ล่องแก่ง

ติดต่อสำรองที่พัก                 02-1641001-8  สนง ไทยทัวร์                  เบอร์เดียวทั่วไทย

กิจกรรมการท่องเที่ยวท้าทายความสามารถ หนึ่งในกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ถ้าคุณเป็นคนชอบความท้าทาย ชอบสัมผัสธรรมชาติ ชอบเดินป่าละก็ ล่องแก่งเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด แก่งต่างๆที่มีอยู่ในประเทศไทยมีอยู่มากมาย มีตั้งแต่ง่ายมาก จนกระทั่งยากสุดๆ ถ้าจะให้ดีควรจะไปเยือนทุกแก่ง เพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ตนเอง แต่ทั้งนี้ควรจะเริ่มผจญภัยตั้งแต่ แก่งที่ง่าย ไปแก่งที่ยากเพื่อความชำนาญ เหมือนการเรียนเลื่อนชั้น ที่สำคัญควรเตรียมพร้อมทั้งกำลังกาย และกำลังใจ ยิ่งถ้าจะให้สนุกก็คงต้องไปกันเป็นกลุ่ม แต่ความปลอดภัยก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ดังนั้นก็ไม่ควรประมาท 

ข้อปฏิบัติในการล่องแก่ง

  1. ก่อนที่จะทำการล่องแก่ง เราควรศึกษาและสำรวจเส้นทางของลำน้ำ และกระแสน้ำที่ไหลอย่างดีเสียก่อนว่า สายน้ำที่ไหลและทิศทางของน้ำไหลผ่านจุดใด และจุดใดเป็นช่วงยากหรือง่ายของแก่ง

  2. อุปกรณ์ในการล่องแก่งไม่ว่าจะเป็นแพยาง หรือ แพไม้ไผ่ ควรตรวจสอบให้ละเอียดก่อนที่จะทำการล่องแก่ง

  3. ก่อนการล่องแก่งควรฝึกซ้อมทักษะการพายเรือ การถ่อเรือ การจับไม้พาย และการนั่งการทรงตัวในเรือเสียก่อน

  4. ควรมีความพร้อมในการเตรียมเครื่องป้องกันตัว โดยการสวมหมวกกันน๊อค เพื่อกันกระแทกบริเวณศรีษะ และเสื้อชูชีพเพื่อช่วยในการพยุงตัว หากเกิดหลุดจากแพ หรือเรือยาง

  5.  ส่วนเสื้อผ้าควรสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขาสั้น รองเท้าที่สวมควรเป็นรองเท้าที่มีสายรัดข้อเท้า ไม่ควรสวมรองเท้าแตะ

  6. ในขณะล่องแก่ง ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้บังคับหัวเรือและท้ายเรือที่ให้สัญญาณบอกสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น 

  7. ควรมียาประจำตัวและยาสามัญประจำบ้านติดตัวไปด้วย

  8. ฝึกกำลังใจให้เต็มที่ และตั้งสติ พร้อมที่จะเผชิญกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆในการล่องแก่ง

  9. หากมีการรับประทานอาหาร หรือไปประกอบอาหารในป่า ควรเลือกรายการอาหารที่สะดวกง่ายและ หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องกระป๋อง ภาชนะประเภทกล่องโฟม ขวดน้ำ พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียว เพื่อลดขยะ และมลพิษ ทุกครั้งที่เก็บแคมป์ ควรดูแลความสะอาด พยายามให้พื้นที่กลับสู่สภาพเดิมให้มากที่สุด 

วิธีการช่วยเหลือตนเองเมื่อตกน้ำ
หากพลัดตกลงไปในน้ำ ควรจดจำวิธีการช่วยเหลือเพื่อนำไปปฏิบัติตามดังนี้

  • พยายามว่ายน้ำเข้าหาเรือ หรือเข้าฝั่งให้เร็วที่สุด เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับอันตรายจากกระแสน้ำและแก่งหิน

  • พยายามลอยตัวอยู่เหนือน้ำในท่านอนหงาย ยกขาสองข้างขึ้นในระดับผิวน้ำ เพื่อให้เสื้อชูชีพพยุงตัวให้ลอย

  • ในขณะที่กำลังถูกน้ำพัดไปเรื่อยๆ ให้เหยียดขาไปตามด้านที่กระแสน้ำไหล เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากการกระแทกของหิน และค่อยๆเตะขาในน้ำ เพื่อช่วยชะลอความเร็วของกระแสน้ำที่พัด

