“ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่
เป็นสังคมย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชา
และความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่าง ๆ ย่อมเป็นประโยชน์ หากมีรากฐานของความคิดอย่างเดียวกัน
รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความมีความเป็นปึกแผ่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ มีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๑๗

“ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็กเพราะว่าต่อไป ถ้ามีชีวิตที่ลำบาก ไปประสบอุปสรรคใดๆ
ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่าถ้าไม่เจออุปสรรคอะไร
ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข้มแข็ง ในกาย ในใจ
ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ นั้นได้”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียนราชวินิต
๓๑ ตุลาคม ๒๕๑๘

“สามัคคี คือการเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิธีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแย่งตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมนั้นคือความมั่นคงของบ้านเมือง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีประดับยศนายตำรวจชั้นนายพล ๑๕ มกราคม ๒๕๑๙

“คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะ และถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอกเห็นใจ
ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่ความเจริญ
ความมั่นคง ความสุขก็ทำ สิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดสระบุรี
๑๖ เมษายน ๒๕๑๙

“ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบ เป็นหลักสำคัญ
ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบและหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา
เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสำหรับใช้กระทำการทำงาน สิ่งหลังเป็นปัจจัยสำหรับส่งเสริมความประพฤติ
และการปฏิบัติงานให้ชอบคือให้ถูกต้องและเป็นธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม
๔ จังหวัดภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๙

“การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบ
มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย มิฉะนั้น จะทำให้มีความยุ่งยาก จะทำสังคมและชาติประเทศต้องแตกสลายจนสิ้นเชิง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แถลงการณ์ สภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.) เรื่อง “การใช้เสรีภาพเพื่อความปรองดองสมานฉันท์” เนื่องในวันนักข่าว ๕ มีนาคม ๒๕๒๐

“คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี
อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน
จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๑

“วิถีทางดำเนินของบ้านเมืองและประชาชนโดยทั่วไป มีความเปลี่ยนแปลงมาตลอดเนื่องจากความวิปริตผันแปร
ของวิถีแห่งเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และอื่น ๆ ของโลก ยากยิ่งที่เราจะหลีกเลี่ยงให้พ้นได้ จึงต้องระมัดระวัง
ประคับประคองตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องการเป็นอยู่ โดยประหยัดเพื่อที่จะอยู่ให้รอดและก้าวต่อไปได้โดยสวัสดี”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๒๑

“บรรพ ชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ
ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั่งทุกวันนี้”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๒

“การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖

“ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖

“การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙

“ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙

“ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙

“บ้านเมืองไทย สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้โดยดี เพราะว่าจิตใจสามัคคีและแสดงออกซึ่งสามัคคี
ถ้าตราบใดเรารักษาความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันไว้ได้ เราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุขตราบนั้น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะประชาชนจังหวัดราชบุรี
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๑

“การที่คนสมัยใหม่บอกว่าคนสมัยเก่ามีความรู้น้อยก็อาจเป็นจริง แล้วคนสมัยใหม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคนสมัยเก่าก็มีสิทธิ์
แต่ถ้าพูดตามความจริงแล้ว สิทธิ์ที่จะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าไม่ควรจะมี ด้วยเหตุว่าคนรุ่นเก่านี้เองทำให้คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาได้”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๑

“ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง
สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๓๒

“ในการปฏิบัติงานนั้น ย่อมมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อปัญหาเกิดขึ้นต้องแก้ไข อย่าทิ้งไว้พอกพูนลุกลามแก้ยาก
ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆ
คนหลายๆทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง
และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๓

“ความสามัคคี เป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทย ที่ได้อบรมสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษโดยไม่ขาดสาย
ทั้งนี้เพราะคนไทย ทราบตระหนักว่า หมู่คณะที่มีความสามัคคีแน่นแฟ้นสมบูรณ์ ย่อมมีกำลังกล้าแข็งทั้งในการคิดและการปฏิบัติ”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานในการประชุมใหญ่ สามัคคีสมาคม ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๓๔

“สามัคคี หรือการปรองดองกัน ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด
ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างก็ต้องสอดคล้องกัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ในโอกาสวัน
เฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖

“ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทยเสมอ”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗

“การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกัน โดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน
ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติ เพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์
ทุกคนต้องการความสุขหากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยยุติธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาประจำกระทรวงเข้าเฝ้าฯ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๗

“สังคม ใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน
สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออัญเชิญลงพิมพ์ในนิตยสารที่ระลึกครบรอบ ๓๖ ปี
ของสโมสรไลออนส์กรุงเทพฯ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๘

“ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึง ความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม
ทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ๒๕๓๙

“ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกประเทศ
ในโลกจึงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อม
ให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมี ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเองและเพื่อนมนุษย์”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือที่ระลึก
ในพิธีรับมอบเรือขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กน้อมเกล้าฯ ถวาย ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๙

“บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุงและการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ทางที่เราจะช่วยกันได้
ก็คือการที่ทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่หมาย
ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๔๓

“คุณธรรม ข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้ การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใด
แก่ผู้ใดโดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญ
ระหว่างบุคคลกับบุคคลและให้สังคมมี ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๕

“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒

ถ้าทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ คือความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติ ด้วยความสุจริตและด้วยความรู้ความสามารถ ด้วยจริงใจ ไม่นึกถึงเงินทองหรือนึกถึงผลประโยชน์ใดๆ ก็เป็นการทำหน้าที่โดยตรงและได้ทำหน้าที่โดยเต็มที่”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ ศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๑

ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๔

“ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้เพราะสถาบันต่างๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม ในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คน ที่จะต้องร่วมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

“การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนร่วมด้วย”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔

"เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้ หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆนั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยัน และ ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น" พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530

"...ความรู้ที่ศึกษามา ซึ่งเป็นความรู้ทางทฤษฎี นั้นคือรากฐานและต้นทุนสำคัญสำหรับที่จะนำไปปฏิบัติงานการ ความรู้ทฤษฎีนี้ จำเป็นที่จะต้องทบทวนเสริมสร้างอยู่เสมอและนำมาประกอบการปฏิบัติ เมื่อเอาความรู้ทางทฤษฎีมาประสมประสานปรุงแต่งกับความรู้จากการปฏิบัติอย่างสอดคล้องเหมาะสมแล้ว งานที่ทำก็จะบรรลุผลที่จะพึงภาคภูมิใจได้สมปรารถนา..."
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 23 มิถุนายน 2519

"...ปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆคนหลายๆทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จ..."
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 13 กรกฎาคม 2533

''...การทำงานใด ๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขตและ หลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถ ปฏิบัติมุ่งเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรง และ ถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและ ขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่า ทุกอย่างได้อย่างสิ้นเชิง...''
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 17 กรกฎาคม 2530

''...การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความ สุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิดเห็น ที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วยความถูกต้องตามเหตุตามผลจึง จะช่วยให้งานบรรลุจุดมุ่งหมาย และประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วนแท้จริง...''
พระบรมราโชวาท พระราชทานในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2528

"...หลักการสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จและเจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือ การไม่ทำตัว ทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตาและไมตรียินดี ประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ร่วมงานอย่างจริงใจ...''
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 18 กรกฎาคม 2530

“…ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิตเลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศ
นั้นมิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆฝ่าย ทุกๆ คน ที่จะต้องร่วมมือ
กระทำพร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน...”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีตรวจพลสวนสนามเนื่องในโอกาส
พระราชพิธีรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2514

“…ความสามัคคีนั้นอาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกันความจริงงานทุกอย่าง
หรือการอยู่เป็นสังคมย่อมต้องมีความแย้งกันความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้
หลักวิชาและความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่างๆ ย่อมเป็นประโยชน์ ถ้ามีรากฐานของ
ความคิดอย่างเดียวกัน รากฐานของความคิดนั้นคือแต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความสุขมีเป็นปึกแผ่น
...”
พระราชดำรัชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2517

“…สามัคคีนี้ก็คือการเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้
เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และทำงานด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ต้องส่งเสริมงานของกัน
และกัน และไม่ทำลายงานของกันและกัน มีเรื่องอะไรให้ได้พูดปรองดองกัน อย่าเรื่องใครเรื่องมัน
และงานก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม...”
พระราชดำรัสที่พระราชทานในพิธีประดับยศนายตำรวจชั้นนายพล เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2519

“…คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะและถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอก
เห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่
ความเจริญความมั่นคง ความสุขก็ทำสิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่
ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน
จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2519

“…การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกันโดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน
ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติเพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์
ทุกคนต้องการความสุข หากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดย
ยุติธรรม...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาประจำ
กระทรวงเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2537

“…มานึกดูว่า ในเมืองไทยนี้ การปกครองบ้านเมืองก็ทำมาคล้ายเป็นตำรามาตั้งแต่ต้น ไม่ได้ใช้
ตำราต่างประเทศมากเท่าไรเลย ที่เมืองไทยเราอยู่มาได้จนทุกวันนี้ ก็เพราะใช้ตำราของเราเอง เรามีวิธี
ปกครองหลายวิธี...หลายประเทศในโลกมีนิสัยใจคอของตัวมีความเป็นประเทศของตัวมาช้านานแล้ว...
การปกครองของเมืองไทยเราก็ไม่ใช่ว่าจะต้องหยุดนิ่งคงเดิมอยู่เสมอ ต้องเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน แต่ต้อง
เปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผล...”
พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอล ‘ส.ส. มหากุศล’
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2512

“…ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เรา
เห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอด
มาตั้งแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษา
ประสานมิตร เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2514

“....พระพุทธศาสนาแสดงความจริงของชีวิต แสดงทางปฏิบัติที่จะให้บรรลุความสุข สูงสุด
ของชีวิต มีวิธีการสั่งสอนที่ยึดหลักเหตุและผลว่า ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ ผู้ใดประกอบเหตุอย่างใด เพียงใด
ก็ได้ผลอย่างนั้น เพียงนั้น...”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ.2513

“...ถ้าเราสะสมเงินให้มาก เราก็สามารถที่จะใช้ดอกเบี้ย ใช้เงินที่เป็นดอกเบี้ยโดยไม่แตะต้อง
ทุน ถ้าเราใช้มากเกินไปหรือเราไม่ระวัง เรากินเข้าไปเป็นทุน ทุนมันก็น้อยลงๆ จนหมด...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมฉลองวันเฉลิมพระชนมพรรษา
เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2518

“...ประเทศ หรือสังคมจะอยู่ได้ก็เพราะมีผู้ที่ให้คือ ในหมู่มนุษย์ต้องมีพวกที่ให้ และพวกที่รับ
พวกที่ให้สำคัญที่สุด ได้แก่ บิดา มารดา ต่อมาก็มีครูบาอาจารย์ ผู้ที่ให้นั้น เพราะได้รับก่อนจึงให้ได้ ทุกคน
เกิดมาได้ก็เพราะได้รับการกำเนิดจากบิดามารดา ได้มาเป็นครูบาอาจารย์ ก็เพราะได้รับวิชาความรู้
ตกทอดลงมา...”
พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่ศึกษาธิการจังหวัดและผู้ตรวจการศึกษา ทั่วราชอาณาจักร
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2511

“...การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและ
ความรับผิดชอบมิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึง
สวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย มิฉะนั้น จะทำให้มีความยุ่งยากจะทำสังคมและ
ชาติประเทศต้องแตกสลายโดยสิ้นเชิง ...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแถลงการณ์ สภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตาม
แนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.) เรื่อง ‘การใช้เสรีภาพเพื่อการปรองดองสมานฉันท์’ เนื่องในวันนักข่าว
เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ.2520

