สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์
เป็นที่ประทับแปรพระราชฐานของพระบาทสเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์
สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2503 บริเวณใกล้ดอยบวกห้า ลักษณะเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทย
ภายในบริเวณพระตำหนักได้รักษาสภาพธรรมชาติไว้
รวมทั้งมีการปลูกพรรณไม้ดอกชนิดต่าง ๆ ไว้อย่างสวยงาม
พระตำหนักนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร
เปิดให้ประชาชนเข้าชมเฉพาะในวันศุกร์และวันหยุดราชการเท่านั้น
ถัดลงมาจากพระตำหนัก เป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุดอยสุเทพ
อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
ซึ่งมีประชาชนนิยมขึ้นไปนมัสการพระธาตุตลอดทั้งปี นอกจากนี้
น้ำตกศรีสังวาลย์ น้ำตกมหิดล น้ำตกตาดหมอกวังฮาง และน้ำตกตาดหมอกฟ้า
นอกจากนี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง ได้แก่ ผาเงิบ ผาลาด ผาดำ
ยอดดอยปุย และหมู่บ้านชาวเขา
การเดินทางและบริการที่พัก
:
Chiangmai Orchid Hotel
ที่ทำการอุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 16 กิโลเมตร
เดินทางโดยรถยนต์ไปตามถนนห้วยแก้ว-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-สวนสัตว์เชียงใหม่
ถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพจากนั้นเดินทางต่อไปอีกเล็กน้อยถึงทางแยกด้านขวามือ
มีป้ายบอกทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ทางอุทยานฯ
มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียดอื่นๆ
สอบถามได้ที่งานบริการบ้านพักส่วนกลาง
หรือที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองฯ
จังหวัดเชียงใหม่ 50000 |
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง |
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง เป็นหมู่เกาะในอ่าวไทย
ครอบคลุมพื้นที่ 102 ตารางกิโลเมตรเป็นพื้นน้ำประมาณ 84
ตารางกิโลเมตรหรือประมาณร้อยละ
82 ของพื้นที่ทั้งหมด ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ 42 เกาะ ได้แก่ เกาะพะลวย
เกาะวัวตาหลับ เกาะแม่เกาะ เกาะสามเส้า เกาะหินดับ เกาะนายพุด
และเกาะไผ่ลวก ฯลฯ จุดสูงสุดมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 396 เมตร |
|
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เกาะวัวตาหลับ เป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ มีหาดทรายขาวสะอาด
จุดชมวิวบนยอดเขาจะมองเห็นหมู่เกาะอ่างทองทั้งหมดที่ทอดตัวเรียงรายเป็นแนวยาว
ด้านรูปร่างลักษณะต่าง ๆ แปลกตา
ทะเลใน หรือทะเลสาบกลางภูเขา ตั้งอยู่บนเกาะแม่เกาะ
เกาะสามเส้า ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเกาะแม่เกาะ เป็นแหล่งปะการังที่สวยงาม
และมีสะพานหินธรรมชาติที่ยื่นโค้งออกไปในทะเล
การเดินทางแนะนำที่พัก:
Chaweng Buri Resort
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง
สามารถเดินทางออกจากตัวเมืองสุราษฏร์ธานี
โดยจ้างเหมาเรือโดยสารของเอกชนไปโดยตรง ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร
หรือโดยสารเรือโดยสารธรรมดา หรือเรือด่วนไปยังเกาะสมุย
แล้วจึงโดยสารเรือนำเที่ยวไปยังอุทยานแห่งชาติ
ตลอดจนสามารถเดินทางจากอำเภอดอนสักโดยเรือเฟอร์รี่ไปยังเกาะสมุย
แล้วจึงโดยสารเรือนำเที่ยวไปยังอุทยานแห่งชาติก็ได้อีกทางหนึ่ง
หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง โทร. 077-286025 และ 077-420225 |
|
ป่าน้ำหนาวแห่งเทือกเขาเพชรบูรณ์ เป็นเขตกั้นระหว่างภาคอีสานและภาคเหนือ
สภาพพื้นที่ทั่วไปเป็นเทือกเขาสูง
ทอดยาวผ่านจังหวัดชัยภูมิและจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยเฉพาะภูผาจิต
ภูกุ่ม ข้าวเทือกเขาโดยรอบประกอบขึ้นเป็นต้นน้ำลำธาร
ต้นกำหนิดของลำธารสายยาว เช่น แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำพอง แม่น้ำเลย
ห้วยขอนแก่น ห้วยน้ำเชิญ
ซึ่งไหลลงสู่เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนจุฬาภรณ์
เป็นผืนป่าที่มีความงดงามเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยวยิ่ง
|
|
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
เริ่มจากถ้ำผาหงษ์ อยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 39 ทางหลวงแผ่นดินหมายเลขที่ 12