  • อย่างอเข่าหรือคว่ำหน้าเพราะจะทำให้ร่างกายไปกระแทกกับสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้

  • หากไม่มีโอกาสว่ายน้ำเข้าหาฝั่ง พยายามตั้งสติ และหาที่ยึดเกาะเพื่อรอเรือ หรือทีมช่วยเหลือมารับ

  • หากตกในกระแสน้ำเชี่ยว ไม่ควรรีบเกาะเรือยางเพราะกระแสน้ำจะพัดพาเรือไปด้วยความเร็ว อาจได้รับอันตรายจากโขดหินหรือกิ่งไม้

  สถานที่ล่องแก่ง ของนักท่องเที่ยวในเมืองไทย

ล่องแก่งแม่ตื่น จ.เชียงใหม่ แก่งระดับ 3

ล่องแก่งแม่แตง จ.เชียงใหม่ แก่งระดับ 2-4

ล่องแก่งแม่กลอง จ.ตาก แก่งระดับ 2-3

ล่องแก่งทีลอเร จ.ตาก แก่งระดับ 3-4

ล่องแก่งเกาะร้อย จ.กำแพงเพชร แก่งระดับ 3

ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จ.พิษณุโลก แก่งระดับ 4-5

ล่องแก่งลำน้ำว้า จ.น่าน แก่งระดับ 3

ล่องแก่งห้วยเขย่ง จ.กาญจนบุรี แก่งระดับ 3

ล่องแก่งแม่น้ำรันตี (แพไม้ไผ่) แก่งระดับ 3

ล่องแก่งซองกาเรีย จ.กาญจนบุรี แก่งระดับ 3

ล่องแก่งหินเพิง จ.ปราจีนบุรี แก่งระดับ 3-4

ล่องแก่งโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี แก่งระดับ 2-3

ล่องแก่งน้ำตกมวกเหล็ก จ.สระบุรี แก่งระดับ 2-3

ล่องแก่งลำตะคอง จ.นครราชสีมา แก่งระดับ 2-3

ล่องแก่งพะโต๊ะ จ.ชุมพร แก่งระดับ 3

ล่องแก่งแก่งกรุง จ.สุราษฎร์ธานี แก่งระดับ 3

ล่องแก่งคลองกลาย จ.นครศรีธรรมราช แก่งระดับ 2-3

ล่องแก่งน้ำตกไพรสวรรค์ จ.ตรัง แก่งระดับ 3

ล่องแกงต้นน้ำเพชรบุรี จ.เพชรบุรี แก่งระดับ 2-3

                 ระดับของแก่ง

ระดับ 1. ง่ายมาก น้ำไหลเอื่อย คนทั่วไปสามารถพายได้

ระดับ 2. ธรรมดา น้ำไหลแรง ต้องมีทักษะฝีมือในการพายพอสมควร

ระดับ 3. ปานกลาง มีแก่งตื่นเต้น ต้องเรียนรู้การพาย จึงต้องฝึกเทคนิคบ้าง

ระดับ 4. ยาก มีแก่งที่ต้องใช้เทคนิคฝีมือ ทักษะในการพาย และต้องระมัดระวังในการล่องแก่ง

ระดับ 5. ยากมาก มีน้ำไหลเชี่ยว ใช้เทคนิคและประสบการณ์ฝีมือในการพายสูง ต้องเพิ่มความระวังเป็นพิเศษ

ระดับ 6. อันตราย แก่งมีลักษณะเป็นน้ำตก ไม่เหมาะสำหรับการล่องแก่ง

สิ่งที่ควรนำติดตัว

ของใช้ส่วนตัว ยารักษาโรค กล้องถ่ายรูป ฟิล์ม ถุงมือ ถุงเท้า ไฟฉาย เสื้อกันหนาว ยาทากันยุง ยาแก้เมารถ รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าแตะ

อุปกรณ์ที่ใช้ในการล่องแก่ง

เรือยาง

ไม้พาย

เสื้อชูชีพ

หมวกกันน๊อค

..............................................................................................