“...จิตใจและความประพฤติที่สะอาดและมีระเบียบ เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตจิตใจ
ทั้งประพฤติดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้ หากแต่จำเป็นต้องฝึกหัดอบรม และสนับสนุนส่งเสริมกัน
อย่างจริงจัง สม่ำเสมอ นับตั้งแต่บุคคลเกิด ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อ
กันมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งเพื่อให้สามารถรักษาตัว และมีความสุข ความสำเร็จในการครองชีวิต ทั้งให้
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ด้วยความผาสุก สงบ...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการสัมมนา
ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศ เรื่องการพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม
พ.ศ.2516

“...ความเข้มแข็งในจิตใจนี้เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องฝึกฝนแต่เล็ก เพราะว่าต่อไปถ้ามีชีวิตที่
ลำบากไปประสบอุปสรรคใดๆ ถ้าไม่มีความเข้มแข็ง ไม่มีความรู้ ไม่มีทางที่จะผ่านอุปสรรคนั้นได้ เพราะว่า
ถ้าไม่เจออุปสรรคอะไร ก็ไม่มีอะไรที่จะมาช่วยเราได้ แต่ถ้ามีความรู้ มีอัธยาศัยที่ดี และมีความเข็มแข็ง
ในกาย ในใจ ก็สามารถที่จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆนั้นได้...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะครูและนักเรียนโรงเรียน
ราชวินิต เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ.2518

“...การรักษาความสมบูรณ์แข็งแรงของร่างกายเป็นปัจจัยของเศรษฐกิจที่ดี และสังคม
ที่มั่นคง เพราะร่างกายที่แข็งแรงนั้น โดยปกติจะอำนวยผลให้สุขภาพจิตใจสมบูรณ์ และเมื่อมีสุขภาพ
สมบูรณ์ดี พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจแล้ว ย่อมมีกำลังทำประโยชน์สร้างสรรค์เศรษฐกิจและสังคมของ
บ้านเมืองได้เต็มที่ ทั้งไม่เป็นภาระแก่สังคมด้วย คือเป็นผู้แต่งสร้างมิใช่ผู้ถ่วงความเจริญ...”
พระบรมราโชวาทในพระราชพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยมหิดล เมื่อเดือนตุลาคม
พ.ศ.2522

“...คุณธรรมที่ทุกคนควรจะศึกษาและน้อมนำมาปฏิบัติอยู่ที่สี่ประการ “ประการแรก คือ
การรักษาความสัตย์ ความจริงใจต่อตัวเองที่จะประพฤติปฏิบัติแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ที่เป็นธรรม
“ประการที่สอง คือ การรู้จักข่มใจตัวเอง ฝึกตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัจความดีนั้น
“ประการที่สาม คือ การอดทน อดกลั้น และอดออมที่ไม่ประพฤติล่วงความสัจสุจริต ไม่ว่าจะด้วยเหตุ
ประการใด “ประการที่สี่ คือ การรู้จักระวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อย
ของตนเอง เพื่อประโยชน์ส่วนใหญ่ของบ้านเมือง คุณธรรมสี่ประการนี้ ถ้าแต่ละคนพยายามปลูกฝังและ
บำรุงให้เจริญงอกงามขึ้นโดยทั่วกันแล้ว จะช่วยให้ประเทศชาติบังเกิดความสุข ความร่มเย็น และมีโอกาส
ที่จะมีโอกาสที่จะปรับปรุงพัฒนา ให้มั่นคงก้าวหน้าต่อไป ได้ดังประสงค์....”
พระราชดำรัสในพิธีบวงสรวง สมเด็จพระบูรพมหากษัตริยาธิราชเจ้า ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
เนื่องในการพระราชพิธีสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เมื่อ พ.ศ.2525

“...หลักของคุณธรรมคือ การคิดด้วยจิตใจที่เป็นกลาง ก่อนจะพูดจะทำสิ่งไร จำเป็นต้อง
หยุดคิดเสียก่อน เพื่อรวบรวมสติให้ตั้งมั่น และจิตสว่างแจ่มใส ซึ่งเมื่อฝึกหัดคุ้นเคยชำนาญแล้ว จะกระทำ
ได้คล่องแคล่วช่วยให้สามารถแสดงความรู้ ความคิดในเรื่องต่างๆ ให้ผู้ฟังได้เข้าใจได้ง่าย ได้ชัด ไม่ผิด
ทั้งหลักวิชา ทั้งหลักคุณธรรม...”
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 10
กรกฎาคม พ.ศ.2535

1.ชาวประชา จงทำดีเพื่อพ่อหลวง
2.ประเทศชาติและชาวประชาจะเป็นสุข ทรงพระเจริญ
3.รักในหลวง เทิดทูล พระมหากษัตริย์
4.น้ำพระทัยจากในหลวง หาที่เปรียบไม่ได้
5. ความจนไม่มี ถ้ารู้จักเศรษฐกิจพอเพียง

พระบารมีเหนือกษัตริย์ใดในหล้า
ทรงดำริสิ่งมีค่ามหาศาล
ยอมสละทุกสิ่งเพื่อกิจการ
ให้ทวยราษฎร์ทั่วทุกย่านได้ร่มเย็น

ทุกตอนเช้าสวดมนต์ไหว้ ถวาย" ในหลวง"
กลางวันล่วง ทำงานไปในงาน " พ่อ "
แหล่งน้ำท่านประทานให้ อย่างเพียงพอ
ลูกๆขอน้อมใจ ถวายพระพร
จะดูแลรักษา และจัดสรร
โครงการฯท่านอย่างดี ไม่มีท้อ
ถึงเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ไม่รีรอ
ขอให้ " พ่อ " ได้สบาย พระทัยพลัน

พระบารมีเหนือกษัตริย์ใดในหล้า
ทรงดำริสิ่งมีค่ามหาศาล
ยอมสละทุกสิ่งเพื่อกิจการ
ให้ทวยราษฎร์ทั่วทุกย่านได้ร่มเย็น
ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ

ครองถวายชัย องค์ภูมิพล มหาราช
ด้วยใจชาติ เป็นหนึ่งใจ ใต้ไชยศรี
ร่มฉัตรแก้ว โพธิ์ธรรม ล้ำฤดี
ให้พอเพียง เลี้ยงชีวี ทุกที่ไทย
ทรงเป็นปราชญ์ เป็นกวี เป็นศรีศิลป์
ทรงเป็นภูมิ แผ่นดิน ทุกถิ่นสมัย
ทรงครองราชย์ ครองธรรม และไทย
ถวายชัย เสริมส่ง ทรงพระเจริญ

บังคมบรมราชเจ้า จอมนรินทร์
เอกอัครบดินทร์ ดิลกหล้า
สมเด็จนวมินทร์ มหาราช
อวยสุขทุกทั่วหน้า มนัสปลื้มเปรมกมล

เป็นศูนย์รวมดวงใจอันยิ่งใหญ่ ประดุจมิ่งขวัญเมืองเรื่องสยาม
คือกษัตริย์ผู้ทรงธรรมนำเขตคาม ถวายพระนามองค์กษัตริย์นักพัฒนา

พระองค์คือพ่อของแผ่นดินไทย ที่คนไทยรักและเคารพ
พระองค์ คือผู้ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน คือศูนย์รวมใจของคนไทยทั้งชาติ
พระองค์คือกษัตริย์ผู้ครองราชย์ที่ยาวนานที่สุดในโลก
พระองค์ทรงแก้ไขปัญหาต่างๆให้กับประเทศไทย ให้ได้รอดพ้นจากเหตุการณ์ต่างๆมากมาย
ทำให้ประเทศไทยร่มเย็นเป็นสุข
พระองค์ทรงพระราชทานฝนเทียมให้แก่พสกนิกรชาวนาผู้ยากไร้ ให้สามารถดำรงวิถีชิวิตอยู่ได้อย่างผาสุก
พระองค์ทรงแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้น
โดยสามารถเห็นได้จากการก่อตั้งโครงการหลวงต่างๆ
พระองค์คือพ่อ ของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่คอยชี้นำแนวทางต่างๆให้ประชาชนประพฤติปฏิบัติ
ซึ่งล้วนแต่เป็นแนวทาง คำสอนที่ดี พระองค์ คือ ต้นแบบแห่งความพอเพียง
ที่เป็นแบบอย่างให้ประชาชนคอยปฏิบัติตาม และเป็นต้นแบบให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้
พระองค์ได้ทรงพระอุตสาหะวิริยะบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อบำบัด
ทุกข์บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์ทั่วทุกภูมิภาค
พระองค์ทรงทำให้ประเทศไทยเจริญก้าวหน้า รุ่งเรือง ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม การปกครอง
ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ฯลฯ
พระองค์ทรงแผ่พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ให้พสกนิกรและผู้เข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร มีความร่มเย็นเป็นสุข

ครองถวายชัย องค์ภูมิพล มหาราช
ด้วยใจชาติ เป็นหนึ่งใจ ใต้ไชยศรี
ร่มฉัตรแก้ว โพธิ์ธรรม ล้ำฤดี
ให้พอเพียง เลี้ยงชีวี ทุกที่ไทย
ทรงเป็นปราชญ์ เป็นกวี เป็นศรีศิลป์
ทรงเป็นภูมิ แผ่นดิน ทุกถิ่นสมัย
ทรงครองราชย์ ครองธรรม และไทย
ถวายชัย เสริมส่ง ทรงพระเจริญ

“ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่
เป็นสังคมย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชา
และความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่าง ๆ ย่อมเป็นประโยชน์ หากมีรากฐานของความคิดอย่างเดียวกัน
รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความมีความเป็นปึกแผ่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ มีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๑๗

ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท จะขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีความเข้าใจกฎหมายและปรัชญากฎหมายอย่างลึกซึ้ง ทรงให้ความสนใจต่อกฎหมายและหลักความยุติธรรมเป็นอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้พสกนิกรอยู่ร่วมสังคมกันได้อย่างผาสุก

“…กฎหมายเป็นเครื่องมือในการรักษาความยุติธรรม ความยุติธรรมจึงควรมาก่อนและอยู่เหนือกฎหมาย และการใช้กฎหมายนั้นจะต้องใช้เพื่อรักษาความยุติธรรมมิใช่เพื่อรักษาตัวกฎหมาย…”

แจ๊ซ คือแนวเพลงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชโปรด และทรงเป็นนักดนตรีแจ๊ซที่เปี่ยมด้วยพระปรีชาสามารถ บิล คลินตัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวยกย่องพระองค์เป็น “King of Jazz” พระองค์มีพระราชดำรัสครั้งหนึ่งว่า

“ดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า จะเป็นแจ๊ซหรือไม่ใช่แจ๊ซก็ตาม ดนตรีล้วนอยู่ในตัวทุกคนเป็นส่วนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตคนเรา สำหรับข้าพเจ้า ดนตรีคือสิ่งประณีตงดงาม และทุกคนควรนิยมในคุณค่าของดนตรีทุกประเภท เพราะว่าดนตรีแต่ละประเภท ต่างก็มีความเหมาะสมตามแต่โอกาสและอารมณ์ต่างๆ กันไป”

๔

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยกราบบังคมทูลถามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชว่า “เคยทรงเหนื่อย ทรงท้อบ้างหรือไม่” พระองค์มีพระราชกระแสตอบว่า

“ความจริงมันน่าท้อถอยหรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูงเหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ”

