชาวมอญ มีสะพานมอญ
หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ สร้างขึ้นจากสะพานไม้
ตัดผ่านลำน้ำซองกาเลียแห่งนี้ด้วย
สำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมา
|
|
-----------------------------------------------------------------
ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล |
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสังขละบุรี ห่างจากด่านเจดีย์สามองค์ ซึ่งเป็นจุดผ่านแดนระหว่างไทยกับพม่า ประมาณ 1 กม. อาณาเขตของถ้ำแก้วสวรรค์บันดาลกินบริเวณกว้าง เนื่องจากเป็นถ้ำที่อยู่ในภูเขาทั้งลูก
ภายในยังแบ่งเรียกเป็นถ้ำต่างๆ อีก 4 ถ้ำ คือ ถ้ำวังบาดาล ถ้ำมรกต ถ้ำแก้ว และถ้ำสวรรค์บันดาล แต่ละถ้ำมีความสลับซับซ้อน
สามารถเดินเชื่อมทะลุถึงกันได้หมดทุกถ้ำ ภายในมีหินย้อยรูปทรงต่างๆ งดงามมาก เมื่อกระทบกับแสงไฟจะสะท้อนแสงแวววาวคล้ายถูกโรยไว้ด้วยกากเพชร
การเข้าไปเที่ยวชมนักท่องเที่ยวควรแต่งกายด้วยชุดที่รัดกุม เลือกสวมรองเท้าที่เหมาะสมและต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะบางถ้ำมีโขดหินที่สูงชัน บางถ้ำต้องใช้
วิธีการคลานและมุดไปตามซอกของช่องหิน และบางถ้ำที่มีระดับน้ำสูงประมาณหัวเข่า หากต้องการจะเที่ยวชมให้ครบหมดทุกถ้ำ จะต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงขึ้นไป |
|
-----------------------------------------------------------------
เมืองบาดาล(วัดใต้น้ำ) |
ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลู อำเภอ สังขละบุรี จ. กาญจนบุรี
เมืองบาดาลหรือวัดใต้น้ำนั้น เดิมเป็น วัดวังก์วิเวการาม
ที่หลวงพ่ออุตตมะเป็นผู้ก่อสร้าง มีการสร้างเขื่อนเขาแหลมจึงได้ย้ายวัดบนเขา
วัดเดิมนั้นได้จมอยู่ใต้น้ำหลายสิบปี เป็นสถานที่
unseen in Thailand
สามารถนั่งเรือข้ามมาชมความงานของวัดนี้
ช่วงเวลาที่แนะนำ มีนาคม - เมษายน
ช่วงน้ำขึ้นจะเห็นแค่ยอดโบสถ์เท่านั้
|
|
-----------------------------------------------------------------
ตลาดสังขละบุรี |
ตลาดสังขละบุรีตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับสะพานมอญ
ซึ่งเป็นตลาดที่มีสินค้าให่เลือกจับจ่ายใช้สอยมากมาย
ปลาหลายหลายชนิด ผักผลไม้สด อาหารคาวและหวานหรือให้เลือกซื้อ
เลือกชม อาหารพื้นเมือง และได้ชมชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมอญ
และความงามของทัศนียภาพโดยรอบ
|
|
-----------------------------------------------------------------
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร |
มีพื้นที่อยู่ในเขตอำเภอสังขละบุรี
จังหวัดกาญจนบุรี และอำเภออุ้มผาง
จังหวัดตาก
ภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน
ยอดเขาสูงสุดคือ เขาใหญ่
อยู่บริเวณตอนกลางของพื้นที่
เป็นต้นน้ำของลำธารหลายสาย
มีป่าไม้หลายชนิดประกอบด้วยทุ่งหญ้า
ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดงดิบ
มีสัตว์ป่าหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
การเดินทาง
ไปยังเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร
ยังไม่สะดวกนัก
เนื่องจากสภาพถนนบางช่วงไม่ดี
จากเส้นทางทองผาภูมิ-สังขละบุรี
บริเวณแยกห้วยเสือ ไปยังบ้านคลีตี้
ระยะทาง 42 กิโลเมตร
ต่อจากนั้นมีทางแยกไปที่ทำการเขตฯ
ที่ห้วยซ่งไท้ อีก 40 กิโลเมตร
ผู้ที่จะไปยังทุ่งใหญ่นเรศวรต้องทำหนังสือขออนุญาตล่วงหน้า
15 วัน ไปที่ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า
กรมป่าไม้ บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 579-4847 |
|
|