(หล่มสัก-ชุมแพ) เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์และชมพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น
ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่สวยงามสำหรับคนที่ชอบป่าสน สวนสนบ้านแปก
ทางเข้าอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 49 ระยะทางเดินเท้าประมาณ 2 กิโลเมตร
ก็เป็นเส้นทางเดินป่าที่น่าสนใจยิ่ง นอกจากนี้ ยังมีสวนสนภูกุ่มข้าว
ทางเข้าอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 53 มีทางลูกรังแยกเข้าถึงสวนสนภูกุ่มข้าว
ระยะทาง 15 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นป่าสนสามใบ งามมาก บริเวณสวนสนนี้
จะมีเนินเขาเตี้ย ๆ ลูกหนึ่งเรียกว่า
“ภูกุ่มข้าว”
สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 880 เมตร
เป็นเนินเขาที่เป็นจุดเด่นจุดหนึ่งท่ามกลางสวนสน
เมื่อขึ้นไปยืนอยู่บนเนินเขาภูกุ่มข้าว จะเห็นแนวยอดสนอยู่ระดับสายตา
สามารถมองเห็นแนวยอดสนเป็นแนว สำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำตก
ก็มีน้ำตกเหวทรายและน้ำตกทรายทอง ซึ่งอยู่ริมทางบริเวณกิโลเมตรที่ 67
ระยะทางเดินเท้า 1 กิโลเมตร ให้เที่ยวชมกัน ส่วนคนที่ชอบเที่ยวถ้ำ
ถ้ำใหญ่น้ำหนาว (ภูน้ำริน) ทางเข้าอยู่ตรงกิโลเมตรที่ 60
ทางหลวงสายบ้านห้วยสนามทราย-หล่มเก่า บ้านหินลาด
ก็เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความวิจิตรงดงามด้วยหินงอกหินย้อย
และที่แปลกที่สุดคือมีน้ำไหล หรือน้ำรินออกจากปากถ้ำ
ภายในถ้ำยังเป็นที่อาศัยของค้างคาวจำนวนนับแสนตัวอีกด้วย
ความลึกของตัวถ้ำนั้นไม่มีใครทราบแน่ชัด เนื่องจากเป็นถ้ำที่มีความลึกมาก
การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก:
Phu Hin View
ที่ทำการอุทยานฯ อยู่ห่างจากตัวเมืองขอนแก่น 103 กฺโลเมตร
และอยู่ห่างจากอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ประมาณ 55 กิโลเมตร
เดินทางโดยรถยนต์ไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ถึงหลักกิโลเมตรที่
50 จะมีป้ายชี้ทางเข้าสู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ซึ่งเป็นทางลูกรัง
ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ถ้าจะไปโดยรถประจำทาง
สามารถขึ้นรถโดยสารจากขอนแก่น หรือหล่มสัก
ซึ่งผ่านหน้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติทุก ๆ วัน
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวมีบ้านพัก และเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว
สอบถามรายละเอียดโดยตรงที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว อำเภอหล่มสัก
จังหวัดเพชรบูรณ์ 67110 โทรศัพท์ 056-729002. |
|
อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองฯ
อำเภอศรีสวัสดิ์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี น้ำตกเอราวัณ
เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ด้วยอาณาเขตอันกว้างขวาง ประกอบไปด้วยภูเขาสูง หน้าผา น้ำตก ถ้ำ
และทิวทัศน์ที่งดงามตามธรรมชาติ ทั้งการคมนาคมที่สะดวก
จึงทำให้อุทยานแห่งชาติเอราวัณเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเป็นอันมาก
โดยมีเนื้อที่ประมาณ 550 ตารางกิโลเมตร หรือ 343,750 ไร่
|
|
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
น้ำตกเอราวัณ เป็นธารน้ำตกที่รินไหลลงมาตามผาหินปูนเป็นระยะทางยาวประมาณ 1,500
เมตร แบ่งออกเป็นชั้น ๆ ได้ 7 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นมีความสวยงาม
ร่มรื่นไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ ทั้งเถาวัลย์พันเกี่ยวทอดตัวไปบนต้นไม้ใหญ่
กล้วยไม้ป่าหลายชนิดบนคาคบไม้
สายธารน้ำที่ไหลตกลดหลั่นลงมาบนโขดหินสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง
ทำให้มีสภาพความเป็นธรรมชาติสมบูรณ์ยิ่ง หากเดินทวนสายธารน้ำตกขึ้นไปเรื่อย
ๆ จนถึงชั้นที่ 7 อันเป็นชั้นบนสุดของน้ำตก
จะพบความงามของสายธารน้ำตกที่ไหลบ่าลงมาสองสายขาวเด่นท่ามกลางผาหินที่มองดูคล้ายหัวช้างเอราวัณ
จึงได้รับขนามนามว่า
“น้ำตกเอราวัณ”
ซึ่งรอบบริเวณทางเดินชมน้ำตกเอราวัณจะร่มรื่น สะอาด ไร้ขยะ เพราะทางอุทยานฯ
ดูแลอย่างดียิ่ง
ไม่ยอมให้มีการนำอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปกินบนบริเวณชั้นต่าง ๆ ของน้ำตก