มูลนิธิชัยพัฒนา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชดำริให้จัดตั้ง “มูลนิธิชัยพัฒนา” โดย ทรงดำรงตำแหน่งเป็นนายกกิตติมศักดิ์ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นองค์ประธาน เพื่อสนับสนุนช่วยเหลือประชาชนในลักษณะของการดำเนินงานพัฒนาต่างๆ ในกรณีที่ต้องถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของกฎเกณฑ์ ระเบียบ หรืองบประมาณที่ระบบราชการไม่สามารถดำเนินการได้ทันที จนเป็นเหตุให้การแก้ไขปัญหาไม่สอดคล้อง หรือทันกับสถานการณ์ที่จำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกระทำโดยเร็ว การที่มูลนิธิชัยพัฒนาเข้ามาดำเนินการเช่นนี้ ส่งผลให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง รวดเร็วฉับพลัน โดยไม่ตกอยู่ภายใต้ข้อจำกัดใดๆ ทั้งสิ้น อาจกล่าวได้ว่าการดำเนินงานของมูลนิธิชัยพัฒนาเป็นการช่วยให้กระบวนการพัฒนา เกิดความสมบูรณ์ขึ้น

๑ ขอพระองค์จงอยู่กับเราคนไทยตลอดไป
๒ ด้วยพระมหากรุณาที่พระองค์มีต่อคนไทยทุกคนข้าพระเจ้าขอพระองค์อยู่คู่คนไทยต่อไป
๓ ขอให้พระองค์ทรงมีความสุขความสำราญในทุก ๆ วัน
๔ ขอให้พระองค์ทรงปลอดภัยต่ออันตรายทั้งปวง
๕ เราเป็นไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ด้วยพระบารมีของพ่อหลวง
๖ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ นิรันดร์ เป็นมิ่งขวัญ อันยิ่งใหญ่ ไทยทั้งมวล
๗ พระมหากษัตริย์นักพัฒนา หนึ่งเดียวในแผ่นดิน ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๘ ท่านทรงเป็นหัวใจของปวงชนชาวไทยทั้งปวง
๙ ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัยอานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช
๑๐ จงให้พ่อหลวงทรงหายจากพระประชวรพระวรกายแข็งแรงเทอญ
๑๑ ด้วยอำนาจคุณแห่งพระรัตนตรัย ขอให้ฝ่าละอองรีพระบาท ทรงมีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงในเวลาที่รวดเร็วเทอญ
๑๒ ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญปราศจากโรคภัย
๑๓ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญพสกนิกรชาวไทยยิ่งยืนนาน
๑๔ ขอถวายพระพรให้ในหลวงทรงมีพลานามัยสมบูรณ์หายจากโรคภัยเป็นปกติสุขโดยเร็ว
๑๕ ขอให้พ่อหลวงมีความสุขและมีสุขภาพที่แข็งแรง
๑๖ ขอถวายพระพรสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขอให้ทรงมีพลามัยสมบูรณ์แข็งแรง ๆ อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้แก่ปวงชนชาวไทยต่อไปอีกนานๆ
๑๗ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงปกป้องคุ้มครองพระองค์ท่าน
๑๘ ทรงเป็นมิ่งขวัญ ร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชาชนชาวไทย
๑๙ ขอพระองค์ทรงสถาพร เป็นมิ่งขวัญให้แก่ปวงชนชาวไทยตราบกัลปวสาน
๒๐ ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวร
๒๑ ขอพระองค์ท่านอยู่คู่แผ่นดินสยามยิ่งยืนนาน
๒๒ ขอปฏิบัติหน้าที่ ด้วยกาย วาจา ใจ สุจริต และความมุ่งมั่นตั้งใจหมายเพื่อผลความดีสูงสุด
๒๓ แด่ส่วนรวม และประเทศชาติ ขอจงทรงพระเจริญ
๒๔ พระองค์ทรงอยู่ในใจประชาชนทั่วหล้า ขอทรงพระเจริญ
๒๕ พระพลานามัยแข็งแรงเพื่อเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป
๒๖ พระองค์ทรงแผ่พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ให้พสกนิกรและผู้เข้าพึ่ง
๒๗ พระบรมโพธิสมภารมีความร่มเย็นเป็นสุข ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๒๘ ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตราบนานเท่านาน
๒๙ ขอเทิดเกียรติเหนือเกล้าชาวประชามีสุข ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๓๐ ขอให้พระองค์สุขภาพร่างกาย - จิตใจ แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญของประชาชาติไทย
๓๑ ด้วยพระมหากรุณาที่พระองค์มีต่อคนไทยทุกคนข้าพระเจ้าขอพระองค์อยู่คู่คนไทยต่อไป
๓๒ ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๓๓ ขอพระองค์ทรงอยู่คู่ขวัญประชาชนชาวไทยตลอดไป
๓๔ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ พลานามัยสมบูรณ์ มีพระวรกายแข็งแรง ปราศจากโรคร้าย
๓๕ ทรงเป็นมิ่งขวัญ ร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงประชาชนชาวไทย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
๓๖ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานทรงพระเกษมสำราญตลอดกาลตลอดไป
๓๗ ขออำนาจคุณพระศรรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก จงดลบันดาลให้พระองค์ทรงหาย
๓๘ จากอาการพระประชวรโดยเร็ว และทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง
๓๙ ทรงพระเกษมสำราญ หายจากโรคภัยทั้งปวง
๔๐ ขอให้ในหลวงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์
๔๑ เป็นศูนย์รวมทางจิตใจของประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า
๔๒ ข้าพระพุทธเจ้าจะจงรักภักดีต่อองค์สถาบันตลอดไป
๔๓ ขอพระองค์จงทรงเจริญพระชนมายุยิ่งยืนนาน ตราบนานเท่านาน เทอญ
๔๔ ข้าพเจ้าขอทำดีถวายในหลวงโดยการเป็นคนที่ดีของสังคมและเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่
๔๕ ข้าพระพุทธเจ้าขออวยพรให้สิ่งศักดิ์สิทธ์ทั้งหลายในสากลภพจงอำนวยอวยชัยให้
๔๖ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจงมีสุขภาพพลานามัยดียิ่งขึ้น ยิ่งขึ้นไปจนปกติดังเดิม
๔๗ ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
๔๘ ขออำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงดลบันดาลให้พระองค์ทรงมีพระชนม์ชีพยืนยาวเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่พสกนิกรชาวไทยทุกคนและพื้นแผ่นดินไทยให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุขและสงบสุข
๔๙ พระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ
๕๐ ข้าพเจ้าจักจงรักภักดีต่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ตลอดไป
๕๑ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งของประเทศ
๕๒ ขอให้พระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงมี ส่งผลให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็น
๕๓ พระบารมีพระปรีชา ปวงประชาจึงอยู่เย็นร้อยดวงใจ ให้ชาติไทย เป็นขวานทอง เพราะลูกพระบิดาคือคนไทย
๕๔ อัครมหาราชัน มิ่งขวัญชาวไทย พระเกียรติคุณขจรไกล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๕๕ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปกครองประเทศไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข
๕๖ พระบารมีมากล้น เหนือคณา ชาวประชาสุขสันต์ ถ้วนหน้า
๕๗ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งๆขึ้นไป
๕๘ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจทำให้ประเทศไทยอยู่เป็นเอกราชมาช้านาน
๕๙ ราชันราชินีคู่แผ่นดิน ตราบชั่วชีวิตข้าพระพุทธเจ้า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๖๐ จะเทิดทูลและยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ จะดำรงชีวิตอยู่กรอบศีลธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของเรา
๖๑ ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทยผู้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง
๖๒ พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตในดวงใจของปวงประชา
๖๓ Long Live The King ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพลานามัยแข็งแรง ขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครองพระองค์ อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป
๖๔ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา
๖๕ จอมทัพจอมไทยจอมใจราษฎร์ คือขวัญชาติขวัญประชานราศัย เถลิงเกียรติเกริกไกรไม่ลบเลือน ขอพระองค์ทรงพระเจริญมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
๖๖ พระคือศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติเหล่าทวยราษฎร์ประจักษ์แจ้งทุกแห่งหนขอจงทรง พระเกษมเปรมกมลพระเกียรติก้องสากลคู่โลกา
๖๗ พระสถิตในใจไทยทั้งชาติ พระภูมิพลมหาราชแห่งสยาม ทรงเป็นพลังแผ่นดินสมพระนาม ทุกเขตคามขอทรงพระเจริญ
๖๘ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยตลอดไป ขอคุณพระศรีรัตนไตร และ ทั้งหลายทั่วสากลโลกให้ปกป้องคุ้มครองพระองค์ตลอดไป
๖๙ พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัตินำมาซึ่งความร่มเย็นแก่พสกนิกรชาวไทย
๗๐ มหาราชาผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๗๑ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยทั่วหล้า
๗๒ ไทยนี้รักสามัคคี ร่วมภักดีต่อสถาบัน
๗๓ ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช โปรดปกป้องอภิบาลในหลวง
๗๔ ขยันมั่นเพียร มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อในหลวง
๗๕ มีชีวิตพอเพียง พออยู่พอกิน วิถีไทย ซึ่งได้มาจากน้ำพระทัยในหลวงทรงโปรดกล้า
๗๖ ด้วยศิระพระบารี ประชาชีร่มเย็นทั่วถิ่นไทย
๗๗ ในหลวงพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้คนในชาติมีความรักใคร่กลมเกลียวสมัครสมานสามัคคี
๗๘ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๗๙ พระทรงเป็นดวงใจไทยทั้งชาติ ปวงข้าบาทน้อมจิตอธิษฐาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
๘๐ เราจงน้อมนำราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ เป็นเครื่อง ยึดเหนี่ยวจิตใจ
๘๑ ผู้ใดกระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน เสียหาย ผู้นั้นไม่สมควรมีชีวิตยืนอยู่บนผืนดินไทย
๘๒ เราคนไทย เรารัก เราเทิดทูน ในหลวงของเรา
๘๓ หลังจากหายจากการประชวรแล้วขออย่าได้มีโรคภัยมาเบียดเบียนอีกเลยขอพระองค์จงมีความสุขมากๆ
๘๔ เป็นดั่งแสงที่รุ่งโรจน์กลางใจฉัน มีเมตตากรุณาคุณอนันต์ เหมือนสายใยสายสัมพันธ์ คุณความดีของพระองค์ท่านคือทุกสิ่ง
๘๕ ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว และขอให้พระองค์ทรงมีพระสุขภาพและพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตลอดไป
๘๖ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักคิด ผู้สร้างแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงช่วยให้ประเทศไทย และคนไทยสามารถหาเลี้ยงตนเองได้ไม่ลำบาก ที่คอยห่วงใยดูแลประชาชนของพระองค์
๘๗ ขอพระองค์หายจากพระประชวร โดยเร็ว ขอให้พระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่ง ขวัญปวงชนชาวไทย เป็นร่มฉัตร ปกปักษ์ประเทศไทย และทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม
๘๘ เรารักในหลวงและราชวงศ์ทุกพระองค์
๘๙ ขอให้ในหลวงมีพลานามัยที่แข็งแรงและขอให้ในหลวงอายุมั่นขวัญ ขวัญยืนตลอดไป
๙๐ ผู้ใดกระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน เสียหาย ผู้นั้นไม่สมควรมีชีวิตยืนอยู่บนผืนดินไทย
๙๑ เรารักในหลวง เรารักประเทศไทย จงร่วมใจกันให้เป็นดินแดนที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่ง
๙๒ พระคุณพ่อของแผ่นดิน ล้นเหลือสิ้นจะพรรณนา
๙๓ พระองค์ผู้ทรงเป็นบิดาของปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๙๔ ขอจงทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่ปวงชนชาวไทยตลอดไป
๙๕ ขอให้พระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงมี ส่งผลให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็น
๙๖ แม้พรใดในหล้าที่ว่าใช้ ลูกขอให้พระองค์ สุขพระหฤทัยพระวรกาย
