|
ความเห็นที่
1 โพสเมื่อ :
18 พ.ย. 53 : 08:51 น. โดย :
โก้ |
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว
ขอให้ในหลวงทรงมีพระวรกายและพระหทัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
2 โพสเมื่อ :
18 พ.ย. 53 : 09:06 น. โดย :
แมน |
ขอให้พระองค์ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดดไป
|
|
ความเห็นที่
3 โพสเมื่อ :
19 พ.ย. 53 : 10:51 น. โดย :
gamee |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
4 โพสเมื่อ :
22 พ.ย. 53 : 09:18 น. โดย :
เด็ดดอย |
ขอพระองค์เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรแก่ปวงชนชาวไทยตลอดไป
|
|
ความเห็นที่
5 โพสเมื่อ :
22 พ.ย. 53 : 10:09 น. โดย :
บาหลี |
ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
6 โพสเมื่อ :
22 พ.ย. 53 : 10:12 น. โดย :
สุชาติ |
ขอพระองค์ทรงพระปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ประทับอยู่คู่ฟ้าวิชาชาญ
|
|
ความเห็นที่
7 โพสเมื่อ :
22 พ.ย. 53 : 12:34 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
60 ปี มหาราช ฉัตรปกเกล้า
ไทยทุกเผ่า ร้อยรัก สมัครสมาน
ทศพิธ ราชธรรม น้อมนำกาล
พระทรงงาน ยอดยิ่ง มิ่งเมืองไทย
เป็นแบบอย่าง ทางถูก ให้ลูกหลาน
ก่อเกิดการ งานหลัก จากพิสัย
ให้รักษ์น้ำ รักษ์ดิน คู่ถิ่นไทย
น้ำพระทัย มหาราช ของชาติไทย
เศรษฐกิจ พอเพียง เลี้ยงชีวิต
ทรงอุทิศ เวลา เงินตราให้
พระตรากตรำ ทำเอง จากจิตใจ
ต้องการให้ เห็นจริง ทุกสิ่งงาน
ความสำเร็จ เสร็จสม อารมณ์หวัง
เสริมพลัง สร้างความคิด ลิขิตขาน
พระทรงชัย ไตร่ตรอง มองเหตุการณ์
เพื่อลูกหลาน รุ่งเรือง เมืองไทยงาม
|
|
ความเห็นที่
8 โพสเมื่อ :
23 พ.ย. 53 : 10:42 น. โดย :
cook |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำและมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย
|
|
ความเห็นที่
9 โพสเมื่อ :
23 พ.ย. 53 : 10:49 น. โดย :
ben |
ในหลวงพระองค์ทรงงานหนักและเหนื่อย เพื่อราษฎรของพระองค์ได้มีความสุข
|
|
ความเห็นที่
10 โพสเมื่อ :
23 พ.ย. 53 : 11:41 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
80 พรรษามหาราช
ทรงประกาศชาติระบือชื่อสยาม
ไทยแซ่ซ้องก้องเกียรติหล้าฟ้าธาราม
กิจเกริกงามนามเป็นศรีจักรีวงศ์
ธ ทรงสร้างทางชีวิตนิมิตหมาย
เพื่อทั่วไทยคลายเศร้าหมองต้องประสงค์
เหมือนส่งแรงแสงจากฟ้าคราอัสดง
ให้บรรจงลงมาแซมแต้มธานี
น้อมอภิวาทบาทบงพระองค์เจ้า
รวมใจเราเฝ้าน้อมส่งพระทรงศรี
อัญเชิญชัยให้มายุลุหมื่นปี
แด่ภูมีจักรีวงศ์...ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
11 โพสเมื่อ :
23 พ.ย. 53 : 11:41 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
พระองค์ทรงเป็นผู้ที่ฟ้าส่งมาโปรด
เป็นดั่งแสงที่รุ่งโรจน์กลางใจฉัน
มีเมตตากรุณาคุณอนันต์
เหมือนสายใยสายสัมพันธ์มิเสื่อมคลาย
พระองค์คือผู้ให้ให้ลูกได้ทุกสิ่ง
จากใจจริงไม่เคลือบแฝงความสงสัย
ลงมาโปรดจากฟากฟ้าสุราลัย
เป็นดั่งดวงใจของลูกทุกเวลา
|
|
ความเห็นที่
12 โพสเมื่อ :
23 พ.ย. 53 : 11:42 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
แผ่นดินที่รัก หัวใจประจักษ์ ความสำคัญนี้
๙ มิถุนา ครบ ๖๐ ปี พระบารมี คุ้มครองชาติไทย
พัฒนาบ้านเมือง เจริญฟูเฟื่อง เศรษฐกิจก้าวไกล
อุทิศชีวิต จิตใจมอบให้ เหนื่อยยากเพียงใด ทรงไม่สั่นคลอน
คิดค้นโครงการ สานฝันชาวบ้าน คลายทุกข์ดับร้อน
ดูแลใส่ใจ ห่วงใยอาทร ทรงเป็นดั่งหมอน หนุนดวงหทัย
ทูลไว้เหนือเกล้า กราบลงแทบเท้า น้ำตารินไหล
รักองค์ราชัน ยิ่งกว่าสิ่งใด ชีวีมอบให้ ขอไทยจงเจริญ
|
|
ความเห็นที่
13 โพสเมื่อ :
24 พ.ย. 53 : 09:52 น. โดย :
กาย |
เทิดพระองค์ทรงบิดาประชาชาติ
ประมุขศาสตร์ศิลปินปิ่นสง่า
ภูมิพลล้นเกล้าชาวประชา
ไทยทั่วหน้าขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
14 โพสเมื่อ :
25 พ.ย. 53 : 09:09 น. โดย :
แจ่มใส |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
15 โพสเมื่อ :
26 พ.ย. 53 : 11:24 น. โดย :
นาย |
เทิดพระองค์ทรงบิดาประชาชาติ
ประมุขศาสตร์ศิลปินปิ่นสง่า
ภูมิพลล้นเกล้าชาวประชา
ไทยทั่วหน้าขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
16 โพสเมื่อ :
26 พ.ย. 53 : 14:03 น. โดย :
OoO |
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
17 โพสเมื่อ :
29 พ.ย. 53 : 09:12 น. โดย :
หนึ่ง |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
18 โพสเมื่อ :
29 พ.ย. 53 : 09:19 น. โดย :
som |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
19 โพสเมื่อ :
30 พ.ย. 53 : 13:26 น. โดย :
เวียง |
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
20 โพสเมื่อ :
30 พ.ย. 53 : 14:06 น. โดย :
เก่ง |
ขอให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยตราบนานเท่าใด
ขอให้พระองค์ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดดไป
|
|
ความเห็นที่
21 โพสเมื่อ :
1 ธ.ค. 53 : 11:45 น. โดย :
เก่ง |
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว
ขอให้ในหลวงทรงมีพระวรกายและพระหทัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
22 โพสเมื่อ :
1 ธ.ค. 53 : 13:32 น. โดย :
fan |
ขอให้พระองค์ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดดไป
|
|
ความเห็นที่
23 โพสเมื่อ :
1 ธ.ค. 53 : 13:36 น. โดย :
Sam |
ขอองค์พระสยามเทวาธิราชปกปักษ์รักษาพระองค์ท่านให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายใดๆทั้งปวง
|
|
ความเห็นที่
24 โพสเมื่อ :
1 ธ.ค. 53 : 13:44 น. โดย :
ดาว |
ขอพระองค์ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
25 โพสเมื่อ :
2 ธ.ค. 53 : 09:11 น. โดย :
cal |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
26 โพสเมื่อ :
2 ธ.ค. 53 : 09:14 น. โดย :
mall |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
27 โพสเมื่อ :
3 ธ.ค. 53 : 09:20 น. โดย :
แดง |
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
28 โพสเมื่อ :
9 ธ.ค. 53 : 09:56 น. โดย :
saddy |
ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
29 โพสเมื่อ :
9 ธ.ค. 53 : 11:20 น. โดย :
ae |
ขอให้ในหลวงทรงมีพระวรกายและพระหทัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
30 โพสเมื่อ :
9 ธ.ค. 53 : 13:22 น. โดย :
fang |
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
|
|
ความเห็นที่
31 โพสเมื่อ :
14 ธ.ค. 53 : 10:56 น. โดย :
เขียว |
มิ่งมหา มงคล ชนทั้งชาติ
ขอประกาศ เทิดไท้องค์ พระทรงศรี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกแหล่งหล้า ทั่วธานี
ขอบารมี คุ้มองค์ พระทรงธรรม์
|
|
ความเห็นที่
32 โพสเมื่อ :
14 ธ.ค. 53 : 11:11 น. โดย :
ฝ้าย |
ทีฆาโหตุ มหาราชา
|
|
ความเห็นที่
33 โพสเมื่อ :
15 ธ.ค. 53 : 15:19 น. โดย :
ว่าน |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ววัน รักพระเจ้าอยู่หัว ขอปฏิญาณว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของพระองค์ตลอดไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