นอกจากน้ำตกเอราวัณแล้ว ยังมีน้ำตกผาลั่น ซึ่งเป็นน้ำตกชั้นเดียว
มีน้ำเฉพาะในฤดูฝนเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีถ้ำพระธาตุ
เป็นถ้ำมืดที่มีหินงอกหินย้อยสวยงามมาก
อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 790 เมตร อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ
ประมาณ 12 กิโลเมตร
การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก
:
Mida Resort
จากตัวเมืองกาญจนบุรีตามทางหลวงหมายเลข 323 ถึงเขื่อนศรีนครินทร์
ถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ระยะทางราว 66 กิโลเมตร
ทางอุทยานฯ
มีบริการบ้านพักสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่โทรศัพท์
034-516530. |
|
อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอเมืองฯ
อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี
ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสูงสลับซับซ้อน
เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติคือ
น้ำตกพลิ้วที่สวยงาม มีน้ำตกตลอดปี เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป
อยู่ห่างจากจันทบุรีประมาณ 14 กิโลเมตร ถนนลาดยางตลอดสาย
ทำให้สะดวกสบายในการไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ อุทยานฯ
มีเนื้อที่ประมาณ 135.50 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,062.50 ไร่
|
|
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่และสวยงาม
เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวนักเดินทางทั่วไป
เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดปี ปกติน้ำจะใสมาก สามารถมองเห็นพื้นล่าง
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหินและทรายในระดับลึกกว่า 2 เมตร
ภายในบริเวณอ่างน้ำตกมีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
ผู้ที่ไปท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจจะตื่นเต้นเพลิดเพลินกับฝูงปลา
โดยเฉพาะปลาพวงหินเหล่านี้
น้ำตกพลิ้วเป็นแหล่งท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของอุทยานฯ
ซึ่งประชาชนชาวจันทบุรี และนักทัศนาจรจากจังหวัดอื่น ๆ
นิยมไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูผลไม้
ราวเดือนพฤษภาคม
นอกจากนี้ ยังมีน้ำตกคลองนารายณ์ ซึ่งอยู่ที่ตำบลคลองนารายณ์
ตัวน้ำตกอยู่ห่างจากถนนใหญ่สายจันทบุรี-ตราด ประมาณ 2 กิโลเมตร
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบการเดินป่าชมความงามของธรรมชาติและน้ำตก
น้ำตกตรอกนอง ซึ่งอยู่ที่ตำบลตรอกนอง อำเภอขลุง
การเดินทางใช้เส้นทางแยกเข้าน้ำตกพลิ้วไปทางจังหวัดตราด
ถึงสี่แยกเข้าอำเภอขลุง แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนสายขลุง-มะขาม อีก 10
กิโลเมตร ถึงตลาดตรอกนอง แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามทางเข้าสู่น้ำตกตรอกนองอีก
2 กิโลเมตร ถึงบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ
จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตก
การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก
:
Maneechan Resort
จากกรุงเทพฯ สู่จันทบุรี แล้วใช้เส้นทางสายจันทบุรี-ตราด
ถึงหลักกิโลเมตรที่ 347 เลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกราว 2 กิโลเมตร
ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งบริเวณที่ทำการอุทยานฯ มีบริการบ้านพัก
ร้านอาหาร สนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์
034-516530.
|
|
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
|
อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
จัดเป็นอุทยานแห่งชาติประเภทชายฝั่งผสมผสานหมู่เกาะในทะเลแห่งแรกของประเทศไทย
และเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 4 ของประเทศ
ตั้งอยู่ในเขตอำเภอปราณบุรีและอำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
มีเนื้อที่ประมาณ 61,300
ไร่ หรือ 98.08 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหินปูน
ประกอบด้วยยอดเขาสลับซับซ้อนสูงชันในแนวทิศเหนือ-ใต้
ขนานไปกับชายฝั่งทะเล มีแนวชายฝั่งยาวประมาณ 30 กิโลเมตร
และมีเกาะแก่งในทะเลใกล้ฝั่ง
|
|