๙๗ แม้จิตน้อมใจนำทำความสุข ด้วยจิตลูกขอถวายแด่ในหลวง
๙๘ ขอพรชัยให้พระองค์ทุกองค์ท่าน มีพระพาลานามัยแข็งแรงทุกพรรษา
๙๙ พระมหากรุณาอเนกอนันต์ พระมิ่งขวัญขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๐๐ สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นสถาบันหลักในผืนธงชาติไทยที่เราเคารพ
๑๐๑. ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ อยู่คู่คนไทยตลอดไป
๑๐๒. ด้วยอำนาจคุณแห่งพระรัตนตรัย ขอให้ฝ่าละอองรีพระบาท ทรงมีพลานามัยที่สมบูรณ์แข็งแรงในเวลาที่รวดเร็วเทอญ
๑๐๓. ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญปราศจากโรคภัย
๑๐๔. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญพสกนิกรชาวไทยยิ่งยืนนาน
๑๐๕. ขอถวายพระพรให้ในหลวงทรงมีพลานามัยสมบูรณ์หายจากโรคภัยเป็นปกติสุขโดยเร็ว
๑๐๖. ขอพระองค์จงอยู่กับเราคนตลอดไป
๑๐๗. ด้วยพระมหากรุณาที่พระองค์มีต่อคนไทยทุกคนข้าพระเจ้าขอพระองค์อยู่คู่คนไทยต่อไป
๑๐๘. ขอให้พระองค์ทรงมีความสุขความสำราญในทุก ๆ วัน
๑๐๙. ขอให้พระองค์ทรงปลอดภัยต่ออันตรายทั้งปวง
๑๑๐. เราเป็นไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ด้วยพระบารมีของพ่อหลวง
๑๑๑. ขอพระองค์ทรงพระเจริญ นิรันดร์ เป็นมิ่งขวัญ อันยิ่งใหญ่ ไทยทั้งมวล
๑๑๒. พระมหากษัตริย์นักพัฒนา หนึ่งเดียวในแผ่นดิน ขอพระองค์ทรงพระข้อความที่เจริญยิ่งยืนนาน
๑๑๓. ท่านทรงเป็นหัวใจของปวงชนชาวไทยทั้งปวง
๑๑๔. ขออานุภาพแห่งพระรัตนตรัยอานุภาพแห่งพระสยามเทวาธิราช
๑๑๕. จงให้พ่อหลวงทรงหายจากพระประชวรพระวรกายแข็งแรงเทอญ
๑๑๖. ขอพระองค์ท่านอยู่คู่แผ่นดินสยามยิ่งยืนนาน
๑๑๗. ขอปฏิบัติหน้าที่ ด้วยกาย วาจา ใจ สุจริต และความมุ่งมั่นตั้งใจหมายเพื่อผลความดีสูงสุดแด่ส่วนรวม และประเทศชาติ ขอจงทรงพระเจริญ
๑๑๘. พระองค์ทรงอยู่ในใจประชาชนทั่วหล้า ขอทรงพระเจริญ
๑๑๙. พระพลนามัยแข็งแรงเพื่อเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป
๑๒๐. พระองค์ทรงแผ่พระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม ให้พสกนิกรและผู้เข้าพึ่งพระบรมโพธสมภารมีความร่มเย็นเป็นสุข ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๑๒๑ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งของประเทศ
๑๒๒ ขอให้พระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงมี ส่งผลให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็น
๑๒๓ พระบารมีพระปรีชา ปวงประชาจึงอยู่เย็นร้อยดวงใจ ให้ชาติไทย เป็นขวานทอง เพราะลูกพระบิดาคือคนไทย
๑๒๔ อัครมหาราชัน มิ่งขวัญชาวไทย พระเกียรติคุณขจรไกล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๒๕ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปกครองประเทศไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข
๑๒๖ พระบารมีมากล้น เหนือคณา ชาวประชาสุขสันต์ ถ้วนหน้า
๑๒๗ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งๆขึ้นไป
๑๒๘ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจทำให้ประเทศไทยอยู่เป็นเอกราชมาช้านาน
๑๒๙ ราชันราชินีคู่แผ่นดิน ตราบชั่วชีวิตข้าพระพุทธเจ้า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๓๐ จะเทิดทูลและยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ จะดำรงชีวิตอยู่กรอบศีลธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของเรา
๑๓๑ ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทยผู้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง
๑๓๒ พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตในดวงใจของปวงประชา
๑๓๓ Long Live The King ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพลานามัยแข็งแรง ขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครองพระองค์ อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป
๑๓๔ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา
๑๓๕ จอมทัพจอมไทยจอมใจราษฎร์ คือขวัญชาติขวัญประชานราศัย เถลิงเกียรติเกริกไกรไม่ลบเลือน ขอพระองค์ทรงพระเจริญมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
๑๓๖ พระคือศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติเหล่าทวยราษฎร์ประจักษ์แจ้งทุกแห่งหนขอจงทรง พระเกษมเปรมกมลพระเกียรติก้องสากลคู่โลกา
๑๓๗ พระสถิตในใจไทยทั้งชาติ พระภูมิพลมหาราชแห่งสยาม ทรงเป็นพลังแผ่นดินสมพระนาม ทุกเขตคามขอทรงพระเจริญ
๑๓๘ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยตลอดไป ขอคุณพระศรีรัตนไตร และ ทั้งหลายทั่วสากลโลกให้ปกป้องคุ้มครองพระองค์ตลอดไป
๑๓๙ พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัตินำมาซึ่งความร่มเย็นแก่พสกนิกรชาวไทย
๑๔๐ มหาราชาผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๔๑ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยทั่วหล้า
๑๔๒ ไทยนี้รักสามัคคี ร่วมภักดีต่อสถาบัน
๑๔๓ ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช โปรดปกป้องอภิบาลในหลวง
๑๔๔ ขยันมั่นเพียร มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อในหลวง
๑๔๕ มีชีวิตพอเพียง พออยู่พอกิน วิถีไทย ซึ่งได้มาจากน้ำพระทัยในหลวงทรงโปรดกล้า
๑๔๖ ด้วยศิระพระบารี ประชาชีร่มเย็นทั่วถิ่นไทย
๑๔๗ ในหลวงพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้คนในชาติมีความรักใคร่กลมเกลียวสมัครสมานสามัคคี
๑๔๘ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๑๔๙ พระทรงเป็นดวงใจไทยทั้งชาติ ปวงข้าบาทน้อมจิตอธิษฐาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
๑๕๐ เราจงน้อมนำราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ เป็นเครื่อง ยึดเหนี่ยวจิตใจ
๑๕๑ โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งของประเทศ
๑๕๒ ขอให้พระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงมี ส่งผลให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็น
๑๕๓ พระบารมีพระปรีชา ปวงประชาจึงอยู่เย็นร้อยดวงใจ ให้ชาติไทย เป็นขวานทอง เพราะลูกพระบิดาคือคนไทย
๑๕๔ อัครมหาราชัน มิ่งขวัญชาวไทย พระเกียรติคุณขจรไกล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๕๕ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ปกครองประเทศไทยให้ร่มเย็นเป็นสุข
๑๕๖ พระบารมีมากล้น เหนือคณา ชาวประชาสุขสันต์ ถ้วนหน้า
๑๕๗ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งๆขึ้นไป
๑๕๘ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจทำให้ประเทศไทยอยู่เป็นเอกราชมาช้านาน
๑๕๙ ราชันราชินีคู่แผ่นดิน ตราบชั่วชีวิตข้าพระพุทธเจ้า ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๖๐ จะเทิดทูลและยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ จะดำรงชีวิตอยู่กรอบศีลธรรมเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พ่อหลวงของเรา
๑๖๑ ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทยผู้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง
๑๖๒ พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตในดวงใจของปวงประชา
๑๖๓ Long Live The King ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ มีพลานามัยแข็งแรง ขอให้สิ่งศักดิ์คุ้มครองพระองค์ อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป
๑๖๔ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงประชา
๑๖๕ จอมทัพจอมไทยจอมใจราษฎร์ คือขวัญชาติขวัญประชานราศัย เถลิงเกียรติเกริกไกรไม่ลบเลือน ขอพระองค์ทรงพระเจริญมีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
๑๖๖ พระคือศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติเหล่าทวยราษฎร์ประจักษ์แจ้งทุกแห่งหนขอจงทรง พระเกษมเปรมกมลพระเกียรติก้องสากลคู่โลกา
๑๖๗ พระสถิตในใจไทยทั้งชาติ พระภูมิพลมหาราชแห่งสยาม ทรงเป็นพลังแผ่นดินสมพระนาม ทุกเขตคามขอทรงพระเจริญ
๑๖๘ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของคนไทยตลอดไป ขอคุณพระศรีรัตนไตร และ ทั้งหลายทั่วสากลโลกให้ปกป้องคุ้มครองพระองค์ตลอดไป
๑๖๙ พระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัตินำมาซึ่งความร่มเย็นแก่พสกนิกรชาวไทย
๑๗๐ มหาราชาผู้ครองแผ่นดินโดยธรรม ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๗๑ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยทั่วหล้า
๑๗๒ ไทยนี้รักสามัคคี ร่วมภักดีต่อสถาบัน
๑๗๓ ขออำนาจแห่งพระรัตนตรัยและพระสยามเทวาธิราช โปรดปกป้องอภิบาลในหลวง
๑๗๔ ขยันมั่นเพียร มีคุณธรรม จริยธรรม เพื่อในหลวง
๑๗๕ มีชีวิตพอเพียง พออยู่พอกิน วิถีไทย ซึ่งได้มาจากน้ำพระทัยในหลวงทรงโปรดกล้า
๑๗๖ ด้วยศิระพระบารี ประชาชีร่มเย็นทั่วถิ่นไทย
๑๗๗ ในหลวงพระองค์ทรงมีพระราชดำรัสให้คนในชาติมีความรักใคร่กลมเกลียวสมัครสมานสามัคคี
๑๗๘ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๑๗๙ พระทรงเป็นดวงใจไทยทั้งชาติ ปวงข้าบาทน้อมจิตอธิษฐาน มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน นิจนิรันดร์ ขอพระองค์ ทรงพระเจริญ
๑๘๐ เราจงน้อมนำราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ เป็นเครื่อง ยึดเหนี่ยวจิตใจ
๑๘๑ เรารักในหลวง เรารักประเทศไทย จงร่วมใจกันให้เป็นดินแดนที่น่าอยู่ที่สุดแห่งหนึ่ง
๑๘๒ พระคุณพ่อของแผ่นดิน ล้นเหลือสิ้นจะพรรณนา
๑๘๓ พระองค์ผู้ทรงเป็นบิดาของปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๘๔ ขอจงทรงพระเจริญ เป็นมิ่งขวัญเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่ปวงชนชาวไทยตลอดไป
๑๘๕ ขอให้พระมหากรุณาธิคุณที่ในหลวงทรงมี ส่งผลให้แผ่นดินไทยสงบร่มเย็น
๑๘๖ แม้พรใดในหล้าที่ว่าใช้ ลูกขอให้พระองค์ สุขพระหฤทัยพระวรกาย
๑๘๗ แม้จิตน้อมใจนำทำความสุข ด้วยจิตลูกขอถวายแด่ในหลวง
๑๘๘ ขอพรชัยให้พระองค์ทุกองค์ท่าน มีพระพาลานามัยแข็งแรงทุกพรรษา
๑๘๙ พระมหากรุณาอเนกอนันต์ พระมิ่งขวัญขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๑๙๐ สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นสถาบันหลักในผืนธงชาติไทยที่เราเคารพ
๑๙๑ ผู้ใดกระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน เสียหาย ผู้นั้นไม่สมควรมีชีวิตยืนอยู่บนผืนดินไทย
๑๙๒ เราคนไทย เรารัก เราเทิดทูน ในหลวงของเรา
๑๙๓ หลังจากหายจากการประชวรแล้วขออย่าได้มีโรคภัยมาเบียดเบียนอีกเลยขอพระองค์จงมีความสุขมากๆ
๑๙๔ เป็นดั่งแสงที่รุ่งโรจน์กลางใจฉัน มีเมตตากรุณาคุณอนันต์ เหมือนสายใยสายสัมพันธ์ คุณความดีของพระองค์ท่านคือทุกสิ่ง
๑๙๕ ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว และขอให้พระองค์ทรงมีพระสุขภาพและพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงตลอดไป
๑๙๖ พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักคิด ผู้สร้างแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงช่วยให้ประเทศไทย และคนไทยสามารถหาเลี้ยงตนเองได้ไม่ลำบาก ที่คอยห่วงใยดูแลประชาชนของพระองค์
๑๙๗ ขอพระองค์หายจากพระประชวร โดยเร็ว ขอให้พระพลานามัยแข็งแรง เป็นมิ่ง ขวัญปวงชนชาวไทย เป็นร่มฉัตร ปกปักษ์ประเทศไทย และทรงไว้ซึ่งทศพิธราชธรรม
๑๙๘ เรารักในหลวงและราชวงศ์ทุกพระองค์
๑๙๙ ขอให้ในหลวงมีพลานามัยที่แข็งแรงและขอให้ในหลวงอายุมั่นขวัญ ขวัญยืนตลอดไป
๒๐๐ ผู้ใดกระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน เสียหาย ผู้นั้นไม่สมควรมีชีวิตยืนอยู่บนผืนดินไทย