34 โพสเมื่อ :
15 ธ.ค. 53 : 15:19 น. โดย :
สาว |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
35 โพสเมื่อ :
16 ธ.ค. 53 : 11:28 น. โดย :
แวว |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ววัน รักพระเจ้าอยู่หัว ขอปฏิญาณว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของพระองค์ตลอดไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
36 โพสเมื่อ :
17 ธ.ค. 53 : 13:55 น. โดย :
ต้อย |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ววัน รักพระเจ้าอยู่หัว ขอปฏิญาณว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของพระองค์ตลอดไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
37 โพสเมื่อ :
17 ธ.ค. 53 : 14:05 น. โดย :
เขียว |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
38 โพสเมื่อ :
20 ธ.ค. 53 : 12:54 น. โดย :
ขวํญ |
- ด้วยพระปรีชาญาณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้คนทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า แนวทางพระราชดำริ
ในพระองค์ เรียบง่าย ปฏิบัติได้ผลเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน
|
|
ความเห็นที่
39 โพสเมื่อ :
21 ธ.ค. 53 : 07:20 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
แรกดำรัส พ่อตรัส ปฐมวาท
พ่อประกาศ บอกกล่าว ชาวสยาม
เราจะครอง ผืนแผ่นดิน ถิ่นไทยงาม
ด้วยคุณธรรม ประโยชน์สุข ทุกหมู่ไทย
วันเดือนปี ผันผ่าน กาลผันเปลี่ยน
หลายปีเวียน มาบรรจบ ครบศกใหม่
สองหมื่นวัน ผันและผ่าน กาลเปลี่ยนไป
น้ำพระทัย พ่อคงมั่น คำสัญญา
พระจริยวัตร ทรงปฏิบัติ อย่างชัดเจน
วางหลักเกณฑ์ ทฤษฎีใหม่ ไทยศึกษา
สร้างอาชีพ สร้างพลัง สร้างพารา
บ้านเมืองไทย งดงามตา ด้วยบารมี
พ่อทรงเป็น ยิ่งกว่า มหากษัตริย์
พ่อทรงเป็น นักปราชญ์ ศาสตราศี
พ่อทรงเป็น นักประดิษฐ์ คิดวิธี
พ่อทรงเป็น บุพพการี ชีวีไทย
|
|
ความเห็นที่
40 โพสเมื่อ :
21 ธ.ค. 53 : 07:21 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
5 ธันวา วันพ่อ ก่อเกิดสุข
ปราศจากทุกข์ สุขสดใส ใจกุศล
ลูกขอกราบ แทบเท้า เอามงคล
ลูกทุกคน รักพ่อ ขอแทนคุณ
งานพ่อหนัก ลูกประจักษ์ ในดวงจิต
ขออุทิศ กายใจ สนับสนุน
ไทยทุกคน เคารพพ่อ ผู้การุณย์
ขอเนื้อบุญ จงบันดาล ผสานใจ
ทั่วแผ่นดิน ถิ่นแคว้น แดนเหนือใต้
ทรงห่วงใย เสริมสร้าง ทางสดใส
ให้รักษ์น้ำ รักษ์ดิน สินทรัพย์ไทย
ขาดสิ่งใด ก็ไร้ค่า พาเศร้าตรม
เมื่อดินดำ น้ำชุ่ม ภาคภูมิจิต
สร้างชีวิต เสริมชีวา พาสุขสม
สุขภาพดี ถ้วนหน้า ธันวาคม
พ่อดั่งพรหม ผดุงไทย เกรียงไกรเอย
|
|
ความเห็นที่
41 โพสเมื่อ :
21 ธ.ค. 53 : 09:49 น. โดย :
เจี๊ยบ |
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว
ขอให้ในหลวงทรงมีพระวรกายและพระหทัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
42 โพสเมื่อ :
21 ธ.ค. 53 : 10:01 น. โดย :
แมน |
ขอองค์พระสยามเทวาธิราชปกปักษ์รักษาพระองค์ท่านให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายใดๆทั้งปวง
ขอให้พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญแก่ปวงชนชาวไทยตราบนานเท่าใด
|
|
ความเห็นที่
43 โพสเมื่อ :
22 ธ.ค. 53 : 09:23 น. โดย :
ป.พัน.105 |
1. ผู้ใดกระทำให้สถาบันหลักของชาติสั่นคลอน เสียหาย ผู้นั้นไม่สมควรมีชีวิตยืนอยู่บนผืนดินไทย
2. ความจงรักภักดีต่อสถาบันอันสูงสุด ถือว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของคนไทยทุกคน
|
|
ความเห็นที่
44 โพสเมื่อ :
22 ธ.ค. 53 : 09:25 น. โดย :
สกม.พัน.ปจว. |
ดวงทหัยของท่านนั้นล้ำค่า
ไม่สามารถหาสี่งใดมาเทียบได้
ทุกนาทีท่านเฝ้าคิดถึงแต่คนไทย
ทำทุกทางที่จะให้ลูกหลานเจริญ
|
|
ความเห็นที่
45 โพสเมื่อ :
22 ธ.ค. 53 : 09:47 น. โดย :
mm |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ววัน รักพระเจ้าอยู่หัว ขอปฏิญาณว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของพระองค์ตลอดไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
|
|
ความเห็นที่
46 โพสเมื่อ :
22 ธ.ค. 53 : 10:19 น. โดย :
ชาติ |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
47 โพสเมื่อ :
22 ธ.ค. 53 : 10:53 น. โดย :
Tan |
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำและมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิทรงย่อท้อเข้าไปช่วยเหลือราษฎรไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลสักเพียงใดไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีความละเอียดรอบคอบ ทรงคิดหาแนวทางพัฒนาเพื่อมุ่งประโยชน์ต่อ ประชาชนสูงสุด
|
|
ความเห็นที่
48 โพสเมื่อ :
23 ธ.ค. 53 : 09:40 น. โดย :
sss |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
49 โพสเมื่อ :
23 ธ.ค. 53 : 10:57 น. โดย :
mmm |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
50 โพสเมื่อ :
24 ธ.ค. 53 : 09:30 น. โดย :
ป.พัน.2 รอ. |
เกิดมาบนแผ่นดินไทยก็นับว่าเป็นบุญแล้ว และได้อยู่ใต้ร่มพระบารมีของในหลวง ก็ถือว่าเป็นบุญมากที่สุดแล้ว
|
|
ความเห็นที่
51 โพสเมื่อ :
24 ธ.ค. 53 : 11:15 น. โดย :
แก้ว |
- เราจงน้อมนำราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ เป็น เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
|
|
ความเห็นที่
52 โพสเมื่อ :
24 ธ.ค. 53 : 11:24 น. โดย :
lll |
- ในหลวงพระองค์ทรงหลั่งหยาดเหงื่อเพื่อคนไทย ให้มีความผาสุก
|
|
ความเห็นที่
53 โพสเมื่อ :
24 ธ.ค. 53 : 11:28 น. โดย :
ooo |
- พระองค์ทรงงานหนักและเหนื่อย เพื่อให้ราษฎรของพระองค์ มีความร่มเย็นเป็นสุข
- ทุกข์ของประชาชน คือ ทุกข์ของพ่อของแผ่นดินด้วย
|
|
ความเห็นที่
54 โพสเมื่อ :
27 ธ.ค. 53 : 08:44 น. โดย :
ben |
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยเร็ว
ขอให้ในหลวงทรงมีพระวรกายและพระหทัยแข็งแรง
|
|
ความเห็นที่
55 โพสเมื่อ :
27 ธ.ค. 53 : 09:04 น. โดย :
usa |
ขอให้พระองค์ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดดไป
ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ
|
|
ความเห็นที่
56 โพสเมื่อ :
27 ธ.ค. 53 : 09:48 น. โดย :
jai |
เรารักพระเจ้าอยู่หัว
ขอองค์พระสยามเทวาธิราชปกปักษ์รักษาพระองค์ท่านให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายใดๆทั้งปวง
|
|
ความเห็นที่
57 โพสเมื่อ :
28 ธ.ค. 53 : 09:13 น. โดย :
jo |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
58 โพสเมื่อ :
28 ธ.ค. 53 : 09:33 น. โดย :
สกม.พัน.ปจว. |
ไม่มีพระมหากษัตริย์พระองค์ใดในโลกเสมอเหมือนพระองค์ ได้ พระราชกรณียกิจอันมากมาย ประดุจต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ความร่มเย็นแก่พสกนิกรทุกหนทุกแห่งบน แผ่นดินไทย และตลอดรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์พระราชทานแนวพระราชดำริด้านการศึกษาให้แก่นักการศึกษา สถาบันการศึกษา ส่วนราชการ ภาคเอกชน ตลอดจนบุคคลกลุ่มต่าง ๆ อย่างกว้างขวางและสม่ำเสมอ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