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ทุ่งสามร้อยยอด เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่มีน้ำขังอยู่ตลอดปี
ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนกนานาชนิด จุดล่องคลองเขาแดง
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
โดยเช่าเรือจากหมู่บ้านเขาแดง ลงเรือที่ท่าน้ำหน้าวัดเขาแดง
ล่องไปตามลำคลองประมาณ 3-4 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
ข้างทางจะเห็นนกนานาชนิดและชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าในยามเย็น
ส่วนยามเช้าตรู่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปยังจุดชมวิวเขาแดง
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 400 เมตร แล้วเดินขึ้นประมาณ 300 เมตร
สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือขอบทะเลและพื้นที่รอบข้างได้เป้นอย่างดี
ในช่วงกลางวัน นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวชมถ้ำพระยานคร
เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยงาม หลังคาถ้ำมีปล่องทะลุเป็นโพรงใหญ่
จึงมีแสงส่องเข้าไปในถ้ำได้ มีพรรณไม้ต่าง ๆ ขึ้นงอกงาม
แต่สิ่งที่สะดุดตาที่สุดในถ้ำ คือ พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์
ซึ่งเป็นแบบจัตุรมุข สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5
และในปัจจุบันนี้ใช้พระที่นั่งคูหาคฤหาสน์เป็นตราสัญลักษณ์ประจำจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบเที่ยวถ้ำต้องไม่พลาดชมถ้ำแก้วและถ้ำไทร
ซึ่งเป็นถ้ำที่งดงามยิ่ง
การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก
:
Samroiyod Holiday Resort
การเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
สามารถเดินทางโดยรถยนต์จากกรุงเทพฯ โดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4
(ถนนเพชรเกษม)
ถึงสี่แยกปราณบุรีแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนปากน้ำปราณ-ปราณบุรี
ประมาณ 4 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาไปตามถนน ร.พ.ช. 31 กิโลเมตร
ถึงที่ทำการอุทยานฯ อีกทางหนึ่งคือ
เดินทางไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 ถึงหลักกิโลเมตรที่ 286.5
เลี้ยวซ้ายไปอีก 14 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะพักค้างแรม ทางอุทยานฯ มีบ้านพัก ร้านอาหาร
และเต็นท์ไว้สำหรับบริการด้วย
ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสำรองที่พักได้ที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด
ตำบลเขาแดง อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 77150 โทรศัพท์
032-603571
|
|
ตั้งอยู่ในเขตจังหวดัเพชรบุรี
เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทย
เป็นต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี
เป็นผืนป่าใหญ่ติดต่อจากป่าตะวันตกลงมาตามเทือกเขาตะนาวศรี
มีความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าดงดิบและสัตว์ป่า
จึงเหมาะสำหรับการเดินป่าท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ ดูนก ดูผีเสื้อ
ล่องแก่ง และพักผ่อนหย่อนใจได้เป็นอย่างดี
|
|
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
ล่องเรือ หรือชมวิวทิวทัศน์ริมทะเลสาบแก่งกระจาน ที่มีเนื้อที่ ประมาณ 45
ตารางกิโลเมตร มีเกาะโผล่พ้นน้ำถึง 30-40 เกาะ ก่อให้เกิดทิวทัศน์งดงาม
โดยมีแนวเขาทางตะวันตกเป็นฉากหลัง สามารถมองเห็นได้จากที่ทำการอุทยานฯ
และบริเวณสันเขื่อน ส่วนคนที่ชื่นชอบเดินป่าปีนเขา
ยอดเขาพะเนินทุ่งนับเป็นเขาที่สูงที่สุด มีความสูงประมาณ 1,207
เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 50 กิโลเมตร
โดยทางรถยนต์และทางเดินเท้า
ประกอบด้วยทิวทัศน็ที่งดงามทั้งยามปกติและยามมีทะเลหมอกในช่วงปลายฤดูฝนและต้นฤดูหนาว
การเดินทางค่อนข้างลำบาก เมื่อสุดทางจะต้องใช้เวลาเดินเท้าอีกประมาณ 8
กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง สำหรับคนที่ชื่นชอบน้ำตก
ก็มีน้ำตกงามอย่างน้ำตกทอทิพย์ซึ่งมีระยะทางถึง 18 กิโลเมตร
อยู่ห่างจากยอดเขาพะเนินทุ่งประมาณ 5 กิโลเมตร
ซึ่งสามารถจะเดินทางไปชมโดยทางรถยนต์ นอกจากนี้
ในบริเวณพื้นที่อันเป็นผืนป่า
ต้นน้ำลำธารของแม่น้ำเพชรบุรียังประกอบด้วยจุดที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง เช่น