1. พระบารมีทรงทำให้ชาติไทยเราคงอยู่จนถึงทุกวันนี้
2. พวกเราชาวไทยจงร่วมแสดงความภักดี เพื่อในหลวงของเรา
3. พระองค์ทรงมีบุญคุณต่อแผ่นดินไทยอย่างยิ่งใหญ่
4. กษัตริย์คู่ชาติเรามาช้านานและจะคู่ชาติเราตลอดไป
5. ชาติไทยเป็นชาติที่โชคดี เพราะมีกษัตริย์นักพัฒนา
6. ทรงอภิบาลชาวไทย หนึ่งเดียวในโลก ทรงโปรดทั่วหล้า ชาวประชาล้นฟ้า เทิดทูนกษัตริย์ไทย
7. ข้าพเจ้าขอเทิดไท้องค์ราชัน และจะปกป้องสถาบันไว้ด้วยชีวิต
8. พระองค์ทรงเสียสละ เพื่อชาติของเราอย่างยิ่ง พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกาย เพื่อประชาชนของพระองค์
อยู่อย่างมีความสุขพระองค์ทรงให้พระราชดำริที่สำคัญให้คนไทยได้คิด ได้ทบทวน ได้ทำตามอยู่เสมอ ตราบจน
ทุกวันนี้ คนไทยก็ยังรักพ่อหลวงของเรา
9. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
10. พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
11 .ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไป
12. จงรักภัคดี เทิดทูนและสนองพระเดชพระคุณด้วยการสร้างความดีถวายแด่ในหลวง
13. เป็นไทด้วยความภาคภูมิใจ จงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
14. "เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม" พระดำรัสแห่งองค์ไอศวรรย์ยังศักดิ์สิทธิ์คู่แผ่นดินอยู่ทุกวันจากวันนั้น 60 ปี
ไม่มีคลาย
15. ในหลวงพระองค์ทรงงานหนักและเหนื่อย เพื่อราษฎรของพระองค์ให้อยู่เย็นเป็นสุข
16. พันปีหมื่นวันรักในหลวงตลอดไป
17.ล้านใจไทยทุกคนรักพ่อหลวงตลอดไป
18. ไม่มีใครห่วงใยประชาชนเท่าพระองค์
19.รักประชาชนยิ่งกว่าสิ่งใดคือพ่อหลวงของเรา
20.ชาติไทยต้องเจริญรุ่งเรืองเพราะมีในหลวง
21.ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทยผู้มีความจงรักภักดี
อย่างแท้จริง
22.ข้าพระพุทธเจ้าขอน้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพระพลานามัย
แข็งแรงสมบูรณ์ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
23. เรารักในหลวงเรารักประเทศไทยจงร่วมใจกันให้เป็นดินแดนที่น่า อยู่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
24.พระองค์ทรงเสียสละเพื่อชาติของเราอย่างยิ่ง พระองค์ทรงทำงานตรากตรำเพื่อประชาชนของท่านอยู่อย่าง
มีความสุข
25.พระบารมีอันแผ่ไพศาล ย่อมบริบาลผู้ที่มีความจงรักภักดีตลอดไป
26.ไทยเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขปกครองประเทศมาช้านานทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของ
คนทั้งชาติ
27.พระมหากษัตริย์คือศูนย์รวมจิตใจของชาวไทยทั้งปวง ดั้งนั้นถ้าใครลบหลู่ ดูหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์
ย่อมพบแต่ความพินาศในชีวิต
28.เราคนไทยต้องร่วมกันป้องสถาบันกษัตริย์และช่วยกันดูแลอย่าให้ใครมาคิดร้ายต่อพระองค์
กษัตริย์ผู้ทรงปกครองแผ่นดินโดยธรรม