59 โพสเมื่อ :
29 ธ.ค. 53 : 14:23 น. โดย :
nnn |
ขอให้พระองค์ ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
ขอพระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ววัน รักพระเจ้าอยู่หัว ขอปฏิญาณว่าจะเป็นพลเมืองที่ดีของพระองค์ตลอดไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
60 โพสเมื่อ :
4 ม.ค. 54 : 14:40 น. โดย :
กานดา |
ขอให้พระองค์ทรงมีพลานามัยที่แข็งแรง ทรงเป็นมิ่งขวัญของคนไทยทั้งประเทศ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
61 โพสเมื่อ :
4 ม.ค. 54 : 14:59 น. โดย :
กานดา |
ขอให้มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
62 โพสเมื่อ :
5 ม.ค. 54 : 10:11 น. โดย :
nan |
พระองค์ทรงเป็นหนึ่งในพลังชีวิตของกระผมกระผมจะเป็น กำลังของชาติเพื่อพระองค์
ขอให้พระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญ และหายจากประชวรไวๆ และมีสุขภาพแข็งแรง และอยู่นานๆ ตลอดไป
ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการพระประชวร
ขอให้พระองค์มีอายุยิ่งยืนนาน
พระองค์เป็นที่รักของปวงชนชาวไทย
|
|
ความเห็นที่
63 โพสเมื่อ :
5 ม.ค. 54 : 10:17 น. โดย :
ben |
พ่อหลวงของชาวไทยทำทุกอย่างเพื่อปวงชนชาวไทย เราก็ควรสามัคคีกันเพื่อให้พ่อหลวงมีความสุข ที่เห็นคนไทยรักกัน
- ความจงรักภักดีต่อสถาบันอันสูงสุด ถือว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของคนไทยทุกคน
- สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นถาบันหนึ่งที่ช่วยให้เราได้มีแผ่นดินอยู่จนถึงลูกหลานเราถึงทุกวันนี้
|
|
ความเห็นที่
64 โพสเมื่อ :
6 ม.ค. 54 : 10:48 น. โดย :
ข้าว |
เทิดพระองค์ทรงบิดาประชาชาติ
ประมุขศาสตร์ศิลปินปิ่นสง่า
ภูมิพลล้นเกล้าชาวประชา
ไทยทั่วหน้าขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
65 โพสเมื่อ :
11 ม.ค. 54 : 07:49 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
ยอมสละทุกสิ่งเพื่อกิจการ
ให้ทวยราษฎร์ทั่วทุกย่านได้ร่มเย็น
พระเอยพระโอบเอื้อ อารี
พระกอปรพระกรณี หนักอึ้ง
พระบุญพระบารมี แผ่ทั่ว ไทยนา
สยามยังอยู่ คู่มิ่งขวัญปวงชน
มิ่งมหา มงคล ชนทั้งชาติ
ขอประกาศ เทิดไท้องค์ พระทรงศรี
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทุกแหล่งหล้า ทั่วธานี
ขอบารมี คุ้มองค์ พระทรงไชย
|
|
ความเห็นที่
66 โพสเมื่อ :
11 ม.ค. 54 : 07:50 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพรปีใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2554 ดังนี้ ประชาชนชาวไทยทั้งหลาย บัดนี้ถึงวาระจะขึ้นปีใหม่ ข้าพเจ้าขอส่งความปรารถนาดีมาอวยพรแก่ท่านทุกๆคน ให้มีความสำเร็จสมประสงค์ในสิ่งที่ปรารถนาความปรารถนาของทุกคน คงไม่แตกต่างกันนัก คือต้องการให้ตนเอง มีความสุขความเจริญ และให้บ้านเมืองมีความสงบร่มเย็น
ในปีใหม่นี้ ข้าพเจ้าจึงปรารถนาอย่างยิ่งที่จะเห็นคนไทยมีความสุขถ้วนหน้ากัน ด้วยการให้ คือให้ความรักความเมตตากัน ให้น้ำใจไมตรีกัน ให้อภัยกัน ให้การสงเคราะห์อนุเคราะห์กัน โดยมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกันด้วยความบริสุทธิ์และจริงใจ ทุกคนทุกฝ่าย จะได้สามารถร่วมมือ ร่วมความคิดอ่านกัน สร้างสรรค์ความสุข ความเจริญมั่นคง ให้แก่ตนแก่ประเทศชาติ อันเป็นสิ่งที่แต่ละคนต้องการให้สำเร็จผลได้ ดังที่ตั้งใจปรารถนา
ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีความสุข ไม่มีทุกข์ ไม่มีภัย ตลอดศกหน้านี้โดยทั่วกัน
|
|
ความเห็นที่
67 โพสเมื่อ :
3 ก.พ. 54 : 07:04 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการก่อสร้างถนนเลียบรถไฟสายใต้ (สายบางกอกน้อย)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ช่วงเวลาเสด็จฯ ไปโรงพยาบาลศิริราชเพียงไม่นานได้ทรงงานและทรงศึกษาสภาพพื้นที่บริเวณโดยรอบอย่างละเอียดจึงมีพระราชดำริว่า สามารถขยายแนวถนนเลียบทางรถไฟสายธนบุรี จากช่วงปลายถนนอิสรภาพ ถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งสภาพเดิมจากปลายถนนอิสรภาพเข้าไปประมาณ 230 เมตร เป็นถนนคอนกรีต ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 380 เมตรเป็นที่ลุ่ม มีบ้านเรือน เพิงพักอาศัย และมีทางเดินตามแนวทางรถไฟ จนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสถึงแนวพระราชดำริในการตัดถนนสายนี้ตอนหนึ่งว่า ต่อไป โครงการที่ 3 คือ สร้างทางในที่ที่ยังไม่มีทาง. อันนี้เกิดขึ้นที่ใกล้สถานีบางกอกน้อยระหว่างสถานีบางกอกน้อย คือ ปลายถนนอิสรภาพเชื่อมกับถนนจรัญสนิทวงศ์. ตรงนั้นเป็นที่ของการรถไฟ เป็นที่ลุ่มมีทางเดินเข้าไป ไม่ทะลุแล้วก็ขลุกขลัก. ทางกรงเทพมหานครได้ไปจัดการ. มีบ้านคนที่บุกรุกที่ของรถไฟบ้าง. แต่ก็ได้ย้ายบ้านเหล่านั้น เข้าใจว่าเป็นที่พอใจของผู้บุกรุก ให้ที่เขาอยู่ ไม่เดือดร้อน. ทางกำลังสร้างยังไม่เสร็จ. ต้องถมทรายเดี๋ยวนี้ได้กรุยมาเรียบร้อย เป็นระยะ 600 เมตร ยังไม่ได้มีการถม ยังไม่ครบ. แต่เมื่อครบแล้วก็จะเป็นทางที่จะทะลุ จากถนนอิสรภาพซึ่งต้น. ถนนอิสรภาพนี่ต้องเลี้ยวขวามาเข้าที่ถนนอรุณอมรินทร์. จากตรงนั้นก็สามารถเชื่อมจรัญสนิทวงศ์. เข้าใจว่าจะช่วยการสัญจรขึ้นเล็กน้อย. โครงการนี้ได้ให้เงินส่วนหนึ่ง แต่ว่าไม่พอ ต้องใช้เงินงบของกรุงเทพมหานคร และเงินบริจาคเพิ่มเติม. ราคาก็ไม่ใช่น้อยแต่ก็จะช่วยแก้ปัญหาจราจร.เมื่อกรุงเทพมหานครรับสนองแนวพระราชดำริแล้ว ได้ขออนุญาตใช้ที่ดดินริมทางรถไฟสายธนบุรีในพื้นที่เขตบางกอกน้อย ช่วงปลายถนนอิสรภาพถึงถนนจรัญสนิทวงศ์จากการทางรถไปแห่งประเทศไทย เพื่อก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ช่องจราจร มีระยะทาง 610 เมตร มีเขตทางกว้าง 10 เมตร เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2536 งบประมาณดำเนินการ 16.5 ล้านบาท และได้เปิดการจราจรอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2537 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามถนนสายนี้ว่า ถนนสุทธาวาส ตามชื่อวัดที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ถนนสุทธาวาส ได้ช่วยบรรเทาปริมาณรถยนต์ที่ผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ บรรจบกับถนนพรานนก(สามแยกไฟฉาย) ให้น้อยลง ซึ่งทำให้การจราจรที่ถนนจรัญสนิทวงศ์คล่องตัวขึ้น นอกจากนี้ ถนนสายนี้ยังเป็นเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่งที่จะไปสู่จุดชุมชนในย่านสำคัญๆ เช่น สถานีรถไฟสายธนบุรี โรงพยาบาลศิริราช ตลาดพรานนกได้อีกด้วย
|
|
ความเห็นที่
68 โพสเมื่อ :
3 ก.พ. 54 : 07:05 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการพระราชดำริถนนคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี
เนื่องจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธรทำให้ช่องทางการจราจรที่มีอยู่ 8 ช่องทาง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้พื้นที่ถนนที่เพิ่มขึ้น วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องเพิ่มพื้นผิวการจราจรให้มากขึ้น แต่การเพิ่มพื้นที่ในระดับราบนั้นกระทำได้ยาก เนื่องจากริมถนนทั้งสองด้านเต็มไปด้วย ตึก, อาคาร และสำนักงานต่างๆ มากมาย ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดคือ การเพิ่มพื้นที่จราจรด้วยการสร้างทางยกระดับขึ้นช่วงหนึ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โครงการฯ นี้เป็นโครงการหนึ่งซึ่งสนองพระบรมราโชบาย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาคุณให้พสกนิกร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด จากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธร ซึ่ง กทม. ได้ดำเนินการตามพระราโชบายโดยรอบคอบและเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจราจรในจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งตามพระราชประสงค์
ลักษณะโครงการเป็นสะพานยกระดับ สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจร จากบริเวณสะพานปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชันถนนบรมราชชนนีทั้งขาเข้าและขาออก และเพื่อแยกการจราจรของยวดยานที่ต้องการเดินทางระยะไกลออกจากยวดยานที่เดินทางในระยะใกล้ ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จนถึงทางแยกตลิ่งชันบนถนนบรมราชชนนี เริ่มที่เกาะกลางจากแยกอรุณอมรินทร์ถึงพุทธมณฑลสาย 2 โดยขาออกจะขึ้นที่แยกอรุณอมรินทร์ ลงได้ 3 จุดที่ตลิ่งชันหน้าหมู่บ้านกฤษดานคร และใกล้วงแหวนฉิมพลี ไม่มีทางขึ้นระหว่างทาง ส่วนขาเข้าขึ้นที่ต้นทางก่อนถึงพุทธมณฑลสาย 2 ขึ้นได้ที่หน้าหมู่บ้านกฤษดานครและตลิ่งชัน และจะไม่มีทางลงระหว่างทาง โดยแบ่งความรับผิดชอบการก่อสร้างโครงการฯ เป็น 2 ส่วน คือ
1. โครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ตอนปิ่นเกล้าทางแยกต่างระดับสิรินธร เริ่มดำเนินการตั้งแต่บริเวณทางแยกอรุณอมรินทร์ ถึงทางแยกต่างระดับสิรินธร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 4,515 กิโลเมตรมอบให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบดำเนินงาน
2. โครงการต่อเนื่องจากทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ตอนทางแยกต่างระดับสิรินธร ทางแยกต่างระดับฉิมพลี เริ่มดำเนินการต่อเชื่อมกับโครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนีของกรุงเทพมหานคร บริเวณทางแยกต่างระดับสิรินธร และสิ้นสุดโครงการบริเวณเลยจุดข้ามทางแยกพุทธมณฑลสาย 2 ไปประมาณ 500 เมตร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 9,363 กิโลเมตรมอบให้กรมทางหลวงรับผิดชอบดำเนินการ
ลักษณะโครงการฯ
ในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เป็นทางยกระดับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และคอนกรีตอัดแรง บนถนนบรมราชชนนี สูงเหนือผิวจราจรเดิมประมาณ 12.00 เมตร กว้าง 19.45 เมตร มีช่องทางจราจร 4 ช่องทาง ช่องทางละ 3.50 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.25 เมตร แบ่งเป็นช่องทางขาออก 2 ช่องทาง และช่องทางขาเข้า 2 ช่องทาง พื้นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็กและปูทับหน้าด้วยแอสฟัลท์ผสมร้อนหนา 5 เซนติเมตร พร้อมเกาะกลางเพื่อแยกทิศทางการจราจรรวมทั้งงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางยกระดับ และระบบระบายน้ำ งานปรับปรุงพื้นผิวจราจรเดิม งานภูมิสถาปัตย์ และติดตั้งเครื่องหมายจราจรระยะทางรวม 4,515 กิโลเมตร
|
|
ความเห็นที่
69 โพสเมื่อ :
3 ก.พ. 54 : 07:06 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการก่อสร้างสะพานมัฆวานรังสรรค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก เพื่อให้การจราจรเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสัมพันธ์กับบริเวณ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ในการก่อสร้างกรุงเทพมหานครได้คำนึงถึงความกลมกลืนเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสะพานมัฆวานรังสรรค์ และความสวยงาม โดยก่อสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานเดิมจำนวน 2 สะพาน ไม่ต้องย้ายน้ำพุ และให้มีระดับความสูงน้อยกว่าสะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานคู่ขนานทั้ง 2 สะพาน นี้มีความกว้างสะพานละ 15.00 เมตร มีผิวจราจร 10.00 เมตร ขนาด 3 ช่องทางจราจร มีความยาวสะพานละ 22.00 เมตร และมีการปรับปรุงเชิงลาดสะพานและส่วนต่อเนื่องด้วย
เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2537 แล้วเสร็จเปิดการจราจรในวันที่ 2 ธันวาคม 2537 รวมงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งสิ้น 40 ล้านบาทและใช้งบประมาณตกแต่งศิลปกรรมจำนวน 3.6 ล้านบาท
|
|
ความเห็นที่
70 โพสเมื่อ :
3 ก.พ. 54 : 07:06 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
บ่อหมักสิ่งปฏิกูล วัดสวนแก้ว จังหวัดนนทบุรี
ความเป็นมา
จากกระแสพระราชดำรัส เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2544 เนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2544 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตรัสเกี่ยวกับการจัดการสิ่งปฏิกูลว่า
สิ่งโสโครกจากบ้านเรือนที่ให้เทศบาลสูบไป มักนำไปปล่อยลงคลอง ลงแม่น้ำ ถ้าหาที่แห่งหนึ่งนอกเมือง ทำถังหมักสิ่งโสโครกไว้ 10 วัน สิ่งที่เป็นสิ่งโสโครกก็หายโสโครกเชื้อโรคอะไรก็หมดไป ถ้าให้ดีเอาไว้ 28 วัน ให้มันจริงๆจังๆ พวกเชื้อที่ร้ายแรงที่ยังมีอยู่ก็หมด แม้แต่กลิ่นก็หายหมด เสร็จแล้วเอามาตากใช้ประโยชน์ได้ ทั้งส่วนที่เป็นของแข็งและส่วนที่เป็นน้ำเป็นปุ๋ยที่ไม่เหม็น เทศบาลต่างๆ ที่มีปัญหานี้ก็ต้องพยายามพิจารณาว่าจะทำอะไรต่อไป
จากกระแสพระราชดำรัสดังกล่าวข้างต้น จังหวัดนนทบุรี โดยผู้ว่าราชการจังหวัดในขณะนั้น นายสาโรจน์ คัชมาตย์ จึงได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อนำแนวทางตามโครงการ พระราชดำริฯ มาดำเนินการต่อไปด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและแก้ปัญหาการกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ยังไม่ถูก สุขลักษณะอันเป็นสาเหตุ ของปัญหาสิ่งแวดล้อมอื่นๆ ด้วย
สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 นนทบุรี ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีให้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างบ่อหมักสิ่งปฏิกูลตามแนวพระราชดำริ ขนาดความจุ 15 ลูกบาศก์เมตร จำนวน 32 บ่อ ณ วัดสวนแก้ว จ. นนทบุรี ซึ่งพระอาจารย์พยอม กัลยาโณ ได้ให้ความอนุเคราะห์พื้นที่ก่อสร้างประมาณ 5 ไร่ ขณะนี้การก่อสร้างได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว
วัตถุประสงค์
เพื่อกำจัดสิ่งปฏิกูล โดยการหมักด้วยขบวนการไม่ใช้ออกซิเจน ป้องกันการแพร่กระจายเชื้อใน ระบบทางเดินอาหารและพยาธิ แล้วนำผลผลิตที่ได้ไปใช้ทำปุ๋ยสำหรับการเกษตร
บ่อหมักสิ่งปฏิกูล