น้ำตกปราณบุรี (น้ำตกธารทิพย์ หรือน้ำตก 5 ชั้น) น้ำตกแม่เสลียง น้ำพุร้อน
ซึ่งเป็นที่มหัศจรรย์ยิ่งในความงามของธรรมชาติของป่าดิบชื้น
อันประกอบด้วยแมกไม้งามเป็นมนต์ขลังของป่าใหญ่
นอกจากนี้ผืนป่าแก่งกระจานยังเป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด
เป็นแหล่งดูนกและดูผีเสื้อที่ดียิ่งแห่งหนึ่งของเมืองไทย
การเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก
Kaeng Krachan Country Club
จากตัวเมืองเพชรตามเส้นทางสายเพชรเกษม มุ่งลงใต้ผ่านอำเภอท่ายาง
ถึงสี่แยกเขื่อนเพชร ระยะทาง 20 กิโลเมตร
เลี้ยวขวาแยกไปตามเส้นทางเขื่อนเพชรประมาณ 38 กิโลเมตร
ผ่านบ้านช่องเข้าสู่บริเวณเขื่อนดินแก่งกระจานแล้วเลียบตามถนนริมขอบอ่างจากตัวเขื่อนไปอีกประมาณ
3 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งทางอุทยานฯ มีบ้านพักรับรอง
เต็นท์ และร้านอาหารบริการ ติดต่อสอบถามได้ที่โทรศัพท์ 032-459291
|
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันโดยมีระยะห่างจากฝั่งบริเวณท่าเรือคุระบุรี
ประมาณ 60 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 135 ตารางกิโลเมตร หรือ 84,357
ไร่ ในจำนวนนี้คิดเป็นพื้นที่น้ำประมาณ 102 ตารางกิโลเมตร
หรือประมาณร้อยละ 76 ของพื้นที่ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ รวม 5 เกาะ
คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี (เกาะสต๊อร์ค)
เกาะกลาง (ปาจุมบา) และเกาะไข่ (เกาะตอรินลา)
โดยมีเกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้
เป็นเกาะขนาดใหญ่วางตัวตามแนวทิศเหนือ ใต้
ด้านทิศหนือของอุทยานแห่งชาติเป็นเขตแดนติดต่อกับประเทศพม่า
ส่วนด้านทิศใต้ในระยะที่ไม่ห่างไกลกันนักเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์
|
|
ชายฝั่งมีส่วนเว้าแหว่งเป็นอ่าวทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป
บริเวณรอบ ๆ เกาะ ยังเป็นเขตน้ำลึกกว่า 50 เมตร
อีกทั้งการไหลเวียนของน้ำบริเวณรอบ ๆ เกาะ กับน้ำทะเล
ในท้องทะเลเปิดเป็นไปอย่างสะดวก
สัตว์น้ำของหมู่เกาะสุรินทร์
นอกจากปะการังแข็งที่พบเห็นโดยทั่วไปแล้วยังมีปะการังอ่อน แส้ทะเล กัลปังหา
ดาวทะเล ดาวขนนก ดอกไม้ทะเล หอยมือเสือ กุ้งมังกร และกลุ่มปลาชนิดต่าง ๆ
เช่น ปลาเก๋า กระพลเหลือง สินสมุทร โนรี ผีเสื้อเทวรูป สลิดหินเขียว นกแก้ว
อมไข่ กระเบนทอง ปลาวัว ปลาญี่ปุ่น ฉลามทราย ฯลฯ
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งของสัตว์ทะเลหายาก เช่น ฉลามวาฬ ปลาวาฬ และเต่าทะเล
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
หมู่เกาะสุรินทร์ได้ชื่อว่าเป็น แหล่งที่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สวยที่สุด
ในประเทศไทยจึงเป็นสถานที่ ที่ได้รับการเยี่ยมเยือนจากนักท่องเที่ยว
ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมากในแต่ละฤดูกาลท่องเที่ยว
นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่มีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์และสวยงามมาก
เกาะสุรินทร์เหนือและเกาะสุรินทร์ใต้
เป็นเกาะที่มีอ่าวต่าง ๆ มากกว่า 10 แห่ง อ่าวที่มี ชื่อเสียงคือ
อ่าวแม่ยายหรืออ่าวแม่ใหญ่
อยู่ทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะสุรินทร์เหนือเป็นอ่าวที่มีคลื่นลมสงบและมีขนาดใหญ่ที่สุด
อีกทั้งเป็นแหล่งที่มีปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์และสวยงามมาก
ชาวเลหรือมอแกนเป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ในหมู่เกาะของทะเลอันดามัน
ตั้งแต่ เกาะนิโคบาร์ ประเทศอินเดีย
เรื่อยไปจนถึงเกาะสุมาตราในประเทศอินโดนีเซีย ชาวเลเป็นชนเผ่าที่มีวิถี
การดำรงชีวิตแบบดั้งเดิม หาเลี้ยงชีพโดยการงมหอย แทงปลา
การเดินทางและแนะนำที่พัก:
Kuraburi Greenview
การเดินทางไปอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ โดยจากกรุงเทพฯ
ไปอำเภอตะกั่วป่า ผ่านบ้านคุระบุรีไปประมาณ 6 กิโลเมตร
จะมีทางแยกเลี้ยวเข้าไปยังท่าเทียบเรือคุระบุรี
ซึ่งสามารถติดต่อเช่าเหมาเรือยนต์ไปหมู่เกาะสุรินทร์ ใช้เวลาประมาณ
3 –
4 ชั่วโมง หรืออาจเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปทางจังหวัดระนอง ตามทางหลวง
สายระนองตะกั่วป่าถึงกิโลเมตรที่ 720 ก่อนจะถึงอำเภอคุระบุรี