 ล่องแก่ง แม่น้ำปาย
แม่น้ำปายเป็นแม่น้ำสายหลักของจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีต้นกำเนิดมาจากทิวเขาถนนธงชัย และแดนลาว แล้วไหลผ่าน 3 อำเภอในจังหวัดเดียว คือ อ.ปาย-อ.ปางมะผ้า-อ.เมือง ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน แต่ละช่วงมีทิวทัศน์ที่สวยงาม
การล่องแก่งแม่น้ำปาย รวมระยะทางประมาณ 50 กิดลเมตร ความยากของแก่งมีตั้งแต่ระดับ 1-4 ช่วงฤดูฝนอาจจะถึงระดับ 5 ซึ่งมีความยากมาก และระดับน้ำรุนแรง นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสธรรมชาติที่สวยงามและความสนุกสนานตลอดสายน้ำ เช่น เล่นน้ำตกซู่ซ่า ผจญภัยแช่ตัวในบ่อโคลน กระโดดหน้าผาสูง ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่ง คือ เดือนมิถุนายน-กุมภาพันธ์ของทุกปี การล่องแก่งต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น

..............................................................................................

ล่องแก่งหินเพิง

เขาใหญ่ ชื่อที่ถูกใช้เรียกเทือกเขาอันสูงใหญ่ที่ถอดตัวยาวกั้นขวาง ระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน นับเป็นมรดกส่วนหนึ่งที่ตกทอดมาจากดงพญาเย็น ผืนป่าที่ยังคงความอุดมสมบรูร์อันเปรียบเสมือนฟองน้ำตามธรรมชาติ ที่คอยดูดซับความชุมชื้นของผืนป่าไว้ให้เป็นที่มาของต้นน้ำลำธาร ซึมไหลผ่านลงมาเป็นสายน้ำใหญ่มากมาย นับแต่ห้วยพระยาไกร ห้วยพระเพลิง และจากต้นน้ำอีกมากมายบนบนเขาแหลม และเขาร่มน้อย ที่รวมกันเป็นห้วยใสใหญ่  ไหลหลากผ่านป่าทึบลงสู่หุบเหวเป็นธารน้ำตกวังเหวอันยิ่งใหญ่ จากนั้นก็ลดหลั่นผ่านโขดหินมากมาย จนกลายเป็นแก่งน้ำเชี่ยวในตอนปลายที่รู้จักกันในนาม “แก่งหินเพิง” 

แก่งหินเพิงอยู่ในเขตอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรีมีลักษณะทางธรณีวิทยาเป็นชั้นหินทราย ครั้นเมื่อถึงฤดูฝน น้ำจะไหลหลากอย่างรุนแรงเกิดเป็นเกาะแก่งมากมาย เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมอย่างยิ่ง สำหรับผู้ที่ชอบความท้าทายสายน้ำเชี่ยวในรูปแบบการล่องเรือผจญแก่ง เพราะที่นี่มีแก่งสนุกๆให้คุณท้าทายชนิดที่จะประทับใจมิรู้ลืมเลยทีเดียว
 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

 กิจกรรมการล่องแก่งนั้นคุณไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐาน การพายเรือ, การว่ายน้ำมาก่อน ก็สามารถร่สมผจญแก่งหินเพิงได้สบายๆเพราะก่อนล่องเรือในสายน้ำเชี่ยว ทางบริษัทผู้ประกอบการท่องเที่ยวจะจัดโปรแกรมการฝึกพายเรือ เพื่อต้องการให้นักท่องเที่ยวที่มาล่องแก่งมีความรู้ ความเข้าใจในขั้นพื้นฐาน เกี่ยวกับวิธีการพายเรือยาง การศึกษาสายน้ำการช่วยตัวเองเมื่อผลัดตกน้ำ ทั้งนี้จะมีการสาธิต พร้อมให้ทุกคนปฏิบัติตามให้คุณเคย บางคนอาจไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีการฝึกด้วย ก็เพื่อความปลอดภัย และออกไปล่องแก่งอย่างสนุกสนาน มั่นใจในความเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง

วันที่จะล่องแก่งต้องเดินทางไปหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ ขญ.9 จุดเริ่มต้นของการไปล่องแก่ง ไกด์แจกอุปกรณ์เสริมให้ทุกคนติดตัวไป คือ เสื้อชูชีพ, หมวกกันน็อก และไม้พาย ก่อนนำขบวนพาเดินเลาะทุ่งหญ้าเข้าไปในดงป่า ระยะทางราว 2.5 กิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.เศษๆก็จะพ้นออกมาจากแนวป่า เรือยางได้ถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว ไกด์จะเปลี่ยนมาเป็นกัปตันคุมท้ายเรือที่พร้อมจะพาเราไปผจญคลื่นยักษ์กลางลำน้ำใสใหญ่ ในแก่งหินเพิง

