หมู่เกาะตะรุเตา และเกาะหลีเป๊ะ
|
หมู่เกาะใต้สุดฝั่งอันดามันของไทย |
หมู่เกาะตะรุเตาเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวอันดับต้นๆ
ที่ผมได้เขียนบรรยาย แนะนำให้มาท่องเที่ยว เมื่อช่วงไฮซีซัน ปี50-51
นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติเยอะมากๆ เลยครับ
จากคำบอกเล่าพี่อั้น เจ้าของบริษัทเดินเรือชื่อดัง ไทเกอร์ไลน์
น้ำทะเลแถวอาดัง หลีเป๊ะสวยมั๊กมาก เป็นชายหาดติด
5 ดาว 1 ใน 4 ของประเทศไทยเลยทีเดียว อีกสาเหตุคือ
รายการโทรทัศน์ชื่อดัง Survivor
ได้มาปักหลักถ่ายทำที่ตะรุเตาเป็นเดือน
ทำให้ผู้ชมรู้จักและมาเที่ยวที่นี่กันมากขึ้น
แล้วคนไทยอย่างเราๆท่านๆ ไม่คิดจะแวะมาเยี่ยมเยียนกันบ้างหรือ
Highlight สำคัญอยู่ที่
เกาะหลีเป๊ะ
หรือ
Koh Lipe
เกาะนี้อยู่ห่างจากฝั่งมาก นั่งเรือนานพอดู
เนื่องจากอยู่ห่างจากฝั่งมาก ทำให้หาดทรายและน้ำทะเลแถวนี้ สวยสุดๆ
คลิกดู
รูปภาพเกาะหลีเป๊ะ
ปัจจุบันที่พักก็มีกันเยอะกว่าหลายปีก่อนมาก เช่น
บันดาหยารีสอร์ท
รีสอร์ทติดแอร์ มีไวไฟให้ใช้ด้วย หรือราคาถูกมาหน่อยก็
ตะรุเตาคาบาน่า |
เรามารู้จักหมู่เกาะแห่งนี้กันสักหน่อย
หมู่เกาะตะรุเตา ตั้งอยู่ในฝั่งทะเลอันดามัน
จังหวัดสตูล หมู่เกาะตะรุเตาประกอบด้วยเกาะตะรุเตาซึ่งใหญ่ที่สุด เกาะอาดัง
และเกาะราวี
นอกจากนี้ยังมีเกาะเล็กเกาะน้อยเรียงรายอยู่โดยรอบเกาะตะรุเตาอยู่ห่างจากฝั่ง
26 กม. และห่างจากเกาะลังกาวีประเทศมาเลเซีย 5 กม. ตะรุเตาจริงๆ
แล้วเป็นภาษามาเลย์ แปลว่า ลึกลับ
เกาะแห่งนี้เคยเป็นที่คุมขังนักโทษการเมือง ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง
หลังจากนั้นก็ถูกทิ้งร้างมานาน จนกระทั่งจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อ
พ.ศ. 2517
|
|
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตะรุเตา
“ตะรุเตา” เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ตะโละเตรา” ในภาษามลายู
แปลว่า มีอ่าวมาก ตะรุเตา เป็นอุทยานแห่งชาติ ที่อยู่ในทะเลอันดามัน
บริเวณช่องแคบมะละกา มหาสมุทรอินเดีย ในท้องที่อำเภอเมือง จังหวัดสตูล
ด้านใต้ของเขตอุทยานแห่งชาติ ห่างจากชายแดนไทย-มาเลเซีย เพียง 4.8
กิโลเมตร อุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ในความใฝ่ฝันของนักท่องเที่ยวทั่วไป เนื่องจากเป็นจุดรวมของ
ความงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ ทั้งบนเกาะ และในน้ำ มีป่าที่อุดมสมบูรณ์
เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด ในน้ำก็งดงาม
ด้วยกลุ่มปะการังหลากสี สวยสด จนเป็นที่กล่าวขวัญกันไปทั่วโลก
ซึ่งประกอบด้วย เกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ รวมทั้งพื้นที่บนเกาะ
และทะเลประมาณ 931,250 ไร่ หรือ 1,490 ตารางกิโลเมตร
|
|
|
พุทธศักราช 2479
มีการประกาศพระราชบัญญัติกักกันผู้มีสันดานเป็นโจรผู้ร้าย
กรมราชทัณฑ์จึงหาสถานที่ที่มีภูมิประเทศเหมาะสม
ซึ่งในที่สุดได้เลือกเกาะตะรุเตาและจัดตั้งขึ้นเป็นทัณฑสถาน
โดยเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2480 กลุ่มบุกเบิกของกรมราชทัณฑ์
ภายใต้การนำของขุนพิธานทัณฑทัย
ได้ขึ้นสำรวจเกาะตะรุเตาบริเวณอ่าวตะโละอุดังและอ่าวตะโละวาว
เพื่อจัดทำเป็น “ทัณฑสถาน”
โดยฟันฝ่าอุปสรรคทางธรรมชาตินานัปการเป็นเวลา 11 เดือน
งานบุกเบิกจึงสิ้นสุดลง หลังจากเดือนมิถุนายน 2481
เกาะตะรุเตาก็เป็นทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาด
และนักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย
ต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตหวงห้ามที่ดินบนเกาะนี้
เพื่อประโยชน์แก่การราชทัณฑ์โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 56 หน้า
566 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2482 ปลายปี พ.ศ.2482
รัฐบาลได้ส่งนักโทษการเมืองจากคดี กบฏบวรเดช (พ.ศ.2476) และกบฏนายสิบ
(พ.ศ.2478) จำนวน 70 นาย
มายังเกาะตะรุเตาซึ่งถูกกักบริเวณไว้ที่อ่าวตะโละอุดัง |
|
|
|
ทะเลตะรุเตายังบริสุทธิอยู่มาก ควรอยู่พักสัก 2 คืน
บนอุทยานเองมีที่พักบังกะโลเรือนไม้ หรือเต็นท์ก็มีให้เข่า
ผมเองก็เห็นมีอยู่หลายหลังเหมือนกัน
ห้องน้ำนี้เพิ่งสร้างเสร็จครับปูกระเบื้องอย่างดี สะอาดครับรับรอง
ผมเองก็ได้ใช้บริการมา ในที่ทำการอุทยานมีจัดโชว์
เรื่องราวต่างรวมทั้งประวัติเกาะ ผมเองดูแล้วไม่ค่อยน่าสนใจ
ก็เลยเดินออกมา แถวชายหาดแลดูร่มรื่นน่านั่งพักผ่อนมากกว่า |
|
|
|
ในช่วงเช้า เราสามารถเช่าเรือหางยาวล่องคลองพันเตมะละกา
ซึ่งสองข้างทางเป็นป่าโกงกางอันอุดมสมบูรณ์
และเป็นอยู่ของนกและสัตว์น้ำป่าชายเลนหลายชนิด จากที่นี่ประมาณ 20 นาที
ก็จะถึงถ้ำจระเข้ (คนที่อุทยานเล่าว่า ในอดีตมีจระเข้น้ำเค็มขนาดใหญ่
อาศัยอยู่ในถ้า แต่ปัจจุบันกลายเป็นกระเป๋าหนังไปแล้ว))
ในถ้ำมีสะพานไม้ให้พวกเราชมหินงอกหินย้อย และมีตะเกียงเจ้าพายุให้บริการ
|
- ส่วนตอนเย็นขึ้นผาโต็ะบู ซึ่งเป็นผาสูงประมาณ 800 ม.
ใช้เวลาขึ้นประมาณ 15-20 นาที
บนผาโต๊ะบูจะมองเห็นอ่าวพันเตมะละกาได้อย่างชัดเจน
-
วันรุ่งขึ้นอาจเช่าเรือไปเที่ยวอ่าวตะโบะวาวซึ่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเกาะใช้เวลาเดินทางประมาณ
1 ชม. และต่อไปที่เกาะไข่ บนเกาะมีซุ้มประตูหินโค้งธรรมชาติแปลกตา
ผมเดินดูที่นี่หลายรอบ ก็ดูแปลกดี
เกาะไข่นี้นักท่องเที่ยวมักไม่พลาดในการถ่ายรูปเก็บไว้
เพราะเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัด หากเดินทางต่อไปอีกเกือบ 2 ชม.จะถึงเกาะอาดัง
เกาะหลีเปะ และเกาะราวี บนเกาะอาดัง มีที่พักเป็นเรือไม้
หรือเต็นท์ของอุทยานฯ
ส่วนบนเกาะหลีเปะมีบังกะโลหลายแห่งดำเนินการโดยชาวเลบนเกาะ (ตามรูป)
สามารถเดินชมหมู่บ้านชาวเลได้ด้วยคนที่ชอบดำน้ำตื้นดูปะการัง
บริเวณรอบเกาะยาง เกาะจาบัง เกาะราวี มีทั้งปะการังแข็งและอ่อนหลากสี
จนหลายคนแปลกใจเพราะไม่เคยเห็นปะการังอ่อนในน้ำตื้น
- อีกจุดหนึ่งที่พลาดไม่ได้ คือ เกาะหินงาม เป็นเกาะเล็กๆ
อยู่เกือบเป็นเกาะทางขวาสุดของหมู่เกาะตะรุเตา
บนเกาะหินงามมีแต่หินมนเรียบดำผ่านการขัดมานานหลายร้อยล้านปี ที่น่าแปลกคือ
บริเวณเกาะรอบๆ ไม่มีหินจำพวกนี้เลย
เวลาคลื่นซัดฝั่งมากระทบหินพวกนี้ทำให้พวกมันแลดูมันเงาสวยงามขี้นถนัดตา
แต่ thai-tour.com แนะนำอย่านำหินเหล่านี้ติดตัวกลับบ้านเด็ดขาด
เพราะดูเหมือนจะถูกสาปแช่งไว้ ถ้าใครเอาไป มักจะต้องนำมาวางคืนทุกราย
ผมเองก็เห็นมีคนทำมาวางไว้เหมือนกัน ทั้งที่เกาะหินงามนี่
และที่บนอุทยานเกาะตะรุเตาเอง มีอีกอย่างครับ
เขาเล่าว่าถ้าใครพบหินรูปหัวใจ บนเกาะนี้จะได้พบเนื้อคู่ครับ
-
อีกเกาะระหว่างเดินทางไปเกาะหินงามไม่ไกลกันนัก เราจะพบหินแปลกๆ
อยู่กลุ่มนึง แถว หมู่เกาะดง หินนั้นจะเรียงซ้อนกันขึ้นไปครับ แลดูแปลกดี
ผมเลย ถ่ายรูปมาฝาก(จริงๆ แล้วหินนั้นใหญ่กว่าในรูปที่ผมถ่าย เยอะครับ)
|
|
การเดินทางไปหมู่เกาะตะรุเตา |
แนะนำ:
อ่านคู่มือเที่ยวทางทะเลก่อนนะครับ
|