ประมาณ 6 กิโลเมตร มีทางแยก เลี้ยวเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร
จะถึงท่าเทียบเรือคุระบุรีเช่นกัน
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โทร. 076-491378 หรือ
ติดต่อสำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติกรมป่าไม้ โทร. 02-5612919-21
|
|
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
|
สิมิลัน เป็นภาษายาวีหรือมลายู แปลว่า
“เก้า”
จึงมีชื่อเรียกกันว่า หมู่เกาะสิมิลัน หรือ หมู่เกาะเก้า
ประกอบด้วยเกาะใหญ่น้อย 9 เกาะด้วยกัน
เกาะทั้งเก้าเรียงตัวตามแนวทิศเหนือไปทิศใต้ ได้แก่ เกาะบอน
เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมี่ยง เกาะปาหยัน
เกาะปายัง และเกาะหูยง
|
|
หมู่เกาะสิมิลัน
ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติของประเทศไทยในปี พ.ศ. 2525
ครอบคลุมพื้นที่เกาะและห้วยน้ำทะเลรอบเกาะที่มีปะการังสมบูรณ์ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง
อำเภอคุระบุรี จงหวัดพังงา เป็นเนื้อที่ประมาณ 128 ตาราง กิโลเมตร (80,000
ไร่) พื้นที่เกาะซึ่งเป็นแผ่นดินมีประมาณ 14 ตารางกิโลเมตร
ชายฝั่งทะเลในบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน เป็นส่วนภาคตะวันออกของทะเลอันดามัน
ในมหาสมุทรอินเดีย ที่มีการลดตัวลงของพื้นทะเล
(submergent shoreline)
จึงมีการกัดเซาะพังทลายโดยมีน้ำทะเลเป็นตัวกระทำอย่างรุนแรง
ทำให้บริเวณเกาะทั้ง 9 เกาะ
สถานที่ท่องเที่ยว
หมู่เกาะสิมิลัน
เป็นหมู่เกาะที่ได้รับการยกย่องจากนิตรสารสกินไดวิ่งของอเมริกาว่า
เป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงามทั้งบนบกและใต้น้ำ ซึ่งติดอันดับความงามเป็น 1
ใน 10 ของโลก ซึ่งมีช่วงฤดูกาลที่เหมาะสมสำหรับการท่องเที่ยวมากที่สุด คือ
ระยะปลายเดือนธันวาคมถึงกลาง เดือนเมษายน
ในเดือนมีนาคมจะเป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด น้ำใส และไม่มีมรสุม โดยมีจุด
ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่
เกาะสิมิลันหรือเกาะแปด
เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะสิมิลัน
ระดับน้ำทะเลในบริเวณรอบเกาะสิมิลันค่อนข้างลึก มีระดับโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ
100 –
120 ฟุต ซึ่งใต้น้ำสมบุรณ์ไปด้วยปะการัง กัลปังหา พัดทะเล และกุ้งมังกร
เกาะสิมิลันจะมีอ่าวเล็ก ๆ
อยู่ทางตะวันตกของเกาะอ่าวเกาะสิมิลันมีรูปโค้งเหมือนเกือกม้า
น้ำลึกโดยเฉลี่ย 60 ฟุต ใต้ท้องทะเล อุดมสมบุรณ์ไปด้วยกองหินและแนวปะการัง
มีปลาเล็กปลาน้อยมากมายสภาพหาดสวยงามมาก
เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปลาและปะการัง ทางด้านเหนืออ่าวเป็นเกาะแก่งเล็ก ๆ
ใต้น้ำอุดมไปด้วยปะการังเขากวาง ปะการังดอกเห็ดขนาดใหญ่
ทางใต้ของอ่าวเป็นโขดหินสลับกับแนวปะการัง
ไปเป็นระยะตลอดแนวอ่าวด้านทิศเหนือของเกาะมีก้อนหินขนาดยักษ์รูปร่างคล้ายรองเท้าบู้ท
หรือหัวของโดนัลดักของวอลท์ดิสนีย์ ก้อนหินนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ
เกาะสิมิลัน หรือเกาะแปดเลยทีเดียว
หินปูซาร์หรือเกาะหัวกระโหลก
เป็นเกาะอันดับ 7 ของหมู่เกาะสิมิลัน
มีลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่มีลักษณะแปลกมาก
เมื่อมองดูจากมุมหนึ่งจะเห็นเป็นรูปหัวกระโหลก
สภาพใต้น้ำของเกาะนี้สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง
และมีระดับความลึกที่แตกต่างกันออกไปหลายระดับชั้น
สภาพเหมือนหุบเขาใต้น้ำที่เต็มไปด้วยปะการัง และหุบเหวลึก น่ากลัว
ปลาใหญ่น้อยนับแสนพากันเวียนว่ายอยู่ตามก้อนหิน
และบางครั้งมีปลาโลมาปรากฏให้เห็น
เกาะหูยง
เป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวสะอาด
และยาวมากที่สุดในหมู่เกาะเก้าเป็นที่วางไข่ของเต่าทะเล
เกาะเมียงหรือเกาะสี่
เป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีแหล่งน้ำจืด หาดทรายสวยงาม
เป็นแหล่งที่สามารถหาดูปูขนและนกชาปีไหนได้ดีกว่าพื้นที่อื่น เป็นพื้นที่
ที่ได้จัดไว้เพื่อการพักแรม
การเดินทาง แนะนำที่พัก
Kao Lak Palm Beach
จากกรุงเทพใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4 เพื่อมุ่งหน้าไปที่ท่าเรือทับละมุ
อำเภอท้ายเหมือ จังหวัดพังงาอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