ลำน้ำใสใหญ่แห่งนี้จะมีแก่งเล็กแก่งน้อยอยู่อย่างต่อเนื่อง สภาพธรรมชาติก็ยังคงความสมบูรณ์ดีช่วง ที่กระแสน้ำไหลเอื่อยยังสามารถดูนกชมพรรณไม้ได้เช่นกัน นกที่จะเห็นได้มีนกกระยาง นกกระจาบคา นกกระปูด และนกกระเต็น ที่มันเกาะตามตอไม้ริมฝั่งโฉบจับปลากินให้เห็นอยู่เรื่อๆ

แก่งใหญ่สุดท้ายสายน้ำนี้คือ แก่งวังไทร ซึ่งมีโขดหินใหญ่ใต้น้ำเยอะมาก ทำให้กระแสน้ำไหลเป็นลอนคลื่นลูกใหญ่ม้วนตัวขึ้นเป็นวง มีระยะทางยาวราว 60 เมตร หลังจากพ้นแก่งวังไทรมาแล้ว  ก็จะมาหยุดพักกินมื้อกลางวันต่างแลกเปลี่ยนความสนุกสนานมันสะใจ ความตื่นเต้น บทหนึ่งของแม่น้ำใสใหญ่คงจะหมดไปเมื่อหมดฤดูฝน แต่กิจกรรมล่องเรือยางก็ไม่หมดไปเพราะยังมีสายน้ำอีกหลายสาย ที่สามารถจะล่องเรือผจญแก่งได้ทั้งปี แต่สำหรับสายน้ำเชี่ยวใกล้กรุงแล้วต้องเป็น “แก่งหินเพิง”

ฤดูกาลที่เหมาะสม     ในการล่องแก่งหินเพิง คือ ฤดูฝน ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงตุลาคม ซึ่งระหว่างวันที่ 11-15 กรกฎาคม  จังหวัดปราจีนบุรีจะจัดเทศกาลล่องแก่งหินเพิงขึ้น เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวให้เต็มที่

การเดินทาง     จากกรุงเทพฯไปถึงแยกรังสิต ตามทางหลวงหมายเลข 305 เลียบคลองรังสิต ผ่านอำเภอองครักษ์ นครนายก เข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 33 ไปอำเภอกบินทร์บุรี ถึงบ้านสระดู่ แยกซ้ายไปตามเส้นทาง รพช. สายสระดู่-สะพานหิน มีป้ายแยกซ้ายที่บ้านหนองแหนไปแก่งหินเพิง ระยะทางราว 8 กิโลเมตร

......................................................................................

ล่องแก่งลำน้ำว้า

ลำน้ำว้า อยู่ในจังหัวดน่าน คือ ต้นธารสายหนึ่งของแม่น้ำน่าน ที่มีต้นกำเนิดจากเขาจอม บนเทือกเขาผีปันน้ำ อันพาดผ่านชายแดนระหว่าง ไทยลาว ปกคลุมด้วยป่าต้นน้ำในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติแม่จริม อำเภอแม่จริม จังหวัดน่าน ลักษณะของสายน้ำกำแพงผา หินสองฟากฝั่งเป็นป่าผลัดใบและป่าเบญจพรรณ  ลำน้ำว้ามีสายน้ำที่เร้าใจและสนุกสนานกับแก่งที่เป็นลูกคลื่น ไม่อันตรายจนเกินไป จัดว่าอยู่ในระดับ 3-4  ด้วยแก่งต่าง ๆ ใน สายน้ำนี้ที่ทอดยาวเป็นระยะ ๆ นับจากจุดเริ่มต้นที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่จริม จะผ่านแก่งน้ำปุ๊ แก่งหลวง แก่งห้วยสาลี่ แก่งต้นไทร แก่งน้ำวนไปจนสิ้นสุดที่หาดบ้านไร่ โดยใช้ระยะเวลาในการล่องแก่งทั้งสิ้น ประมาณ 4-5 ชม.