บ่อหมักสิ่งปฏิกูล คือ บ่อที่สร้างขึ้นสำหรับกักเก็บสิ่งปฏิกูลจากรถดูดส้วมนำมาใส่ไว้ เพื่อให้เกิด การย่อยสลาย โดยแบคทีเรียตามธรรมชาติ การกำจัดสิ่งปฏิกูลโดยอาศัยขบวนการหมักย่อย สลายในถังปิดโดยไม่ใช้ออกซิเจน (Anaerobic Digestion) ซึ่งเติมครั้งเดียว (Batch Type Culture) ซึ่งเป็นผลการศึกษาวิจัยตามพระราชดำริ เมื่อ พ.ศ. 2523 ที่จังหวัดนนทบุรี โดยมี หน่วยงานสนองพระราชดำริ คือ กรมอนามัย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และโรงพยาบาลบำราศนราดูร ผลการวิจัยทำให้ได้ระบบบำบัดที่นำไปใช้ปฏิบัติได้อย่างเหมาะสม ถูกลักการสุขาภิบาลและมีผลได้คือ น้ำและกากนำไปใช้เป็นปุ๋ยได้
การก่อสร้างบ่อสิ่งปฏิกูล
การก่อสร้างเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2545 โดยการปรับพื้นที่สร้างถนน และตอกเสาเข็ม ทำฐานรากบ่อหมักและส่วนประกอบของระบบบำบัดที่สำคัญดังนี้
1. ถังหมักย่อยสลาย เป็นถังคอนกรีตเสริมเหล็กจำนวน 32 ถัง แต่ละถังมีความจุประมาณ 15 ลูกบาศก์เมตร เป็นรูปถังสี่เหลี่ยมมีความกว้าง 2.5 เมตร ยาว 4.50 เมตร สูง 1.5 เมตร หนา 0.1 เมตร มีท่อพี.วี.ซี.(PVC) ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว อยู่ที่ก้นถังด้านข้างเพื่อใช้เป็นท่อระบายน้ำและตะกอนซึ่งมีประตูน้ำเปิด - ปิด บนถังหมักย่อยสลายมีช่องคนลงขนาด0.5 x 0.5 ตารางเมตร พร้อมฝาปิด และมีท่อระบายอากาศ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว สูง 0.30 - 0.50 เมตร
2. ลานตากตะกอน เป็นลานสี่เหลี่ยมผืนผ้า ก่ออิฐฉาบปูน ขนาดกว้างประมาณ 5.00 เมตร ยาว 6.70 เมตร สูง1.00 เมตร
แบ่งเป็นช่องๆ ขนาด 16 ช่อง ใช้สำหรับตากสิ่งปฏิกูลที่ผ่านการหมักจากถังหมักย่อยสลายแล้ว ภายในลานตากชั้นล่างจะบรรจุหินย่อยให้มีความหนาของชั้นหิน
3. บ่อเก็บน้ำ หลังจากปล่อยสิ่งปฏิกูลลงสู่ลานทรายกรอง ส่วนที่เป็นน้ำจะไหลผ่านชั้นทราย และ ไปเก็บรวบรวมไว้ที่บ่อเก็บน้ำ น้ำที่ออกมาจะเป็นปุ๋ยน้ำและสามารถนำไปใช้ ประโยชน์รดน้ำต้นไม้หรือสวนสาธารณะ
4. โรงเก็บปุ๋ย หลังจากที่ตากตะกอนที่ลานตากตะกอนจนแห้งแล้ว รวบรวมนำมาเก็บไว้ที่โรงเก็บปุ๋ย เพื่อจะได้นำมาใช้ประโยชน์ต่อไป
5. ที่พักคนงาน ไว้สำหรับเป็นที่พักคนงาน ทำความสะอาด และดูแลรักษาระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล ให้มีอายุใช้งานได้นาน และมีประสิทธิภาพ
ผลที่คาดว่าจะได้รับ
การกำจัดสิ่งปฏิกูลตามโครงการพระราชดำริฯ มีประโยชน์เป็นอย่างยิ่งเพราะเป็นการกำจัด สิ่งปฏิกูลที่ถูกหลักสุขาภิบาล เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานสาธารณสุขของประเทศ ในการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้อัตราการป่วยและพยาธิลำไส้ลดน้อยลง ลดการสูญเสียของประเทศจากการที่รัฐจะต้องใช้จ่ายงบประมาณในการสร้างโรงพยาบาล ดูแลรักษาพยาบาลผู้ป่วยด้วยโรคทางเดินอาหารและโรคพยาธิลำไส้ ผู้ป่วยต้องจ่ายค่ารักษา พยาบาล ต้องหยุดงาน ขาดรายได้ ในทางกลับกันหากประชาชนมีสุขภาพดี จะสามารถประกอบอาชีพมีรายได้ ทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีด้วย นอกจากนี้ยังสามารถนำสิ่งปฏิกูลมาใช้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ปลอดภัย ทำให้ประเทศสามารถ ประหยัดเงินในการสั่งซื้อปุ๋ยเคมีจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศได้จำนวนมาก ส่วนปุ๋ยจากกากสิ่งปฏิกูลที่ผ่านการหมักย่อยสลาย ช่วยทำให้คุณภาพของดินดีขึ้น
|
|
ความเห็นที่
71 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 08:55 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
หนทางจะกันดารลำบากยากแค้นแดนไกลสักปานใดก็ตาม พระองค์ไม่ทรงเคยย่อท้อ ทรงเสด็จไปบำรุงสุข
|
|
ความเห็นที่
72 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 08:56 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
ปฐพีพื้นดินทีเคารพ ขอน้อมนบพระบิดาของชาติไทย ผู้สั่งสอนกายกและจิตใจ ขอเทิดไท้พระมิ่งขวัญองค์ราชันย์
|
|
ความเห็นที่
73 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 08:57 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
ขอให้พระองค์ทรงพระเกษมสำราญ มีพระชนม์มายุยิ่งยืนนาน
|
|
ความเห็นที่
74 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:01 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระผู้ทรงเมตตา
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นเนื้อนาบุญของทวยราษฎร์
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นร่มโพธิ์ทองของชาวไทย
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ให้....ตลอดกาล....
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นผู้ทรงทศพิธราชธรรม
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นสมติเทพที่ควรบูชา
- พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นน้ำทิพย์ชโลมผืนดินไทย
- กินดี อยู่ดี เพราะมีพ่อหลวง
- กินอิ่ม นอนหลับ เพราะพระบารมีพ่อหลวงไทย
- ในหลวงเป็นพ่อของแผ่นดินไทย
- มีในหลวง มีเศรษฐกิจพอเพียง
- ขอจงทรงพระเจริญ
- รักในหลวง เปรียบเสมือน พ่อ – แม่
- พระมหากษัตริย์ไทย พระนามลือไกลทั่วโลก
- รักในหลวง และจะทำความดีเพื่อในหลวง
|
|
ความเห็นที่
75 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:03 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
พ่อหลวงทรงเป็นผู้เสียสละอันยิ่งใหญ่ของชาวประชา
|
|
ความเห็นที่
76 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:04 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
พ่อหลวงของไทยทรงเป็นหนึ่งของนักพัฒนา อัจฉริยะของโลก
|
|
ความเห็นที่
77 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:04 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
พระมหากรุณาธิคุณขององค์ล้นเกล้าชาวไทยที่มีต่อปวงชนชาวไทย ได้แผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วผืนแผ่นดินไทย
|
|
ความเห็นที่
78 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:05 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
เชิญชวนปวงชนชาวไทยทำความดีเพื่อถวายแด่พ่อหลวงของเรา
|
|
ความเห็นที่
79 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:06 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
พระราชกรณียกิจของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ดีกับสายตาของชาวไทยและคนทั่วโลก พระองค์ทรงเปรี่ยมล้นด้วยพระเมตตา
|
|
ความเห็นที่
80 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:06 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ช่วยรัฐ – ราษฎร์สามัคคี สมัครสมานเป็นชาติพลี สร้างความดีเพื่อแผ่นดิน
|
|
ความเห็นที่
81 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:07 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
พ่อหลวง คือ ศูนย์รวมใจที่ยิ่งใหญ่
|
|
ความเห็นที่
82 โพสเมื่อ :
4 ก.พ. 54 : 13:08 น. โดย :
ร้อย.บก.พล.ร.9 |
สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นสถาบันสูงสุดที่คนไทยทุกคนควรเทิดทูลไว้เหนือสิ่งอื่นใด
|
|
ความเห็นที่
83 โพสเมื่อ :
6 ก.พ. 54 : 13:59 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