อยู่ไกลออกไปทางด้านใต้ของหมู่เกาะสุรินทร์
ด้วยการเดินทางยาวไกลไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง จากท่าเรือทับละมุ
จังหวัดพังงา หรือมากกว่านั้น หากมาจากภูเก็ตที่นี่
ซึ่งอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
เปิดบริการแก่ประชาชนโดยไม่จำกัดเพศ วัยการศึกษา เชื้อชาติ
ศาสนา ซึ่งการเดินทางสู่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน
ต้องเดินทางโดยเรือ ช่วงที่ใกล้ที่สุดคือ
จากท่าเรือทับละมุระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร
เพื่อความปลอดภัยควรโดยสารเรือที่มีขนาดใหญ่พอสมควร |
|
อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา
–
หมู่เกาะพีพี |
สภาพพื้นที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ภาคพื้นดินมีเนื้อที่ประมาณ 60.96
ตารางกิโลเมตร ได้แก่ พื้นที่ดินชายฝั่งทะเลบริเวณสุสานหอย 75
ล้านปี เขาอ่าวน้ำเมา ป่าอ่าวนาง
–
หางนาค หมู่เกาะปอดะ และกลุ่มหมู่พีพี ธรณีสัณฐานของพื้นที่
เป็นเทือกเขามีความสูงชันเรียงตัวยาวไปตามแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จุดที่สูงที่สุด คือ เขาหางนาค มีความสูง 498
เมตร จากระดับน้ำทะเล ส่วนภาคพื้นน้ำ มีเนื้อที่ประมาณ 329
ตารางกิโลเมตร เป็นห้วงน้ำลึก บริเวณที่ลึกที่สุดประมาณ 34 เมตร
ซึ่งอยู่ทางด้านใต้ของเกาะพีพีเล
จะพบแนวปะการังเป็นบริเวณกว้างตามไหล่เกาะมี่มีความลาดชันสูง
ได้แก่ บริเวณพีพีดอน-พีพีเล
เกือบโดยรอบบริเวณริมทะเลเขาหางนาคด้านทิศตะวันตกและด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ของสุสานหอย
75 ล้านปี |
|
สภาพภูมิอากาศอยู่ในเขตมรสุม ในฤดูฝนจะมีฝนชุกระหว่างเดือนเมษายน–เดือนตุลาคม
และระหว่างเดือนพฤศจิกายน–เดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงที่อากาศเย็นสบายและเหมาะสำหรับการท่องเที่ยว
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
หาดนพรัตน์ธารา
เดิมชื่อว่า
“หาดคลองแห้ง”
บริเวณหาดเป็นทรายละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยเล็ก ๆ
ประดับด้วยทิวสนเรียงรายไปตามชายทะเลยาวเหยียดมองออกไปยังพื้นน้ำมีทิวทัศน์ของเกาะแก่งกระจายน้อยใหญ่
สำหรับการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี มีระยะทางห่างจากตัวจังหวัดกระบี่ ประมาณ
18 กิโลเมตร
จากหาดนี้มีถนนเลียบชายฝั่งทะเลไปจนถึงอ่าวพระนางและบริเวณสุสานหอย 75
ล้านปี
หาดพระนาง
บริเวณอ่าวเต็มไปด้วยเกาะแก่งที่มีลักษณะเด่นทางธรณีวิทยา
ชายหาดมีทรายขาวละเอียดปะปนด้วยเปลือกหอยชิ้นเล็ก ๆ ทับถมกันเป็นชั้น ๆ
มากมายสิ่งที่สวยงามอีกอย่างหนึ่งของอ่าวพระนาง คือ ถ้ำพระนาง
ภายในถ้ำหินงอก หินย้อยสลับซับซ้อนเป็นชั้น ๆ
เป็นสถานที่ที่มีค่าแก่การแวะชมอีกแห่งหนึ่ง
สุสานหอย 75 ล้านปี
อยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ทางทิศตะวันออกเฉียงหนือของพื้นที่อุทยานฯ
เป็นพืดหินปูนมีความยาวประมาณ 200 เมตร กว้าง 50 เมตร
มีลักษณะเป็นซากดึกดำบรรพ์ของหอยน้ำจืดชนิดต่าง ๆ
ส่วนใหญ่เป็นหอยขมตัวป้อมยาวประมาณ 2 เซนติเมตร
จากการสำรวจลักษณะของหินและชั้นหินดังกล่าวพบว่าบริเวณบ้านแหลมโพธิ์เคยเป็นหนองน้ำมาก่อนจึงมีหอยหลายชนิดอาศัยอยุ่
และแพร่ขยายพันธุ์ เป็นล้าน ๆ ตัว
ภายหลังพื้นดอกบริเวณนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงหนองน้ำจึงตกอยู่ใต้ระดับน้ำทะเล
เป็นเหตุให้หอยเหล่านี้ตายกันหมดสิ้น
ธาตุปูนจากน้ำทะเลเข้ามาประสานหอยให้ติดกันเป็นพืดจับตัวกลายเป็นหินแข็งหนาประมาณ
40 เซนติเมตร ซากต้นไม้นานาพันธุ์ทับถมกันมากมาย
จนกลายเป็นถ่านหินลิกไนท์หนาประมาณ 10 เซนติเมตร
ใต้ถ่านหินลิกไนท์ลงไปเป็นหินดาน
ต่อมาได้เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้งทำให้พืดหินเหล่านี้
โผล่พ้นขึ้นมาบางส่วน ดังปรากฏอยู่ในปัจจุบัน
หมู่เกาะปอดะ
อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 8 กม. ประกอบด้วย เกาะใหญ่น้อย
ทอดตัวไปตามแนวเหนือใต้ อยู่ทางทิศใต้ของอ่าวพระนาง
เมื่อมองจากฝั่งจะเห็นหาดทรายขาว
แต่ไกลบริเวณชายฝั่งที่มีแนวปะการังหลากสีประกอบกับความสดในของน้ำทะเล
จึงเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปชมได้เกือบตลอดทั้งปี
หมู่เกาะพีพี
เป็นหมู่เกาะกลางทะเลอยู่ห่างจากท่าเรือจังหวัดกระบี่ประมาณ 40 กม.