29.ไม่มีพื้นที่แห่งใดในประเทศไทย ที่พ่อไม่เคยเสด็จไปถึง เพราะพ่อรู้ดีว่าพ่อคือพลังของแผ่นดิน
พวกเราจะตั้งมั่นทำความดี รู้รักสามัคคี ปกป้องประเทศชาติ เพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา
30.ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
31.เราพี่น้อง ผองไทย ภูมิใจยิ่ง พ่อเป็นมิ่ง ขวัญชาติ ปราชญ์ยิ่งใหญ่ ลูกขอกราบ แทบบาทด้วย
อวยพรชัยเทพทั่วไทย โปรดคุ้มครอง พ่อของเรา ขอให้พ่อ แข็งแรง แกร่งดังผา ไร้โรคา ภยันตราย
และไกลเศร้า อายุยืน หมื่นปี ที่นานเนาว์ ทุกค่ำเช้า เกษมสำราญ ชั่วกาลเทอญ
32. พระเอยพระโอบเอื้อ อารี พระกอปรพระกรณี หนักอึ้ง
33. " สยามยังอยู่ คู่มิ่งขวัญปวงชน เพราะมีในหลวงเสียสละเพื่อประชา "
34.สถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เป็นสถาบันหลักในผืนธงชาติไทยที่เราเคารพ
35.ขอพระองค์ทรงพระเจริญ มีพลานามัยแข็งแรง มีแต่ความปิติในพระราชหฤทัยสืบไป
36.ประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่าชาติใดขาดสามัคคีธรรมจะสูญเสียย่อยยับอับปางไปในที่สุด
37.ขอพระองค์ จงมีพระเกษมสำราญ เป็นร่มโพธิ์ แก่ปวงชนชาวโลก ตลอดไปด้วยเทอญ
38.เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริที่ทำให้ประชนได้รับประโยชน์มีความผาสุก
มั่นคงและยั่งยืนสืบไป
39.ขอพระองค์ จงมีพระเกษมสำราญ เป็นร่มโพธิ์ แก่ปวงชนชาวโลก ตลอดไปด้วยเทอญ
40.เหนือหัวท่านทรงเหนื่อย เพื่อคนไทยทั้งประเทศ สิ่งที่เราให้ท่านได้ก้อคือการทำดีให้ท่านทรงรับรู้
41.ในแผ่นดินนี้ไม่มีใครเสียสละเท่าพ่อหลวง
42.คนไทยทุกคน ต้องรักและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
43.รักพ่ออย่าทำให้พ่อเสียใจ
44.ขอจงทรงมีพลานามัยแข็งแรง อยู่เป็นร่มฉัตรให้ลูก ๆ ทุกคนตราบชั่วกาลนานเทอญ
45.ขอให้คนไทยทุกคนจงสำนึกเสมอว่า ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินนี้ เหยียบย่ำลงบนแผ่นดินนี้ที่บรรพบุรุษ
เคยหวงแหนเราควรทำความดีเพื่อกษัตริย์และแผ่นดิน
46.กว่าจะได้ว่าเป็นไทยทุกวันนี้นั้นพ่ออยู่หัวกี่พระองค์แล้วเล่าที่คอยปกป้องแผ่นดินผืนนี้ไว้
แต่พวกเราจะทำลายมันเสียเองหรือมันสมควรแล้วหรือ
47.สร้างคนให้เป็นปึกแผ่น..เหมือนใจของพระองค์ท่านที่แข็งแกร่งที่คอยรวมใจปวงชนชาวไทย
48.กี่ล้านหยดที่องค์ท่านเสียเหงื่อเพื่อปวงชนชาวไทยแล้วเราคนไทยแค่เสียสละช่วยกันช่วยชาติมิได้เชียวหรือ
49.ชาติจะอยู่ได้หรือไม่ท้าขาดคนไทยมาพัฒนาชาติจะรอแต่องค์ท่านมาช่วยแล้วทำไมไม่ช่วยกัน
50.รวมใจ รวมแผ่นดิน รวมพลังชาติไทยเพื่อพ่อของเรา
51.ปวงประชาร่มเย็นด้วยพระบารมี
52.จะเป็นคนดีของชาติต้องรักเคารพยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ
53.เราจะทำดีเพื่อพ่อหลวงของเรา ขอให้พระองค์ทรงมีพระสุขภาพพลานามัยแข็งแรง และทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
54. LONG LIVE THE KING พวกเรารักในหลวง ขอให้พระองค์มีพระพลานมัยแข็งแรง
55. เมตตา ธ เปี่ยมฟ้า ล้นมหาชลาลัย ปิตุรงค์คือธงชัย ปกเกศไทยเกรียงไกลกาล
56.พ่อหลวงสดใสชาวไทยจะเข้มแข็ง
57.จะเป็นคนดีของชาติต้องรักเคารพยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ
58.พระสถิตในใจไทยทั้งชาติ พระภัทรมหาราชแห่งสยาม ทรงเป็นพลังแผ่นดินสมพระนาม
ทุกเขตคามขอพระองค์ทรงพระเจริญ
59.ขอให้อำนาจศักดิ์สิทธิ์จงดลบันดาลให้ในหลวงมีสุขภาพอนามัยให้แข็งแรงตลอดไป
60.คิดดี พูดดี ทำดี จงรักภักดี รู้รักสามัคคี ให้พ่อหลวงได้สุขพระราชหฤทัย
61.รักชาติ รักแผ่นดิน ต้องเอาสายใจทั้งชาติร่วมกัน
62. สานใจให้ชาติรุ่ง สานใจให้ชาติเจริญ แล้วรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อของเราเอง
63.พระคุณพ่อนั้นล้นเหลือต่อแผ่นดิน หยาดเหงื่อที่หลั่งรินทุกหยดสิ้น เพื่อความสุขสบายของเหล่าประชาราช
64.น้ำที่ล้นจนท่วม.. แต่ก็ยังน้อยกว่าน้ำ พระทัยของพระองค์ท่าน
65.ทำกันยังไงให้พ่อเราเหนื่อย คิดยังที่จะทำเลิกสักครั้ง เอาหัวใจเราทั้งชาติช่วยพ่อของเราหายเหนื่อยดีกว่า
66.นักคิด..นักพัฒนา นักสร้างสรรค์ คนใดเท่าพ่อเราเล่า
65.เพียงได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมีก็หาสิ่งใดเปรียบมิได้แล้ว ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
66.“ศรีสง่าของแผ่นดินถิ่นธรรมมะ ที่มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ทรงส่องธรรมนำหน้าวันฟ้ามัว ไทยถ้วนทั่วอบอุ่นจิตมีทิศธรรม
ทรงเลิศล้นตลอดพระชนมพรรษา เหนือฟ้ายังมีฟ้า สง่าล้ำ
ลึกยิ่งกว่ามหาสมุทร สุดสรรคำ เย็นกว่าน้ำ กว้างกว่าผืนพิภพใด
เป็นกษัตริย์ยอดกษัตริย์ ปัดเป่าทุกข์ เพียงเพื่อสุขมหาชน ภาระใหญ่
ขอเทิดทูนพระบารมีตลอดไป น้อมดวงใจถวายพระองค์ ทรงพระเจริญ”
67.“หากเราเดินตามรอยเบื้องพยุคลบาท เราจักไม่พลั้งพลาดในการดำรงตน”
68.“ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทย
ผู้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง”
69“พระทรงเป็นศูนย์รวมใจไทยทั้งชาติ ทรงเป็นปราชญ์เป็นบิดาแห่งสยาม
พระเป็นพ่อผู้ให้ไทยทุกนาม ชาวสยามขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ”
70. โอ้ขัตติยะราช อาสน์บรมจักรี ปฐพียังบริบูรณ์ หน่อพุทธกูรรักษา ข้าบริภาณภักดี
ศรีรัตนโกสินทร์ ธ ปกแผ่นดินโดยธรรม ธ นำไทยรุ่งเรือง ธ รู้เฟื่องสังคีต ทั้งดีดเป่าเชี่ยวชาญ
ทั้งชำนาญกีฬา ธ มีปัญญาอเนก ธ คือเอกศิลปิน องค์ภูมินทร์จอมราช องค์ภูวนาถอวตาร
บรรดาลสุขเกษม เหล่าประชาเปรมปิติ แสนสิริถ้วนหน้า ธ ครองใจไพร่ฟ้า ทั่วหล้าสดุดี...
71.เทิดไท้ นบน้อม เทิดทูน ธ เหนือเกล้า สราญนานเนา หทัยสุขล้ำ สมจินต์
เพริศแพร้วพิพัฒน์ เภทภัยพ่ายแพ้สิ้น นวมินทร์มหาราชาภูมิพล
72.พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ฟ้าส่งมาโปรด เป็นดั่งแสงที่รุ่งโรจน์กลางใจฉัน
มีเมตตากรุณาคุณอนันต์ เหมือนสายใยสายสัมพันธ์มิเสื่อมคลาย
พระองค์คือผู้ให้ให้ลูกได้ทุกสิ่ง จากใจจริงไม่เคลือบแฝงความสงสัย
ลงมาโปรดจากฟากฟ้าสุราลัย เป็นดั่งดวงใจของลูกทุกเวลา
73.ดั่งแสงทองส่องอำไพนำทางชาวประชา เหล่าข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี
74.ทุกโครงการตามแนวทางพระราชดำริที่พระองค์ทรงพระราชทานล้วนแต่เป็นประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทย
75.พระองค์ทรงมีแนวทางพระราชดำริในการพึ่งตนเองเพื่อให้สามารถดำรง ชีพอยู่ได้อย่างอิสระ มั่นคงและ สมบูรณ์
76. “ฝนหลวง” เย็นชุ่มฉ่ำหัวใจไทยมิรู้ลืม “แก้มลิง” กักตุนแล้วระบายน้ำตามแรงโน้มถ่วง “กังหันน้ำชัย
พัฒนา” ปั่นน้ำเสียเติมออกซิเจน “เขื่อนดิน” อ่างเก็บน้ำที่ไม่ใช้คอนกรีต “ไบโอดีเซล” จากปาล์มประกอบ
อาหารสู่เชื้อเพลิงเครื่องยนต์ “แหลมผักเบี้ย-หนองหาร” โครงการรักษ์สิ่งแวดล้อม “แกล้งดิน” เร่ง
กำมะถันทำปฏิกิริยา ไล่หน้าดินเปรี้ยว “หญ้าแฝก” รากฝังลึกอนุรักษ์หน้าดิน
77. สองพระหัตถ์ปัดทุกข์แผ่สุขชาติ สองพระบาทเบิกทางกระจ่างผล
78. น้อมใจภักดิ์นบจักรีภูมิพล บุญเหลือล้นที่เกิดในร่มใบบุญ
79.พระมหากษัตริย์ ที่พรั่งพร้อมด้วย ทศพิธราชธรรม
80.พ่อหลวงของชาวไทยทำทุกอย่างเพื่อปวงชนชาวไทย เราก็ควรสามัคคีกันเพื่อให้พ่อหลวงมีความสุข
ที่เห็นคนไทยรักกัน
81.พวกเราชาวไทยภูมิใจที่ประเทศไทยมีพระเจ้าอยู่หัว
82.พร้อมใจรัก พร้อมภักดี พร้อมพลีกาย ปวงชนหมาย เทิดพระองค์ “ทรงพระเจริญ”
83.ไม่มีประเทศไหนที่มีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่เท่ากับประเทศไทยเราแล้ว
84.แปดสิบปีทรงครองราชย์และครองชน กี่พระชันษาผ่านพ้นกาลสมัย กี่ปีสร้างให้ราษฏร์สุขทุกถิ่น
ไทยแปดสิบปีทรงสร้างชัยแก่ไทยนิรันดร์
85.พระองค์ทรงปกครองประเทศชาติด้วยทศพิธราชธรรม ซึ่งประชาชนชาวไทยทุกคนควรที่จะยึดถือ
เป็นแบบอย่างที่ดี ในการดำเนินชีวิต
86.พระองค์ทรงปฏิบัติเป็นแบบอย่างและแนววิถีนำทางให้ข้าราชการ ผู้บริหารน้อมนำมารับใช้ราชการแผ่นดิน
เพื่อประโยชน์สุข และการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวไทยไปสู่ความสงบสุขมั่นคงร่มเย็นอย่างถาวรแท้จริง
87.พระองค์เปรียบเสมือนดั่งด้ามขวานทองของแผ่นดิน
88.น้ำท่วมพัดพาอะไรไป น้ำพระทัยจะพัดพาความสงบสุขกลับมา
89.เมตตา ธ เปี่ยมฟ้า ล้นมหาชลาลัย ปิตุรงค์คือธงชัย ปกเกศไทยเกรียงไกลกาล
90.น้ำฝนหลวงล่นจากฟ้า ทำให้ปวงประชามีสุข
91.ไม่มีสิ่งอื่นใดในโลกจะเทียบเท่ากับพ่อหลวงของเรา
92.พ่อหลวงทรงงานหนักมาค่อนชีวิต เพื่อให้ปวงชาวไทยอยู่ดีมีสุข
93. ในหลวงทรงนำแบบประเพณีอันดีงามของไทยสู่ต่างประเทศ
94. ขอให้อำนาจศักดิ์สิทธิ์ จงดลบันดาลให้ในหลวงมีสุขภาพอนามัยให้แข็งแรงตลอดไป
95. " กษัตริย์นักพัฒนา " พระราชดำริ แปรรูป ผลการเกษตร สายพระเนตร แปรประโยชน์
เพิ่มมูลค่า เป็นผลิตภัณฑ์ เผยแพร่ พัฒนา เป็นวิชา หาเลี้ยงชีพ ด้วยพอเพียง
96. " กษัตริย์นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม " น้ำพระทัย รดรินหลั่ง ดั่งสายฝน ทรงคิดค้น ป่าสาธิต
ให้ศึกษาน้ำใสด้วย กังหันชัย พัฒนา อนุรักษ์ พรรณนานา ฟื้นป่าคืน
97. " พระบิดาแห่งพลังงานไทย " ทรงดำริ คิดค้น เพื่อทดแทน พลังงาน ที่ขาดแคลน มาแทนที่
สายพระเนตร ยาวไกลล้ำ นับสิบปี บังเกิดมี ไบโอดีเซล แก๊ซโซฮอล์
98. สละสุขส่วนพระองค์ทรงงานหนัก เป็นแบบหลักสร้างพื้นฐานการศึกษา
ด้อยโอกาส...ขาดสิ่งใด...แม้ภัยมา พระ เมตตา...โครงการหลวงช่วยปวงชน
สองพระหัตถ์ปัดทุกข์แผ่สุขชาติ สองพระบาทเบิกทางกระจ่างผล
น้อมใจภักดิ์ นบจักรีภูมิพล บุญเหลือล้นที่เกิดในร่มใบบุญ
99. เห็นพระองค์ท่านความสุขเราก็ดีใจ
100. ต้นไม้มี่พ่อปลูกนั้น ได้แผ่กิ่งก้านสาขานำความร่มเย็นมาสู่ชาวไทย
101. ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนักเพื่อประชาชนชาวไทย แม้จะต้อง
เสด็จฯ ไปในท้องถิ่นทุรกันดารอันห่างไกลก็มิย่อท้อ ทรงยอมทนลำบากตรากตรำพระวรกายแสดงให้เห็นถึงน้ำ
พระราชหฤทัยอันยิ่งใหญ่ ที่ประกอบด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
102. พระองค์ทรงมีความสม่ำเสมอในการประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของปวงชนชาวไทย
103. โครงการในพระราชดำรินานัปการที่พระองค์ทรงก่อกำเนิดล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรทั่ว
ทั้งแผ่นดิน
104. การทรงงานหนักด้วยพระวินิยะอุตสาหะนั้น เป็นที่ประจักษ์และตราตรึงอยู่ในหัวใจของปวงประชาทุกหมู่เหล่า
105. พระทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็น " ศรัทธาแห่งแผ่นดิน" อย่างแท้จริง
106. ปฐพีพื้นดินที่เคารพ ขอน้อมนบพระบิดาของชาติไทย ผู้สั่งสอนกายาและจิตใจ ขอเทิดไท้พระมิ่งขวัญ
องค์ราชันย์
107. รักพ่อเชื่อฟังพ่อก็อยู่รอดโดยปลอดภัย รักไทยหวงแหนไทยรักษาชาติ ศาสน์ ราชัน
108. ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่านั้นที่จะทำให้ไทยสงบร่มเย็นได้ ด้วยตัวแทนของคนไทย
ทุกคนทุกชนชั้น ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงพระเจริญ
มีพระชนม์มายุ ยั่งยืนนานเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า
109.ปวงชนชาวไทย ศรัทธาในความห่วงใยของพระองค์ ขอจงทรงพระเจริญ
110. หนทางจะกันดารลำบากยากแค้นแดนไกลสักปานใดก็ตาม พระองค์ไม่ทรงเคยย่อท้อเพื่อชาวไทย
111. การกระทำความดีเสมอ พึงละเว้นการทำชั่วเพื่อพ่อของเรา
112. ประดุจดั่งร่มโพธิ์ที่ปกเกล้า น้ำพระทัยดั่งสายน้ำไม่เหือดหาย ทรงแบบอย่างพระประมุขเลื่องลือไกล ปวงชาว
ไทยขอน้อมรับด้วยภักดี ขอทรงพระเจริญพระพลามัยแข็งแรง
113. สานใจให้ชาติรุ่ง สานใจให้ชาติเจริญ แล้วรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อของเราเอง
114. ในหลวงพระองค์ทรงไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์ แม้พระองค์จะทรงงานหนักและเหนื่อยมานาน
115. ยามวิกฤติพ่อช่วยไว้ ยามทุกข์ใจพ่อปลอบขวัญ นิจนิรันดร์
116. ชาติไทยเรืองนาม ด้วยพระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย
117. พระบิดาผู้มีแต่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
118. ผองข้าฯขออภิวาท แทบเบื้องบาทพระองค์ท่าน ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญยิ่งยืนนาน
119. น้ำพระทัย มอบให้ปวงประชา ชุ่มฉ่ำทั่วผืนฟ้าและแผ่นดิน
120. " สยามยังอยู่ คู่มิ่งขวัญปวงชน เพราะมีในหลวงเสียสละเพื่อประชา "
121. สร้างคนให้เป็นปึกแผ่น..เหมือนใจของพระองค์ท่านที่แข็งแกร่งที่คอยรวมใจปวงชนชาวไทย
122. กี่ล้านหยดที่องค์ท่านเสียเหงื่อเพื่อปวงชนชาวไทยแล้วเราคนไทยแค่เสียสละช่วยกันช่วยชาติมิได้เชียวหรือ
123. รวมใจ รวมแผ่นดิน รวมพลังชาติไทย เพื่อพ่อของเรา
124. เห็นตอนพระองค์ท่านเสด็จไปที่ไหน จะต้องมีแผนที่กับดินสอ กล้องถ่ายรูป และสมุดจดบันทึก
ติดไปตลอดเวลา ไม่เคยเห็นพระองค์ท่านให้มหาดเล็กถือให้เลย จะทรงถือเองตลอดเวลา
125. ไปแห่งหนไหนทั่วไทยถิ่น ได้ยลยินแต่เสียงพร่ำร่ำร้องสรรเสริญ ขอให้ในหลวง จงทรงพระเจริญ
ฟังแล้วเพลินจิตคิดบูชา
126. ความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น มีอยู่ในสายเลือดของชาวไทยทุกผู้ทุกคน
127. พระมหากษัตริย์จึงเป็นหลักชัยของประเทศ ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจ และทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ
ของประชาชนทั้งประเทศ
128. นานมาแล้ว พ่อได้ทำสิ่งที่ไร้ค่า ให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ทำให้เกิดสิ่งดีดี แก่ประชาชนชาวไทย
มาโดยตลอด โดยที่พ่อไม่เคยเหน็ดเหนื่อย เราคนไทยทุกคน ควรร่วมใจกัน สมัครสมานสามัคคี
ทำความดีเพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา
129. เป็นพลัง ของแผ่นดิน ทุกถิ่นเทศ พระปกเกศ คุ้มเกล้า เราทั้งผอง
หกสิบล้าน ดวงใจ ไทยปรองดอง ธ ทรงครอง ราชย์รวม หกสิบปี
130. พระคือพระพิรุณฉ่ำ ฉ่ำใจปอง พระทรงครองหัวใจไทยทั้งชาติ
131. ไม่มีอีกแล้วที่จะหาพระมหากษัตริย์ ประเสริฐดีเลิศอย่างนี้
132. ขอทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อพ่อหลวง
133. เป็นคนไทย สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย จงสำนึกถึงความเป็นไทย ภายใต้ศูนย์รวมจิตใจคือพระมหากษัตริย์ไทย
134. ไม่มีประชาชนในประเทศใดในโลกโชคดีเท่าประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระผู้มีเมตตา พระองค์ทรง
เป็นนักพัฒนา และช่วยเหลือผู้ยากไร้ ไมมีวันหยุด โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดไป
135. ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว พืชไร่ใกล้ตายฝนแล้งเมื่อใด มีน้ำศักดิ์สิทธิ์คือฝนหลวงคอยช่วยเหลือตลอดเวลา
136. ฉันท้อไม่ได้เพราะเดิมพันของฉันคือบ้าน คือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ พระราชดำรัส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกข้าพุทธเจ้าจะจดจำไว้จนวันตาย
137. ทรงปกครองประเทศชาติด้วยทศพิธราชธรรม ซึ่งประชาชนชาวไทยทุกคนควรที่จะยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีใน
การดำเนินชีวิต
138. ร่มไทรใหญ่ใหญ่ใบหนา แม้นนกกายังอาศัย ภายใต้ร่มธงไทย พระองค์ทรงนำไทยพ้นภัยพาล
139. ทรงเป็นนักคิดอิสระ ทรงเสียสละน่าสรรเสริญ ทรงนำไทยให้เจริญ ทรงพระดำเนินแห่งหนใดไทยร่มเย็น
139. เราจะไม่เพียงแค่รักในหลวงเท่านั้น แต่จะบำเพ็ญตนให้บรรลุถึงความปรารถนาในพระราชหฤทัย ด้วยการเป็น
พลเมืองไทยที่มุ่งดีมุ่งเจริญ
140. อยากให้พ่อแย้มสรวล ทบทวนคิด เศรษฐกิจพอเพียงเอาเยี่ยงได้ ทั้งประจักษ์ ได้ประโยชน์จดใส่ใจ
ธรรมชาติรักษาไว้ไทยอยู่เอย
141. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
142. กี่ล้านหยดที่องค์ท่านเสียเหงื่อเพื่อปวงชนชาวไทยแล้วเราคนไทยคแค่เสียสละช่วยกันช่วยชาติมิได้เชียวหรือ
143. ล้านใจไทยทุกคนรักพ่อหลวงตลอดไป
144. ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
145. ปวงชนชาวไทยไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด มีสุขเสรีอยู่บนผืนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองภายใต้ร่มพระบารมี
ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
146. สร้างรอยยิ้มให้คนทั้งชาติด้วยรอยยิ้มของพระองค์ท่านเอง
147. สานใจให้ชาติรุ่ง สานใจให้ชาติเจริญ แล้วรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อของเราเอง
148. ประเทศไทยและคนไทยที่เกิดและมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินนี้นับว่ามีบุญและโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์ประเสริฐยิ่ง
149. พระวิริยะอุตสาหะทรงทุ่มเทพระสติปัญญา ตรากตรำพระวรกายเพื่อค้นคว้าพัฒนาให้พสกนิกรทั้งหลาย
ได้มีความร่มเย็นเป็นสุขสถาพรยั่งยืนนานนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง
150. ดั่งแสงทองส่องอำไพนำทางชาวประชา เหล่าข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี
151. ตลอดระยะเวลากว่า ๖๐ ปี ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานหนักเพื่อประชาชนชาวไทย แม้จะต้อง
เสด็จฯ ไปในท้องถิ่นทุรกันดารอันห่างไกลก็มิย่อท้อ ทรงยอมทนลำบากตรากตรำพระวรกายแสดงให้เห็นถึงน้ำ
พระราชหฤทัยอันยิ่งใหญ่ ที่ประกอบด้วยพระเมตตาและพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
152. พระองค์ทรงมีความสม่ำเสมอในการประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อความอยู่ดีมีสุขของปวงชนชาวไทย
153. โครงการในพระราชดำรินานัปการที่พระองค์ทรงก่อกำเนิดล้วนเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรทั่ว
ทั้งแผ่นดิน
154. การทรงงานหนักด้วยพระวินิยะอุตสาหะนั้น เป็นที่ประจักษ์และตราตรึงอยู่ในหัวใจของปวงประชาทุกหมู่เหล่า
155. พระทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้เป็น " ศรัทธาแห่งแผ่นดิน" อย่างแท้จริง
156. ปฐพีพื้นดินที่เคารพ ขอน้อมนบพระบิดาของชาติไทย ผู้สั่งสอนกายาและจิตใจ ขอเทิดไท้พระมิ่งขวัญ
องค์ราชันย์
157. รักพ่อเชื่อฟังพ่อก็อยู่รอดโดยปลอดภัย รักไทยหวงแหนไทยรักษาชาติ ศาสน์ ราชัน
158. ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่านั้นที่จะทำให้ไทยสงบร่มเย็นได้ ด้วยตัวแทนของคนไทยทุกคนทุกชนชั้น ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ทรงพระเจริญมีพระชนม์มายุ
ยังยืนนานเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยทุกหมู่เหล่า
159. ปวงชนชาวไทย ศรัทธาในความห่วงใยของพระองค์ ขอจงทรงพระเจริญ
160. หนทางจะกันดารลำบากยากแค้นแดนไกลสักปานใดก็ตาม พระองค์ไม่ทรงเคยย่อท้อเพื่อชาวไทย
161. การกระทำความดีเสมอ พึงละเว้นการทำชั่วเพื่อพ่อของเรา
162. ประดุจดั่งร่มโพธิ์ที่ปกเกล้า น้ำพระทัยดั่งสายน้ำไม่เหือดหาย ทรงแบบอย่างพระประมุขเลื่องลือไกล ปวงชาว
ไทยขอน้อมรับด้วยภักดี ขอทรงพระเจริญพระพลามัยแข็งแรง
163. สานใจให้ชาติรุ่ง สานใจให้ชาติเจริญ แล้วรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อของเราเอง
164. ในหลวงพระองค์ทรงไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์ แม้พระองค์จะทรงงานหนักและเหนื่อยมานาน
165. ยามวิกฤติพ่อช่วยไว้ ยามทุกข์ใจพ่อปลอบขวัญ นิจนิรันดร์
166. ชาติไทยเรืองนาม ด้วยพระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย
167. พระบิดาผู้มีแต่ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
168. ผองข้าฯขออภิวาท แทบเบื้องบาทพระองค์ท่าน ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญยิ่งยืนนาน
169. น้ำพระทัย มอบให้ปวงประชา ชุ่มฉ่ำทั่วผืนฟ้าและแผ่นดิน
170. " สยามยังอยู่ คู่มิ่งขวัญปวงชน เพราะมีในหลวงเสียสละเพื่อประชา "
171. สร้างคนให้เป็นปึกแผ่น..เหมือนใจของพระองค์ท่านที่แข็งแกร่งที่คอยรวมใจปวงชนชาวไทย
172. กี่ล้านหยดที่องค์ท่านเสียเหงื่อเพื่อปวงชนชาวไทยแล้วเราคนไทยแค่เสียสละช่วยกันช่วยชาติมิได้เชียวหรือ
173. รวมใจ รวมแผ่นดิน รวมพลังชาติไทย เพื่อพ่อของเรา
174. เห็นตอนพระองค์ท่านเสด็จไปที่ไหน จะต้องมีแผนที่กับดินสอ กล้องถ่ายรูป และสมุดจดบันทึก ติดไป
ตลอดเวลา ไม่เคยเห็นพระองค์ท่านให้มหาดเล็กถือให้เลย จะทรงถือเองตลอดเวลา
175. ไปแห่งหนไหนทั่วไทยถิ่น ได้ยลยินแต่เสียงพร่ำร่ำร้องสรรเสริญ ขอให้ในหลวง จงทรงพระเจริญ ฟังแล้วเพลินจิตคิดบูชา
176. ความจงรักภักดีของปวงชนชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้น มีอยู่ในสายเลือดของชาวไทยทุกผู้ทุกคน
177. พระมหากษัตริย์จึงเป็นหลักชัยของประเทศ ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจ และทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ
ของประชาชนทั้งประเทศ
178. นานมาแล้ว พ่อได้ทำสิ่งที่ไร้ค่า ให้กลายเป็นสิ่งที่มีคุณค่า ทำให้เกิดสิ่งดีดี แก่ประชาชนชาวไทยมาโดย ตลอด
โดยที่พ่อไม่เคยเหน็ดเหนื่อย เราคนไทยทุกคน ควรร่วมใจกัน สมัครสมานสามัคคี ทำความดีเพื่อถวายแด่พ่อ
หลวงของเรา
179. เป็นพลัง ของแผ่นดิน ทุกถิ่นเทศ พระปกเกศ คุ้มเกล้า เราทั้งผอง
หกสิบล้าน ดวงใจ ไทยปรองดอง ธ ทรงครอง ราชย์รวม หกสิบปี
180. พระคือพระพิรุณฉ่ำ ฉ่ำใจปอง พระทรงครองหัวใจไทยทั้งชาติ
181. ไม่มีอีกแล้วที่จะหาพระมหากษัตริย์ ประเสริฐดีเลิศอย่างนี้
182. ขอทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดเพื่อพ่อหลวง
183. เป็นคนไทย สัญชาติไทย เชื้อชาติไทย จงสำนึกถึงความเป็นไทย ภายใต้ศูนย์รวมจิตใจคือพระมหากษัตริย์ไทย
184. ไม่มีประชาชนในประเทศใดในโลกโชคดีเท่าประเทศไทย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นพระผู้มีเมตตา พระองค์ทรง
เป็นนักพัฒนา และช่วยเหลือผู้ยากไร้ ไมมีวันหยุด โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
พระชนม์มายุยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดไป
185. ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว พืชไร่ใกล้ตายฝนแล้งเมื่อใด มีน้ำศักดิ์สิทธิ์คือฝนหลวงคอยช่วยเหลือตลอดเวลา
186. ฉันท้อไม่ได้เพราะเดิมพันของฉันคือบ้าน คือเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ พระราชดำรัส
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พวกข้าพุทธเจ้าจะจดจำไว้จนวันตาย
187. ทรงปกครองประเทศชาติด้วยทศพิธราชธรรม ซึ่งประชาชนชาวไทยทุกคนควรที่จะยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดีใน
การดำเนินชีวิต
188. ร่มไทรใหญ่ใหญ่ใบหนา แม้นนกกายังอาศัย ภายใต้ร่มธงไทย พระองค์ทรงนำไทยพ้นภัยพาล
189. ทรงเป็นนักคิดอิสระ ทรงเสียสละน่าสรรเสริญ ทรงนำไทยให้เจริญ ทรงพระดำเนินแห่งหนใดไทยร่มเย็น
190. เราจะไม่เพียงแค่รักในหลวงเท่านั้น แต่จะบำเพ็ญตนให้บรรลุถึงความปรารถนาในพระราชหฤทัย ด้วยการเป็น
พลเมืองไทยที่มุ่งดีมุ่งเจริญ
191. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก
192. กี่ล้านหยดที่องค์ท่านเสียเหงื่อเพื่อปวงชนชาวไทยแล้วเราคนไทยคแค่เสียสละช่วยกันช่วยชาติมิได้เชียวหรือ
193. ล้านใจไทยทุกคนรักพ่อหลวงตลอดไป
194. ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
195. ปวงชนชาวไทยไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด มีสุขเสรีอยู่บนผืนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองภายใต้ร่มพระบารมี
ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
196. สร้างรอยยิ้มให้คนทั้งชาติด้วยรอยยิ้มของพระองค์ท่านเอง
197. สานใจให้ชาติรุ่ง สานใจให้ชาติเจริญ แล้วรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อพ่อของเราเอง
198. ประเทศไทยและคนไทยที่เกิดและมีชีวิตอยู่ในแผ่นดินนี้นับว่ามีบุญและโชคดีที่มีพระมหากษัตริย์อันประเสริฐยิ่ง
199. พระวิริยะอุตสาหะทรงทุ่มเทพระสติปัญญา ตรากตรำพระวรกายเพื่อค้นคว้าพัฒนาให้พสกนิกรทั้งหลาย
ได้มีความร่มเย็นเป็นสุขสถาพรยั่งยืนนานนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวง
200. ดั่งแสงทองส่องอำไพนำทางชาวประชา เหล่าข้าพระพุทธเจ้าขอสดุดี