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
  ล่องแก่งน้ำว้า พักที่ ป่าปัวภูคา  
ท่องเที่ยว
ที่พัก: ป่าปัวภูคา
ทัวร์ล่องแก่ง: น่านปางช้าง
 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

ฤดูกาลที่เหมาะสม     ในการล่องแก่งลำน้ำว้า คือ สามารถล่องได้ทั้งปี มี 2 ช่วง

พฤษภาคม – กรกฎาคม        โปรแกรมพิชิตแก่งน้ำว้าหน้าฝน

กันยายน – กุมภาพันธ์         โปรแกรมพิชิตแก่งน้ำว้าหน้าหนาว

การเดินทาง     จากกรุงเทพฯไปตามเส้นทางสาย กรุงเทพฯ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-แพร่-นาน ระยะทางราว 668 กิโลเมตร ใช้เวลาการเดินทางประมาณ 8 ชม.

......................................................................................

ล่องแก่งรันตี

ที่ตั้ง     ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกะเหรี่ยงกองม่องทะ รอยต่อของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านทิศตะวันตก ระยะทางห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรีระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร

ต้นกำเนิดของสายน้ำ     เกิดจากผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรทางด้านทิศตะวันตกไหลลงมา กลายเป็นแม่น้ำรันตีผ่านหมู่บ้านกะเหรี่ยงกองม่องทะ ลอดใต้สะพานรันตีลงสู่อ่างเก็บน้ำเขาแหลมต่อไป

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

ระดับความยากง่าย     การล่องแก่งลำน้ำรันตีระดับความยากง่ายขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้

ฤดูฝน  เดือนมิถุนายน-ตุลาคม ระดับ 2-3

ฤดูหนาว  เดือนพฤศจิกายน-มกราคม ระดับ 2

ฤดูร้อน  เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ระดับ 1

แก่งต่าง ๆ ที่จะต้องผ่าน     แก่งหน้าวัด  แก่งมะนาว

จุดเด่นของการล่องแก่งลำน้ำสายน้ำ     การล่องแก่งลำน้ำสายนี้จุดเด่นอยู่ที่การได้นั่งเรือหางยาวชมทัศนียภาพของอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลม ชมวัดหลวงพ่ออุตตมะเดิมที่จมอยู่ภายใต้น้ำเหนืออ่างเก็บน้ำ ตลอดจนวิถีชีวิตชาวมอญและกะเหรี่ยงที่ดำรงชีวิตอยู่สองข้างริมฝั่งน้ำในอ่างเก็บน้ำเขาแหลม ตลอดจนสะพานไม้แห่งแรงศรัทธาของชาวบ้านที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ จากนั้นจึงมานั่งช้างเดินป่าชมวิถีชีวิตของชาวมอญและกะเหรี่ยงเลี้ยงช้าง ซึ่งยังคงดำเนินวิถคชีวิตสืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ ขี่ช้างข้ามลำห้วยรันตีจนถึงจุดของการล่องแก่งด้วยแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวจะต้องใช้ไม้ไผ่ถ่อบังคับทิศทางของแพไม้ไผ่ด้วยตนเอง สร้างความสนุกสนาน เร้าใจเป็นอย่างมาก จากนั้นแวะเล่นน้ำตลอดสองข้างทางในการล่องแก่งลำน้ำสายนี้สิ้นสุดการล่องแพไม้ไผ่ที่หมู่บ้านมอญ และกะเหรี่ยงเลี้ยงช้างจากนั้นจึงนั่งเรือหางยาวกลับสู่พีเกสท์เฮ้าส์สถานที่พักแรมต่อไป

ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด     การล่องแก่งลำน้ำสายนี้สามารถล่องได้ทุกฤดูกาล ถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝน ปริมาณน้ำจะมาก กระแสน้ำจะไหลเชี่ยวพอสมควร และจะท่วมแก่งหินต่าง ๆ สำหรับฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคม กระแสน้ำห้วยรันตีจะใสไหลเย็นแลเห็นตัวปลาเหมาะสำหรับการล่องแก่งเป็นยิ่งนัก สามารถล่องได้ทุกเพศวัยไม่จำกัดอายุ

ข้อควรระวังในการล่องแก่งสายนี้

ปฏิบัติตามคำแนะนำของไกด์นำทางในการบังคับแพไม้ไผ่อย่างเคร่งครัด

งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ทุกครั้งเมื่อลงล่องแก่ง

การเดินทาง     จากตัวอ.เมือง สังขละบุรี นั่งเรือหางยาวผ่านวัดเก่าหลวงพ่ออุตตมะที่จมอยู่ใต้น้ำ หมู่บ้านแพริมน้ำของชาวมอญและชาวกะเหรี่ยงลอดใต้สะพานรันตี สวนกระแสน้ำของลำห้วยรันตีขึ้นไป ใช้เวลาในการนั่งเรือหางยาวประมาณ 45 นาที ก็จะถึงบริเวณหมู่บ้านกะเหรี่ยง-มอญเลี้ยงช้าง อันเป็นจุดเริ่มต้นของการผจญภัยในทริปนี้  

......................................................................................