ประกอบด้วยเกาะสำคัญ 2 เกาะ คือ เกาะพีพีดอน และเกาะพีพีเล
-
เกาะพีพีดอน
เป็นที่อยู่อาศัยของชาวไทยมุสลิม อยู่ห่างจากเกาะพีพีเลประมาณ 2 กม.
จุดเด่นที่สำคัญ คือ
อ่าวต้นไทรซึ่งเป็นอ่างกว้างมีหาดทรายขาวสะอาดบริเวณบ้านแหลมจาง
มีชาวเลอาศัยอยู่ประมาณ 15 -20 ครอบครัว
ทั้งสองฟากฝั่งนี้มีปะการังอยู่ทั่วไป
โดยเฉพาะบริเวณที่อยู่ใกล้แหลมตงนั้นมีธรรมชาติใต้ทะเลที่สวยงาม
-
เกาะพีพีเล
หรือเกาะไวกิ้ง เป็นเกาะซึ่งมีโขดหินผาสูงชัน
ส่วนหนึ่งของเกาะเป็นอ่าวเว้าเข้าไปในหุบเขาดูคล้ายทะเลสาบ มีชื่อ
“ปิเละ”
ทะเลสาบส่วนนี้มีหน้าผารายล้อมเกือบจะเป็นวงกลม น้ำนิ่งในและลึก
จากปิเละลงไปทางใต้เป็นเวิ้งอ่าวอยู่ในหลืบผาสูงชัน ส่วนนี้มีชื่อว่า
“โละซามะ”
ท้องทะเลแถบนี้มีสีเขียวมรกตสดใส ลึกลงไปใต้ผิวน้ำจะพบปะการังนานาชนิด
จนเป็นที่ใฝ่ฝันของนักดำน้ำทั้งหลาย บนเกาะพีพีเล มีถ้ำใหญ่อยู่ถ้ำหนึ่ง
คือ ถ้ำไวกิ้ง จัดเป็นถ้ำที่ใหญ่ และกว้างขวางพอสมควร (เนื้อที่ประมาณ 2
ไร่) มีเพดานข้างบนสูงมากเป็นที่อยู่อาศัยของ นกนางอ่าน
ผนังถ้ำมีภาพวาดต่าง ๆ หลายภาพ ชาวบ้านแถบนั้นเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้ครั้งหนึ่ง
พวกไวกิ้งได้เดินทางผ่านแถบนี้และได้ขึ้นพักในถ้ำ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานนามว่า”เกาะพระยานาค”
การเดินทาง แนะนำที่พัก
Phitharom PP
การเดินทางไปยังหาดนพรัตน์ธารา อ่าวพระนาง และสุสานหอย 75
ล้านปี โดยทางรถยนต์สายตัวเมือง
-
ในสระ ซึ่งออกจากอำเภอเมืองกระบี่ไปประมาณ 18 กม.
ถึงหาดนพรัตน์ธารา
จากนั้นใช้เส้นทางถนนเลียบชายทะเลเชื่อมระหว่างหาดนพรัตน์ธาราและหาดบ้านอ่าวนางไปทางทิศใต้อีก
6 กม. สำหรับการไปชมอ่าวพระนางต้องนั่งเรือออกไปอีกประมาณ 20
นาที จะถึงอ่าวพระนาง
และจากหาดนพรัตน์ธาราจะมีทางแยกไปสุสานหอย 75 ล้านปี ประมาณ 11
กม.
|
|
สำหรับการเดินทางไปยังหมู่เกาะพีพีนั้น
ต้องโดยสารเรือยนต์ที่ท่าเรือเจ้าฟ้าซึ่งเป็นท่าเรือที่สำคัญของจังหวัดกระบี่
ระยะทางประมาณ 40 กม. หรือโดยสารเรือยนต์จากจังหวัดภูเก็ตใช้ระยะทางประมาณ
40 กม. เช่นเดียวกัน