จะขอยึดนำพระราชดำรัสที่ว่า หากไม่มีคนปิดทองหลังพระ พระนั้นจะเป็นพระสวยงามได้อย่างไร
|
|
ความเห็นที่
84 โพสเมื่อ :
6 ก.พ. 54 : 14:00 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำและมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหา ความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย
|
|
ความเห็นที่
85 โพสเมื่อ :
6 ก.พ. 54 : 14:01 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
พระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คนทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า แนวทางพระราชดำริของพระองค์ เรียบง่าย ปฏิบัติได้ผลเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
86 โพสเมื่อ :
6 ก.พ. 54 : 14:03 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
พระองค์ทรงแก้ปัญหาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเขาให้มีชีวิตที่ดีขึ้น โดยสามารถเห็นได้จากการก่อตั้งโครงการหลวงต่างๆ ซึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของปวงชาวไทย
|
|
ความเห็นที่
87 โพสเมื่อ :
6 ก.พ. 54 : 14:04 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
พระองค์ทรงขจัดปัดเป่าภัยพิบัติต่างๆด้วยพระบรมเดชานุภาพ อาณาประชาราษฎร์จึงสามารถดำรงชีวิตประกอบสัมมาอาชีวะ
|
|
ความเห็นที่
88 โพสเมื่อ :
7 ก.พ. 54 : 07:26 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการก่อสร้างถนนเลียบรถไฟสายใต้ (สายบางกอกน้อย)
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงใช้ช่วงเวลาเสด็จฯ ไปโรงพยาบาลศิริราชเพียงไม่นานได้ทรงงานและทรงศึกษาสภาพพื้นที่บริเวณโดยรอบอย่างละเอียดจึงมีพระราชดำริว่า สามารถขยายแนวถนนเลียบทางรถไฟสายธนบุรี จากช่วงปลายถนนอิสรภาพ ถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ ซึ่งสภาพเดิมจากปลายถนนอิสรภาพเข้าไปประมาณ 230 เมตร เป็นถนนคอนกรีต ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 380 เมตรเป็นที่ลุ่ม มีบ้านเรือน เพิงพักอาศัย และมีทางเดินตามแนวทางรถไฟ จนถึงถนนจรัญสนิทวงศ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำรัสถึงแนวพระราชดำริในการตัดถนนสายนี้ตอนหนึ่งว่า ต่อไป โครงการที่ 3 คือ สร้างทางในที่ที่ยังไม่มีทาง. อันนี้เกิดขึ้นที่ใกล้สถานีบางกอกน้อยระหว่างสถานีบางกอกน้อย คือ ปลายถนนอิสรภาพเชื่อมกับถนนจรัญสนิทวงศ์. ตรงนั้นเป็นที่ของการรถไฟ เป็นที่ลุ่มมีทางเดินเข้าไป ไม่ทะลุแล้วก็ขลุกขลัก. ทางกรงเทพมหานครได้ไปจัดการ. มีบ้านคนที่บุกรุกที่ของรถไฟบ้าง. แต่ก็ได้ย้ายบ้านเหล่านั้น เข้าใจว่าเป็นที่พอใจของผู้บุกรุก ให้ที่เขาอยู่ ไม่เดือดร้อน. ทางกำลังสร้างยังไม่เสร็จ. ต้องถมทรายเดี๋ยวนี้ได้กรุยมาเรียบร้อย เป็นระยะ 600 เมตร ยังไม่ได้มีการถม ยังไม่ครบ. แต่เมื่อครบแล้วก็จะเป็นทางที่จะทะลุ จากถนนอิสรภาพซึ่งต้น. ถนนอิสรภาพนี่ต้องเลี้ยวขวามาเข้าที่ถนนอรุณอมรินทร์. จากตรงนั้นก็สามารถเชื่อมจรัญสนิทวงศ์. เข้าใจว่าจะช่วยการสัญจรขึ้นเล็กน้อย. โครงการนี้ได้ให้เงินส่วนหนึ่ง แต่ว่าไม่พอ ต้องใช้เงินงบของกรุงเทพมหานคร และเงินบริจาคเพิ่มเติม. ราคาก็ไม่ใช่น้อยแต่ก็จะช่วยแก้ปัญหาจราจร.เมื่อกรุงเทพมหานครรับสนองแนวพระราชดำริแล้ว ได้ขออนุญาตใช้ที่ดดินริมทางรถไฟสายธนบุรีในพื้นที่เขตบางกอกน้อย ช่วงปลายถนนอิสรภาพถึงถนนจรัญสนิทวงศ์จากการทางรถไปแห่งประเทศไทย เพื่อก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ช่องจราจร มีระยะทาง 610 เมตร มีเขตทางกว้าง 10 เมตร เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2536 งบประมาณดำเนินการ 16.5 ล้านบาท และได้เปิดการจราจรอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2537 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานนามถนนสายนี้ว่า ถนนสุทธาวาส ตามชื่อวัดที่ตั้งอยู่ในบริเวณดังกล่าว
ถนนสุทธาวาส ได้ช่วยบรรเทาปริมาณรถยนต์ที่ผ่านถนนจรัญสนิทวงศ์ บรรจบกับถนนพรานนก(สามแยกไฟฉาย) ให้น้อยลง ซึ่งทำให้การจราจรที่ถนนจรัญสนิทวงศ์คล่องตัวขึ้น นอกจากนี้ ถนนสายนี้ยังเป็นเส้นทางอีกเส้นทางหนึ่งที่จะไปสู่จุดชุมชนในย่านสำคัญๆ เช่น สถานีรถไฟสายธนบุรี โรงพยาบาลศิริราช ตลาดพรานนกได้อีกด้วย
|
|
ความเห็นที่
89 โพสเมื่อ :
7 ก.พ. 54 : 07:26 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการพระราชดำริถนนคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี
เนื่องจากปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธรทำให้ช่องทางการจราจรที่มีอยู่ 8 ช่องทาง ไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้พื้นที่ถนนที่เพิ่มขึ้น วิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จะต้องเพิ่มพื้นผิวการจราจรให้มากขึ้น แต่การเพิ่มพื้นที่ในระดับราบนั้นกระทำได้ยาก เนื่องจากริมถนนทั้งสองด้านเต็มไปด้วย ตึก, อาคาร และสำนักงานต่างๆ มากมาย ดังนั้น วิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมที่สุดคือ การเพิ่มพื้นที่จราจรด้วยการสร้างทางยกระดับขึ้นช่วงหนึ่ง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจรได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
โครงการฯ นี้เป็นโครงการหนึ่งซึ่งสนองพระบรมราโชบาย ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระมหากรุณาคุณให้พสกนิกร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรที่ติดขัด จากเชิงสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกสิรินธร ซึ่ง กทม. ได้ดำเนินการตามพระราโชบายโดยรอบคอบและเร่งด่วน เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขปัญหาจราจรในจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งตามพระราชประสงค์
ลักษณะโครงการเป็นสะพานยกระดับ สร้างขึ้นเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับการจราจร จากบริเวณสะพานปิ่นเกล้าจนถึงทางแยกตลิ่งชันถนนบรมราชชนนีทั้งขาเข้าและขาออก และเพื่อแยกการจราจรของยวดยานที่ต้องการเดินทางระยะไกลออกจากยวดยานที่เดินทางในระยะใกล้ ตั้งแต่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ จนถึงทางแยกตลิ่งชันบนถนนบรมราชชนนี เริ่มที่เกาะกลางจากแยกอรุณอมรินทร์ถึงพุทธมณฑลสาย 2 โดยขาออกจะขึ้นที่แยกอรุณอมรินทร์ ลงได้ 3 จุดที่ตลิ่งชันหน้าหมู่บ้านกฤษดานคร และใกล้วงแหวนฉิมพลี ไม่มีทางขึ้นระหว่างทาง ส่วนขาเข้าขึ้นที่ต้นทางก่อนถึงพุทธมณฑลสาย 2 ขึ้นได้ที่หน้าหมู่บ้านกฤษดานครและตลิ่งชัน และจะไม่มีทางลงระหว่างทาง โดยแบ่งความรับผิดชอบการก่อสร้างโครงการฯ เป็น 2 ส่วน คือ
1. โครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ตอนปิ่นเกล้าทางแยกต่างระดับสิรินธร เริ่มดำเนินการตั้งแต่บริเวณทางแยกอรุณอมรินทร์ ถึงทางแยกต่างระดับสิรินธร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 4,515 กิโลเมตรมอบให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบดำเนินงาน
2. โครงการต่อเนื่องจากทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนี ตอนทางแยกต่างระดับสิรินธร ทางแยกต่างระดับฉิมพลี เริ่มดำเนินการต่อเชื่อมกับโครงการทางคู่ขนานลอยฟ้า ถนนบรมราชชนนีของกรุงเทพมหานคร บริเวณทางแยกต่างระดับสิรินธร และสิ้นสุดโครงการบริเวณเลยจุดข้ามทางแยกพุทธมณฑลสาย 2 ไปประมาณ 500 เมตร ความยาวทั้งสิ้นประมาณ 9,363 กิโลเมตรมอบให้กรมทางหลวงรับผิดชอบดำเนินการ
ลักษณะโครงการฯ
ในช่วงที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร เป็นทางยกระดับโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และคอนกรีตอัดแรง บนถนนบรมราชชนนี สูงเหนือผิวจราจรเดิมประมาณ 12.00 เมตร กว้าง 19.45 เมตร มีช่องทางจราจร 4 ช่องทาง ช่องทางละ 3.50 เมตร ไหล่ทางข้างละ 1.25 เมตร แบ่งเป็นช่องทางขาออก 2 ช่องทาง และช่องทางขาเข้า 2 ช่องทาง พื้นผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็กและปูทับหน้าด้วยแอสฟัลท์ผสมร้อนหนา 5 เซนติเมตร พร้อมเกาะกลางเพื่อแยกทิศทางการจราจรรวมทั้งงานติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่างบนทางยกระดับ และระบบระบายน้ำ งานปรับปรุงพื้นผิวจราจรเดิม งานภูมิสถาปัตย์ และติดตั้งเครื่องหมายจราจรระยะทางรวม 4,515 กิโลเมตร
|
|
ความเห็นที่
90 โพสเมื่อ :
7 ก.พ. 54 : 07:27 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการก่อสร้างสะพานมัฆวานรังสรรค์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริให้กรุงเทพมหานครแก้ไขปัญหาจราจรบริเวณ สะพานมัฆวานรังสรรค์ ถนนราชดำเนินนอก เพื่อให้การจราจรเป็นไปอย่างต่อเนื่องและสัมพันธ์กับบริเวณ เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ในการก่อสร้างกรุงเทพมหานครได้คำนึงถึงความกลมกลืนเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของสะพานมัฆวานรังสรรค์ และความสวยงาม โดยก่อสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานเดิมจำนวน 2 สะพาน ไม่ต้องย้ายน้ำพุ และให้มีระดับความสูงน้อยกว่าสะพานมัฆวานรังสรรค์ สะพานคู่ขนานทั้ง 2 สะพาน นี้มีความกว้างสะพานละ 15.00 เมตร มีผิวจราจร 10.00 เมตร ขนาด 3 ช่องทางจราจร มีความยาวสะพานละ 22.00 เมตร และมีการปรับปรุงเชิงลาดสะพานและส่วนต่อเนื่องด้วย
เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 2 สิงหาคม 2537 แล้วเสร็จเปิดการจราจรในวันที่ 2 ธันวาคม 2537 รวมงบประมาณที่ใช้ในการก่อสร้างทั้งสิ้น 40 ล้านบาทและใช้งบประมาณตกแต่งศิลปกรรมจำนวน 3.6 ล้านบาท
|
|
ความเห็นที่
91 โพสเมื่อ :
19 ก.พ. 54 : 15:12 น. โดย :
น.ส.ชิดชนก ทองนาค |
ประชาราษฎร์ทั่วเขตประเทศไทยพร้อมใจน้อมถวายพระพร ทรงพระเจริญ
|
|
ความเห็นที่
92 โพสเมื่อ :
23 ก.พ. 54 : 14:25 น. โดย :
ร.๑๕๑ พัน.๓ |
โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ เป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งของประเทศ
|
|
ความเห็นที่
93 โพสเมื่อ :
24 ก.พ. 54 : 11:22 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาเป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงริเริ่มดำเนินการทดลองการแปรรูปผลิตผลการเกษตรขึ้นในพระราชวังตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๔
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานทรัพย์ส่วน พระองค์สร้างโครงการอันหลากหลายในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เพื่อเป็นโรงงานตัวอย่างและพระราชทานโอกาสให้บุคคลกลุ่มต่าง ๆ ที่สนใจ " ดูกิจการได้ทุกเมื่อ " ในแต่ละปีจึงมีผู้เข้ามาศึกษาดูงานโครงการต่าง ๆ เกือบ ๒๐,๐๐๐ คนต่อปี ลักษณะของโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา แบ่งออกเป็น ๒ ประเภทคือ
โครงการแบบไม่ใช่ธุรกิจ เป็นโครงการสนองแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตทางการเกษตร ทรงให้ความสำคัญกับการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของเกษตรกร โดยมีแนวทางที่สำคัญคือ ทำให้เกษตรกรสามารถพึ่งตนเองได้ทางด้านอาหาร และสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้นนอกเหนือ ไปจากภาคเกษตร อีกทั้งเน้นการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการเหล่านี้ได้แก่ โครงการเกี่ยวกับปลานิล ป่าไม้สาธิต นาข้าวทดลองข้าวไร่ การผลิตแก๊สชีวภาพ ปุ๋ยอินทรีย์ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช สวนพืชสมุนไพร สาหร่ายเกลียวทองโครงการทดลองปลูกพืชโดยปราศจากดิน
ทั้งในด้านอยู่ดีกินดีและเสริมสร้างรายได้ โครงการต่าง ๆ เหล่านี้ได้แก่ โรงโคนมสวนจิตรลดา เริ่มจากในปี พ.ศ. ๒๕๐๕ ได้มีบริษัทและหน่วยราชการน้อมเกล้าฯ ถวายโค ๖ ตัว ซึ่งเป็นโคตั้งท้องแล้ว ๔ ตัว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์สำหรับสร้างโรงงานโคนม ราคา ๓๒,๘๘๖. ๗๓ บาท ขึ้นในบริเวณสวนจิตรลดา ต่อมาเมื่อแม่โคตกลูกและเริ่มทำการรีดนม น้ำนมที่เหลือจากการแบ่งให้ลูกโคกินแล้ว ได้นำไปจำหน่าย เมื่อมีจำนวนโคนมเพิ่มขึ้น ทั้งจากแม่โคที่ให้ลูกทุกปี และมีผู้น้อมเกล้าฯ ถวายสมทบ ทำให้สามารถผลิตน้ำนมออกจำหน่ายแก่บุคคลภายนอกและโรงเรียนต่าง ๆ ในละแวกใกล้เคียง เมื่อมีกำไรสะสมมากยิ่งขึ้น ก็ได้ขยายงานออกไปตามลำดับทั้งในด้านการผลิตน้ำนม คุณภาพนมดิบ และการส่งเสริมอาชีพแก่เกษตรกร ผลพลอยได้จากโรงโคนมคือ มูลโคซึ่งเมื่อนำมาหมักจะได้ " ไบโอแก๊ส " หรือ " แก๊สชีวภาพ " สำหรับเป็นเชื้อเพลิง กากจากบ่อหมักแก๊สชีวภาพยังสามารถใช้ทำเป็นปุ๋ย มูลโคที่เป็นสารละลายที่อยู่ในถังหมัก ส่วนหนึ่งนำไปใช้สำหรับเพาะเลี้ยงสาหร่ายเกลียวทอง ซึ่งสามารถนำไปทำอาหารสำเร็จรูปสำหรับเลี้ยงปลาอีกส่วนหนึ่งทำเป็นปุ๋ยใส่ แปลงพืชอาหารสัตว์ และบางส่วนนำไปใช้สำหรับบำรุงบ่อเพาะพันธุ์ปลานิล
โรงนมผงสวนดุสิต โรงนมผงสวนดุสิตตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เนื่องจากเกิดภาวะนมสดล้นตลาด สมาชิกผู้เลี้ยงโคนมจึงได้ทูลเกล้าถวายฎีกาให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงช่วยเหลือ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างโรงนมผงขนาดย่อมขึ้น เพื่อผลิตนมผงเป็นการแก้ปัญหานมสดล้นตลาด น้ำกลั่น น้ำกลั่นเป็นผลผลิตพลอยได้จากเครื่องระเหยนมซึ่งมีความบริสุทธิ์ค่อนข้าง สูงและมีมากพอที่จะนำไปผลิตเป็นน้ำกลั่นเพื่อใช้เติมแบตเตอรี่รถยนต์และใช้ ดื่มได้
โรงเนยแข็ง โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้สร้างโรงเนยแข็งน้อมเกล้าถวายในวโรกาส เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ รอบ พุทธศักราช ๒๕๓๐ และคณะกรรมการบริหารของบริษัท ซี . ซี . ฟรีสแลนด์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ได้ร่วมน้อมเกล้าถวายอุปกรณ์สำหรับการผลิตเนยแข็ง ปัจจุบันโรงเนยแข็งสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ออกสู่ตลาด เช่น นมข้นหวานบรรจุหลอด นมเปรี้ยวพร้อมดื่มรสต่าง ๆ ไอศครีม นมสดพาสเจอร์ไรซ์ปราศจากไขมัน เนยแข็งเกาด้า เนยแข็งเช็ดด้า และเนยสด โรงนมเม็ด โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา เคยผลิตนมเม็ดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒ แต่ประสบปัญหาทางเทคนิคทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ ต่อมาเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดาได้จัดทำโรงนมเม็ดขึ้นใหม่เพื่อเป็นการส่ง เสริมโภชนาการแก่ผู้บริโภค และเพื่อเป็นการแนะนำการผลิตนมเม็ดขึ้นในประเทศ ปัจจุบันสามารถผลิตนมเม็ดได้วันละ ๗,๐๐๐ - ๑๒,๐๐๐ ซองต่อวัน มีทั้งสิ้น ๓ รส คือรสหวาน รสกาแฟ และรสช็อกโกแลต ซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง
เดือนตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ โครงการส่วนพระองค์สวนจิตร ร่วมกับบริษัทสุราทิพย์ได้ขยายกำลังผลิตแอลกอฮอล์เพื่อให้มีพอใช้ผลสมกับ น้ำมันเบนซินเป็นแก๊สโซฮอล์สำหรับรถยนต์ทุกคันของโครงการที่ใช้เบนซิน และในวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนินเปิดสถานีบริการแก๊สโซฮอล์ในโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา งานทดลองผลิตภัณฑ์เชื้อเพลิงแบ่งเป็นหน่วยย่อย คือ ๑ . โรงแอลกอฮอล์ทำหน้าที่ ผลิตเอทธิลแอลกอฮอล์ความเข้มข้นร้อยละ ๙๕ และผลิตน้ำส้มสายชูจากสับปะรดและเศษผลไม้อื่น ๆ ๒ . โรงอัดแกลบ ทำหน้าที่ผลิตแกลบอัดแท่งและเผาถ่านจากแกลบอัดเพื่อจำหน่ายและใช้เป็นเชื้อ เพลิงสำหรับเครื่องกำเนิดไอน้ำของโรงกลั่นแอลกอฮอล์ ๓ . งานพิเศษตามที่ได้รับมอบหมายให้ดูแล ได้แก่ บ้านพลังแสงอาทิตย์ เพื่อใช้ในการศึกษาทอลองเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากพลังแสงอาทิตย์ และระบบนำน้ำเสียกลับมาใช้รดน้ำต้นไม้ และเป็นน้ำหล่อเย็นในการผลิตเทียนของโรงหล่อเทียนหลวงของสวนจิตรลดา น้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ การผลิตน้ำผลไม้พาสเจอร์ไรซ์ได้เริ่มผลิตตั้ง แต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๗ โดยผลิตน้ำส้ม น้ำอ้อย น้ำกระเจี๊ยบ และน้ำขิงออกจำหน่าย และส่งเสริมให้เกษตรจัดตั้งกลุ่มดำเนินงานในรูปของสหกรณ์เกษตร โรงน้ำผลไม้บรรจุกระป๋อง เริ่มโครงการเมื่อปลายเดือนมกราคม พ.ศ. ๒๕๓๕ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการตั้งโรงงานขนาดเล็ก ต้นทุนการผลิต การตลาดที่จะผลิตผลไม้บรรจุกระป๋องเพื่อส่งเสริมให้ประชาชนดื่มน้ำผลไม้มาก ขึ้น น้ำผลไม้บรรจุกระป๋องของโครงการมีหลายชนิด เช่น น้ำมะม่วง น้ำตะไคร้ น้ำเห็ดหลินจือผสมน้ำผึ้ง น้ำสับปะรด น้ำกาแฟ น้ำมะนาวผสมน้ำผึ้ง เป็นต้น สาหร่ายเกลียวทอง ในปี พ.ศ. ๒๕๒๙ งานวิจัยและพัฒนาโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา ได้นำน้ำกากมูลหมักซึ่งเป็นผลพลอยได้จากการผลิตแก๊สชีวภาพมาใช้เลี้ยง สาหร่ายเกลียวทอง และนำไปใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตอาหารปลา
|
|
ความเห็นที่
94 โพสเมื่อ :
25 ก.พ. 54 : 09:41 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
อหลวงทรงปกครองปวงประชาด้วยทศพิศราชธรรม
ชาติแผ่นดินไม่สิ้นเพราะพ่อเรา
บุญของแผ่นดินไทย ที่มีพระเจ้าแผ่นดินปกครองบ้านเมืองโดยธรรม
|
|
ความเห็นที่
95 โพสเมื่อ :
25 ก.พ. 54 : 09:42 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
เหนือกล้าสิ่งอื่นใด คนไทยเทิดทูนเหนือเกล้ากษัตริย์ไทย
พระเสโทหยาดหยดรดแผ่นดิน เพื่อชาวประชาชาวไทย
|
|
ความเห็นที่
96 โพสเมื่อ :
25 ก.พ. 54 : 09:43 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
รักในหลวง อย่าก่อความขัดแย้งและสร้างเงื่อนไขอันเป็นเหตุให้เกิดความไม่สงบ
|
|
ความเห็นที่
97 โพสเมื่อ :
25 ก.พ. 54 : 09:44 น. โดย :
ร้อย.สห.พล.ร.๙ |
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่ทุกคนจะต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทุกคน
|
|
ความเห็นที่
98 โพสเมื่อ :
2 มี.ค. 54 : 16:48 น. โดย :
พลฯมานะ สุทธิไกร |
สถาบันพระมหากษัตริย์อยู่คู่กับคนไทยมานานแสนนาน
|
|
ความเห็นที่
99 โพสเมื่อ :
4 มี.ค. 54 : 09:52 น. โดย :
กธก.กร.ทบ. |
โครงงานเศรษฐกิจพอเพียงกับเทียนไขไล่ยุง
ที่มาและความสำคัญ
เศรษฐกิจพอเพียงเป็นโครงการในพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช รัชกาลที่ 9 คำว่า เศรษฐกิจพอเพียง เป็นสิ่งที่สื่อให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของบุคคลว่ามีความเป็นอยู่อย่างเพียงพอไม่ฟุ่มเฟือย สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยตนเองและการพึ่งพาธรรมชาติตลอดจนการดำเนินการอย่างลงตัว จากแนวความคิดดังกล่าวทำให้พวกเราได้คิดหาวิธีการที่จะดำเนินตามรอยพระยุคลบาทของในหลวง โดยศึกษาถึงการดำรงชีวิตอยู่อย่างพอเพียงในเรื่องของพืชผักสวนครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิต ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันอยู่ในสภาวะวิกฤติ
ในด้านเศรษฐกิจ การปลูกพืชผักสวนครัวก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้อยู่อย่างพอเพียงได้ ในพืชผักสวนครัวประกอบด้วยพืชผักนานาชนิดเช่น ข่า ตะไคร้ มะกรูด มะเขือ กะเพรา แมงลัก โหรพา ยี่หร่า เป็นต้น พืชผักดังกล่าวเป็นพืชที่เป็นประโยชน์ในด้านการประกอบอาหาร และจากการศึกษาเพิ่มเติมเราก็พบว่า พืชผักบางชนิดมีสารบางอย่างที่สามารถไล่แมลง โดยเฉพาะยุง ซึ่งเป็นพาหะนำโรคร้ายที่สามารถคร่าชีวิตของคนได้ นั่นก็คือโรคไข้เลือดออก จึงถือได้ว่าเป็นปัญหาและโรคที่ร้ายแรง แต่เราก็สามารถป้องกันได้โดยการกำจัดตัวพาหะนำโรค นั่นก็คือยุง
เราจึงได้คิดหาวิธีที่จะกำจัดยุงด้วยวิธีการธรรมชาติและสอดคล้องกับทฤษฎีของเศรษฐกิจพอเพียงประกอบกับโรงเรียนของพวกเราอยู่ในบริเวณวัดเห็นมีเศษเทียนจากการประกอบพิธีทางศาสนาที่ไม่ได้นำไปใช้ประโยชน์อะไร เราจึงได้คิดที่จะนำเอาเศษ เทียนเหล่านั้นมาใช้ หล่อ เป็นเทียนโดยได้นำเอาพืชผักสวนครัวสมุนไพรที่สามารถไล่ยุงได้มาผสมลงในการหล่อเทียน เพื่อใช้เป็นเทียนสมุนไพรไล่ยุง
วัตถุประสงค์ของการศึกษาค้นคว้า
1. เพื่อศึกษาผักสวนครัวที่สามารถไล่ยุงได้และแมลงได้
2. เพื่อศึกษาการใช้เทียนไขสมุนไพรไล่ยุง
ขั้นตอนในการดำเนินการ
1. ศึกษาเอกสารความรู้เกี่ยวกับเรื่องผักสวนครัวสมุนไพร
2. จัดทำแม่พิมพ์
3. หล่อเทียนตะไคร้หอม ใบมะกรูด ข่า
4. สรุปผลการทดลองใช้
สรุป อภิปรายผล
จากผลการศึกษาค้นคว้าความรู้เกี่ยวผักสวนครัวสมุนไพร เราก็พบว่าพืชผักที่สามารถไล่ยุงได้ มีตะไคร้หอม มะกรูด และ ข่า เมื่อเราศึกษาเกี่ยวกับเรื่องรูปทรงเรขาคณิตและปริมาตร โดยเรากำหนดพื้นที่ฐานและ ความสูงของรูปทรงปริซึม พีระมิด กรวย ทรงกลมและทรงกระบอก ทำให้เราพิสูจน์ว่าเมื่อปริมาตรและความสูงที่เท่ากัน รูปทรงที่สามารถไล่ยุงได้นานที่สุดคือ รูปทรงกรวย กล่าวคือ การนำเอารูปทรงเรขาคณิตมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้แก่ในเรื่องของการใช้เศษเทียนไข
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. ประโยชน์ของพืชผักสวนครัวสมุนไพรที่สามารถไล่ยุงและแมลง
2. ทราบว่ารูปทรงเรขาคณิตที่ใช้ในการไล่ยุงได้นานที่สุดคือ กรวย พีระมิด ทรงกระบอกและปริซึม ตามลำดับ
3. ได้นำแนวความคิดเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อเป็นการนำสิ่งที่มี
อยู่แล้วมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
|
|
|
|
|
|
| | | |