ล่องแก่งซองกาเลีย

ที่ตั้ง     ตั้งอยู่ใน อ.สังขละบุรีบนถนนสาย อ.สังขละบุรี-ด่านเจดีย์สามองค์ ห่างจากตัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

 

ต้นกำเนิดของสายน้ำ     เกิดจากผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทางด้านทิศตะวันตกไหลลงมาเป็นน้ำตกตะเคียนทอง จากนั้นไหลมารวมกับลำน้ำโรคี่ กลายมาเป็นลำห้วยซองกาเลีย จากนั้นจึงไหลลงสู่อ่างเก็บน้ำเขาแหลมใน อ.สังขละบุรี ต่อไป

ระดับความยากง่าย     การล่องแก่งลำน้ำซองกาเลียระดับความยากง่ายขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้คือ

ฤดูฝน  เดือนมิถุนายน-ตุลาคม  ระดับ 2-3

ฤดูหนาว  เดือนพฤศจิกายน-มกราคม  ระดับ 2

ฤดูร้อน  เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม  ระดับ 1

 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

ระยะเวลาในการล่องแก่ง 3 ชั่วโมง

แก่งต่าง ๆ ที่จะต้องล่องผ่าน   แก่งแพบิน แก่งวังฮิ แก่งแคนยอน แก่งซองกาเลีย แก่งแม่ติ้ว

จุดเด่นของการล่องแก่งลำน้ำสายนี้  การล่องแก่งลำน้ำสายนี้ จุดเด่นอยู่ที่จำนวนแก่งท้าทายมือสมัครเล่นและนักล่องแก่งมือใหม่ให้มาตื่นเต้นเร้าใจกับแก่งต่าง ๆ ที่ล่องผ่านโดยในแต่ละแก่งจะเป็นแก่งที่มีโขดหินน้อยใหญ่จมอยู่ใต้ผืนน้ำ หรืออาจโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำบ้างเล็กน้อยในบางช่วงของการล่องแก่ง การล่องแก่งของลำน้ำสายนี้สามารถล่องได้ทั้งเรือยางและแฟไม้ไผ่ กระแสน้ำไม่รุนแรงจนเกินไปนักในช่วงฤดูร้อนและฤดูหนาว แต่อาจจะมีความบ้างบางครั้งในช่วงฤดูฝน สามารถล่องได้ทุกเพศทุกวัยไม่จำกัดอายุ แต่การล่องด้วยแพไม้ไผ่นักท่องเที่ยวจะต้องมีทักษะในการบังคับทิศทางของแพบ้างพอสมควร

ช่วงเวลาที่เหมาะสม     การล่องแก่งลำน้ำสายนี้สามารถล่องได้ทุกฤดูกาลถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝนปริมาณน้ำจะมาก กระแสน้ำจะไหลเชี่ยวพอสมควรสำหรับฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุด จะอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม กระแสน้ำในลำน้ำซองกาเลียจะใสไหลเย็นจนแลเห็นตัวปลาและสามารถล่องได้ทุกเพศ ทุกวัยไม่จำกัดอายุ

ข้อควรระวังในการล่องแก่งสายนี้

ควรสวมชูชีพและหมวกกันน็อคทุกครั้งเมื่อลงล่องแก่ง

ปฎิบัติตามคำแนะนำของไกด์นำทางอย่างเคร่งครัด

งดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกครั้งที่ลงล่องแก่ง

การเดินทาง     จากทางแยกเข้า อ.สังขละบุรีจะมีทางแยกขวามือถนนราดยางไปด่านเจดีย์สามองค์ ระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร จะมีทางแยกเลี้ยวขวามือถนนราดยางอย่างดีเข้าไปอีกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ก็จะถึงตอนล่างของน้ำตกตะเคียนทองเป็นจุดเริ่มต้นของการล่องแก่งทริปนี้  

......................................................................................