“สามัคคี หรือการปรองดองกัน ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด
ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างก็ต้องสอดคล้องกัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ในโอกาสวัน
เฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖

“ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทยเสมอ”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗

“การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกัน โดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน
ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติ เพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์
ทุกคนต้องการความสุขหากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยยุติธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาประจำกระทรวงเข้าเฝ้าฯ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๗

“สังคม ใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน
สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออัญเชิญลงพิมพ์ในนิตยสารที่ระลึกครบรอบ ๓๖ ปี
ของสโมสรไลออนส์กรุงเทพฯ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๘

“ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึง ความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม
ทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ๒๕๓๙

“ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อม อันเนื่องมาจากมลพิษ หรือความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติ
ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในที่หนึ่งที่ใดก็ตาม ย่อมส่งผลกระทบต่อเนื่องไปถึงที่อื่น ๆ ด้วยเหตุนี้ทุกคนทุกประเทศ
ในโลกจึงย่อมมีส่วนรับผิดชอบอยู่ด้วยกัน ทั้งในการแก้ไข ลดปัญหา และปรับปรุงสร้างเสริมสภาวะแวดล้อม
ให้กลับคืนมาสู่สภาพอันจะเอื้อต่อการมี ชีวิตอยู่อย่างเป็นสุขของตนเองและเพื่อนมนุษย์”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญลงพิมพ์ในหนังสือที่ระลึก
ในพิธีรับมอบเรือขจัดคราบน้ำมัน ซึ่งรัฐบาลเดนมาร์กน้อมเกล้าฯ ถวาย ๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๙

“คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศ
มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

“บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุงและการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ทางที่เราจะช่วยกันได้
ก็คือการที่ทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่หมาย
ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๔๓

“คุณธรรม ข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้ การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใด
แก่ผู้ใดโดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญ
ระหว่างบุคคลกับบุคคลและให้สังคมมี ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๕

“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒

ถ้าทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ คือความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติ ด้วยความสุจริตและด้วยความรู้ความสามารถ ด้วยจริงใจ ไม่นึกถึงเงินทองหรือนึกถึงผลประโยชน์ใดๆ ก็เป็นการทำหน้าที่โดยตรงและได้ทำหน้าที่โดยเต็มที่”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ ศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๑

ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๔

“ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้เพราะสถาบันต่างๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม ในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

“การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนร่วมด้วย”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔

"เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้ หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆนั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยัน และ ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น" พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530

"...ความรู้ที่ศึกษามา ซึ่งเป็นความรู้ทางทฤษฎี นั้นคือรากฐานและต้นทุนสำคัญสำหรับที่จะนำไปปฏิบัติงานการ ความรู้ทฤษฎีนี้ จำเป็นที่จะต้องทบทวนเสริมสร้างอยู่เสมอและนำมาประกอบการปฏิบัติ เมื่อเอาความรู้ทางทฤษฎีมาประสมประสานปรุงแต่งกับความรู้จากการปฏิบัติอย่างสอดคล้องเหมาะสมแล้ว งานที่ทำก็จะบรรลุผลที่จะพึงภาคภูมิใจได้สมปรารถนา..."
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ 23 มิถุนายน 2519

"...ปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆคนหลายๆทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จ..."
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 13 กรกฎาคม 2533

''...การทำงานใด ๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขตและ หลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถ ปฏิบัติมุ่งเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรง และ ถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและ ขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่า ทุกอย่างได้อย่างสิ้นเชิง...''
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 17 กรกฎาคม 2530

''...การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความ สุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิดเห็น ที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วยความถูกต้องตามเหตุตามผลจึง จะช่วยให้งานบรรลุจุดมุ่งหมาย และประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วนแท้จริง...''
พระบรมราโชวาท พระราชทานในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2528

''...เมื่อจะเริ่มงานสิ่งใด ให้พยายามคิด พิจารณาให้เห็นจุดหมายเห็นสาระและประโยชน์ ที่แท้จริงของงานนั้นอย่างแจ่มแจ้ง แล้วจึง ลงมือทำด้วยความตั้งใจ มั่นใจ ด้วยความ รับผิดชอบอย่างสูง ให้ดำเนินลุล่วงตลอดไปอย่าง ต่อเนื่อง โดยมิให้บกพร่องเสียหาย...''
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยมหิดล 5 กรกฏาคม 2533

"...หลักการสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ปฏิบัติงานสำเร็จและเจริญก้าวหน้าได้แท้จริง คือ การไม่ทำตัว ทำความคิดให้คับแคบ หากให้มีเมตตาและไมตรียินดี ประสานสัมพันธ์กับผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ร่วมงานอย่างจริงใจ...''
พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 18 กรกฎาคม 2530

“…ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิตเลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศ
นั้นมิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆฝ่าย ทุกๆ คน ที่จะต้องร่วมมือ
กระทำพร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน...”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีตรวจพลสวนสนามเนื่องในโอกาส
พระราชพิธีรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2514

“…ความสามัคคีนั้นอาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกันความจริงงานทุกอย่าง
หรือการอยู่เป็นสังคมย่อมต้องมีความแย้งกันความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้
หลักวิชาและความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่างๆ ย่อมเป็นประโยชน์ ถ้ามีรากฐานของ
ความคิดอย่างเดียวกัน รากฐานของความคิดนั้นคือแต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความสุขมีเป็นปึกแผ่น
...”
พระราชดำรัชของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทาน
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2517

“…สามัคคีนี้ก็คือการเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิถีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้
เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน และทำงานด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ต้องส่งเสริมงานของกัน
และกัน และไม่ทำลายงานของกันและกัน มีเรื่องอะไรให้ได้พูดปรองดองกัน อย่าเรื่องใครเรื่องมัน
และงานก็ทำงานอย่างตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวม...”
พระราชดำรัสที่พระราชทานในพิธีประดับยศนายตำรวจชั้นนายพล เมื่อวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2519

“…คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะและถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอก
เห็นใจซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่
ความเจริญความมั่นคง ความสุขก็ทำสิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่
ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน
จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2519

“…การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกันโดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน
ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติเพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์
ทุกคนต้องการความสุข หากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดย
ยุติธรรม...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาประจำ
กระทรวงเข้าเฝ้าฯ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2537

“…มานึกดูว่า ในเมืองไทยนี้ การปกครองบ้านเมืองก็ทำมาคล้ายเป็นตำรามาตั้งแต่ต้น ไม่ได้ใช้
ตำราต่างประเทศมากเท่าไรเลย ที่เมืองไทยเราอยู่มาได้จนทุกวันนี้ ก็เพราะใช้ตำราของเราเอง เรามีวิธี
ปกครองหลายวิธี...หลายประเทศในโลกมีนิสัยใจคอของตัวมีความเป็นประเทศของตัวมาช้านานแล้ว...
การปกครองของเมืองไทยเราก็ไม่ใช่ว่าจะต้องหยุดนิ่งคงเดิมอยู่เสมอ ต้องเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน แต่ต้อง
เปลี่ยนแปลงด้วยเหตุผล...”
พระบรมราโชวาทพระราชทานแก่คณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตบอล ‘ส.ส. มหากุศล’
ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เมื่อวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2512

“…ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เรา
เห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอด
มาตั้งแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษา
ประสานมิตร เมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2514

“… คนไทยรักษาชาติ รักษาแผ่นดินเป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ด้วยสติปัญญาความสามารถและ
ด้วยคุณงามความดี อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้
เราทั้งหลายในปัจจุบัน จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้ง
จิตใจที่เป็นไทย ไว้ให้มั่นคงตลอดไป ...”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการเสด็จออกมหาสมาคมในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2521