|
ความเห็นที่
7901 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:22 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7902 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:24 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7903 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:24 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7904 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:26 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7905 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:29 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7906 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:30 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7907 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:31 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7908 โพสเมื่อ :
19 ธ.ค. 59 : 13:32 น. โดย :
กรมทหารพรานที่41(ฝกพ,สาย1) |
ขอพระราชทาน กราบบังคมทูลทรงทราบ ข้าพระพุทธเจ้า ขอถวายงาน รับใช้ชาติ รับใช้แผ่นดิน แด่ใต้ฝ่าละอองพระบาท โดยไม่มีเงื่อนไข จนกว่าชีวิตจะหาไม่ พระพุทธเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
7909 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:40 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น จากผืนทรายกลับกลายเป็นดิน ด้วยพระบารมีของทั้ง สองพระองค์
|
|
ความเห็นที่
7910 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:42 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น จากผืนทรายกลับกลายเป็นดิน ด้วยพระบารมีของทั้ง สองพระองค์
|
|
ความเห็นที่
7911 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:43 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
เรารักษาเอกราชอธิปไตยมาได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันและความสมัครสมานสามัคคี
|
|
ความเห็นที่
7912 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:43 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7913 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:48 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7914 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:48 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7915 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:49 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7916 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:49 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7917 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:49 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7918 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:50 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7919 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:51 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7920 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:51 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7921 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:52 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7922 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:52 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7923 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:53 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7924 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:53 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7925 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:54 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7926 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:55 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7927 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:55 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7928 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 08:57 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7929 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:27 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7930 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:28 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7931 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:29 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7932 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:30 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7933 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:30 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7934 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:31 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7935 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:32 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7936 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:33 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7937 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:33 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7938 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:34 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7939 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:34 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7940 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:35 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7941 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:35 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7942 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:36 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7943 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:36 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7944 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:37 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7945 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:38 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7946 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:38 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7947 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:39 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7948 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:39 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖
|
|
ความเห็นที่
7949 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:40 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7950 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:41 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7951 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:42 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7952 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:43 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7953 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:44 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7954 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:45 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7955 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:45 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7956 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:46 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7957 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:47 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7958 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:48 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7959 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:51 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7960 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:52 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7961 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:52 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7962 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:53 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7963 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:53 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7964 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:54 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7965 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:54 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7966 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:55 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7967 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:56 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7968 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:56 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7969 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:57 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7970 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:58 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7971 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:58 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7972 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:59 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7973 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 09:59 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7974 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:00 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7975 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:00 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7976 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:03 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7977 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:06 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7978 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:06 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7979 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:07 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7980 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:08 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7981 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:09 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7982 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:11 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7983 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:13 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7984 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:14 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7985 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:15 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7986 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:15 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7987 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:16 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7988 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:16 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7989 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:17 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7990 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:17 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7991 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:18 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7992 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:19 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7993 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:20 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7994 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:20 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7995 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:21 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7996 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:21 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7997 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:22 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7998 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:22 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
7999 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:23 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
|
ความเห็นที่
8000 โพสเมื่อ :
14 ม.ค. 60 : 10:24 น. โดย :
ฝกพ.(สาย1) กรมทหารพรานที่41 |
ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙
|
back 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25 26 27 28 29 30 31 32 33 34 35 36 37 38 39 40 41 42 43 44 45 46 47 48 49 50 51 52 53 54 55 56 57 58 59 60 61 62 63 64 65 66 67 68 69 70 71 72 73 74 75 76 77 78 79 [80] 81 82 83 84 85 86 87 88 89 90 91 next
|
|
|
|
|
| | | |