ล่องแก่งน้ำเข็ก ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ที่ตั้ง บนทางหลวงหมายเลขที่ 12 พิษณุโลก-หล่มสัก นับตั้งแต่ กิโลเมตรที่ 53 มาจนถึง กิโลเมตรที่ 56

 

ระดับความยากง่าย   “ลำน้ำเข็ก” ได้ชื่อว่าเป็นลำน้ำที่สนุกที่สุดแห่งหนึ่งลำหรับการล่องแก่งด้วยเรือยาง น้ำเข็กประกอบด้วยแก่งต่าง ๆ ถึง 18 แก่ง ระดับความยาก 2-5 ของแก่งเชิงน้ำตกต่าง ๆ จุดเด่นของการล่องแก่งน้ำเข็ก คือสนุกลื่มเหนื่อย เพราะมีแก่งตลอดช่วงการล่องเรือ บางแก่งเป็นชั้นน้ำตก บางแก่งเป็นเหมือนขั้นบันได ยาวนับร้อยเมตร ลดระดับลงไป และยังแก่งอื่น ๆ อีกมากมายที่จะได้สัมผัสกับความสนุกสนานที่ได้จากการล่องแก่งอย่างแท้จริง

ข้อควรระวังในการล่องแพลำน้ำเข็ก
  ลำน้ำเข็กค่อนข้างจะมีความรุนแรงเชี่ยวกราดในช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกชุก นักท่องเที่ยวจะไม่สามารถลงเล่นน้ำตกตามน้ำตกต่าง ๆ ได้แต่ในช่วงฤดูฝนนั้นนักท่องเที่ยวสามารถเล่นเรือยางล่องแก่งต่าง ๆ ได้อย่างสนุกสนานเร้าใจเป็นอย่างมาก แต่นักท่องเที่ยวที่จะมาล่องแก่งที่ลำน้ำเข็กนั้นควร จะต้องว่ายน้ำเป็นมีร่างกายและใจที่พร้อม และรู้จักระมัดระวังตนเอง เพราะสายน้ำแห่งนี้ยิ่งมีกระแสน้ำรุนแรงเท่าใด อุบัติเหตุก็อาจเกิดขึ้นได้มายิ่งขี้น
 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

ฤดูกาลล่องแก่งที่เหมาะสม

ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ต้องดูปริมาณฝนอีกครั้ง ถ้าฝนตกชุกระดับน้ำขึ้นสูงมากความรุนแรงของกระแสน้ำจะอยู่ตั้งแต่ระดับ 2-5

......................................................................................

ล่องแก่งต้นแม่น้ำกลอง

ที่ตั้ง อยู่ในเส้นทางสายแม่สอด-อุ้มผาง จ. ตาก ผ่านบ้านเจดีย์โค๊ะ อำเภอพบพระ สู่เส้นทางถนนลอยฟ้า 1,219

 

ระดับความยากง่าย
การล่องแก่งลำน้ำซองกาเลียระดับความยากง่ายขึ้นอยู่กับฤดูกาลดังต่อไปนี้คือ
 

ฤดูฝน  เดือนมิถุนายน-ตุลาคม  ระดับ 2-3

ฤดูหนาว  เดือนพฤศจิกายน-มกราคม  ระดับ 2

ฤดูร้อน  เดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม  ระดับ 1

 
ระยะเวลาในการล่องแก่ง ประมาณ 3 ชั่วโมง
ช่วงเวลาที่เหมาะสม การล่องแก่งลำน้ำสายนี้สามารถล่องได้ทุกฤดูกาลถ้าอยู่ในช่วงฤดูฝนปริมาณน้ำจะมาก กระแสน้ำจะไหลเชี่ยวพอสมควรสำหรับฤดูกาลที่เหมาะสมที่สุด จะอยู่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวระหว่างเดือนตุลาคม-มกราคม กระแสน้ำในลำน้ำแม่กลองจะไหลเย็นและสามารถล่องได้ทุกเพศ ทุกวัยไม่จำกัดอายุ
 สถานที่ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว ท่องเที่ยว
   
