๙๗.วัดปรมัยยิกาวาส พระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่เลขที่ ๕๑ ม.๗ ต.เกาะเกร็ด อ.ปากเกร็ด นนทบุรี เป็นวัดโบราณ น่าจะสร้างหลังจากพระเจ้าท้ายสระทรงโปรดให้ขุดคลอง เมื่อ พ.ศ.๒๒๖๔ ชาวเรือเรียก "วัดปากอ่าว" จนปี พ.ศ.๒๓๐๗ พม่าบุกยึดเมืองนนท์ กลายเป็นวัดร้าง เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๑๗ ชาวรามัญที่อพยพมาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ คนมอญเรียกว่า "เภี่ยมู๊เกี้ยเติ้ง" พ.ศ.๒๔๑๗ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 พระราชดำเนินทอดกฐินวัดมอญ ๔ วัด (วัดปากอ่าว(ปรมัยฯ),วัดรามัญ(เกาะพระยาเจ่ง),วัดบางพัง และวัดสนาม(สนามเหนือ)) ต่อมาทรงเห็นว่าวัดปากอ่าวทรุดโทรมมาก ทรงโปรดให้ปฏิสังขรณ์วัดใหม่ทั้งวัด โดยรักษารูปแบบมอญไว้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล สนองพระคุณสมเด็จพระเจ้าบรมอัยยิกาเธอกรมพระยาสุดารัตน์ราชประยูรผู้ทรงอภิบาลพระองค์มาแต่ทรงพระเยาว์ และได้ พระราชทานนามวัดว่า "วัดปรมัยยิกาวาส" ซึ่งมีความหมายว่า "วัดของพระบรมอัยยิกา" สิ่งสำคัญภายในวัดมีพระอุโบสถที่มีภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยประยุกต์ บานประตูหน้าต่างประดับ ลายปูนปั้นเขียนด้วยสี กำแพงแก้วรอบพระอุโบสถมีลวดลายที่สวยงาม เป็นกำแพงเหล็กอย่างดีทำมาจากยุโรปอีกทั้งด้านหลัง พระอุโบสถมีพระเจดีย์รูปทรงแบบมอญซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระมหารามัญเจดีย์นี้ เมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๗ และใกล้กันนั้นมีพระวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ขนาดใหญ่เป็นที่สามในอำเภอปากเกร็ด ส่วนด้านหน้าพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อน ซึ่งพระปฏิมากรซานซิวซูน ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมี "พระนนทมุนินท์" เป็นพระพุทธรูปปางขัดสมาธิเพชร หน้าตักกว้าง ๑ เมตร สูง ๑.๖๕ เมตร หล่อด้วยโลหะ พระศาสนโสภณ (อ่อน) เจ้าคณะมณฑลกรงเทพสร้างเป็นพระพุทธประจำเมืองนนทบุรี พระยาราชสงครามป็นผู้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ด้านใต้พระวิหารพระพุทธไสยาสน์ วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร มีประเพณีของเมืองสืบมาว่า เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีย้ายมาดำรงตำแหน่งใหม่ ได้จัดพิธีรับอย่างเป็นทางการพร้อมมีพิธีนมัสการพระพุทธรูปประจำเมืองนนทบุรีที่วัดปรมัยยิกาวาสวรวิหาร สร้างขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เพื่อเป็น พระพุทธรูปประจำจังหวัดนนทบุรีประดิษฐานอยู่ในตู้กระจก ใต้พาไล ด้านหลังพระวิหารแห่งนี้ด้วย
วัดมอญเก่าแก่แห่งนี้ มีไม้ใหญ่ให้ร่มเงามากมาย ทั้งยังมีม้านั่งสำหรับชมทัศนียภาพ อันสวยงามริมเกาะอีกด้วย นับได้ว่า เป็นวัดที่เชิดหน้าชูตาของชาวเกาะเกร็ดเป็นอย่างมากทีเดียว เจ้าอาวาส พระสุเมธมุนี(ปภงฺกโร เสน่ห์ แดงเฟื่อง) อุปสมบทเมื่อ ๖ มิ.ย.๒๕๑๓
|