ท่องเที่ยว

จุดเด่น     ทีลอซู เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามเหมาะแก่การไปเที่ยวชมได้ทุกฤดูกาล แต่สายน้ำจะหลากไหลกระจายแรงมากที่สุดในช่วงฤดูฝน เพราะน้ำที่ตกมาจากแนวหน้าผาหินปูนที่กว้างกว่า 400 เมตร และบวกกับความสูงของสายน้ำที่มากถึง 300 เมตรไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ กระทบแสงยามเช้าสาดกระเซ็นเป็นฝอย นอกจากจะเป็นน้ำตกที่ว่ากันว่าสวยงามที่สุดของประเทศแล้ว ทีลอซูยังเป็นน้ำตกที่มีทั้งความงามและความยิ่งใหญ่อลังการจนติดอันดับ 1 ใน 6  ของ น้ำตกที่สวยที่สุดในโลกทีลอซูเป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่าน้ำตกดำ เป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ มีน้ำไหลแรงตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงฤดูฝน ละอองน้ำจะฟุ้งกระจายจนขาวโพลนไปทั้งหุบเขา แหล่งต้นน้ำเกิดจากห้วยกล้อท้อ โดยน้ำจะตกจากหน้าผาที่สูงชันและลดหลั่นกันเป็นชั้นๆ อย่างสวยงาม นอกจากนี้บริเวณรอบๆ น้ำตกยังสมบูรณ์ไปด้วยป่าดงดิบที่เขียวชอุ่มตลอดทั้งปี

การเดินทาง   เริ่มตั้งแต่เมื่อขับรถออกจากกรุงเทพฯ ก่อนถึงตัวเมือง ราว 7 กิโลเมตร มีแยกใหญ่ทางซ้ายมือเข้ทางหลวงหมายเลข 105 (ตาก–แม่สอด)ขับไปอีก 86 กิโลเมตรจนถึงอำเภอแม่สอด จากนั้นก็ให้เลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าเส้นทาง 1090 (แม่สอด–อุ้มผาง)  จากแม่สอดขึ้นสู่อุ้มผางเป็นระยะทาง 164 กิโลเมตรเวลาประมาณ  3 ชั่วโมงจึงถึงตัวอำเภออุ้มผาง

......................................................................................

 

การล่องแก่งด้วยเรือยาง ในจังหวัดเชียงใหม่
ทัวร์ล่องแก่งด้วยเรือยางมีมานานแล้วในภาคเหนือ มีการทำธุรกิจครั้งแรกเมื่อกว่า 15 ปี มาแล้วโดยการล่องแก่งแม่น้ำปาย ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงามมาก สำหรับจังหวัดเชียงใหม่เริ่มมีการล่องแก่งได้ประมาณ 10 ปี เป้นการล่องแก่งระยะสั้นๆ ไม่เกิน 40 นาทีเท่านั้น ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการล่องแก่ง ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคม
แม่น้ำแม่แตง มีช่วงที่เหมาะสมสำหรับการล่องแก่งด้วยเรือยาง เป้นระยะทางยาวถึง 10กม ซึ่งใช้เวลาล่องสองชั่วโมงถึงสองชั่วโมงครึ่งล่องตั้งแต่บ้านสบก๋ายถึงบ้านเมืองกึ๊ดเป็นช่วงๆ ดังนี้
- ช่วงแรก จากบ้านสบก๋ายถึงปางเกาะระยะทางประมาณ 5กม. มีความยากอยู่ที่ระดับ 2-3 ช่วงนี้เป็นช่วงที่สนุกสนาน และมีความปลอดภัยสูงเหมาะแก่การทำความคุ้นเคยในการร่วมบังคับเรือให้ผ่านเกาะแก่งต่างๆ มีแก่งใหญ่ๆที่สนุกตื่นเต้นและไม่เป็นอันตรายประมาณ 6 แก่ง
- ช่วงสอง จากปางเกาะถึงบ้าห้วยมะขาง ระยะทางประมาณ 2กม. มีความยากอยู่ที่ระดับ 4-5 ช่วงนี้เป้นช่วงที่ยากที่สุดของแม่น้ำสายนี้ เป็นช่วงที่ต้องทำงานเป็นทีม
- ช่วงสุดท้าย ระยะทางประมาณ 4 กม. มีความยากอยู่ที่3-4ช่วงที่สนุกที่สุดเป็นแก่งใหญ่ต่อกันถึง 3 แก่งยาวรวม 500 เมตร
การล่องแก่งด้วยเรือยาง การขี่ช้างเดินป่า และขี่จักรยานภูเขา ในพื้นที่มีความเหมาะสมสูง

 

 

 
ท่องเที่ยว