ประวัติวัดโบสถ์
วัดโบสถ์
เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ
ตั้งอยู่หมู่ที่ 1
ตำบลอินทร์บุรีอำเภออินทร์บุรี
จังหวัดสิงห์บุรี อานาเขตทิศเหนือยาว ๑๔๐ เมตร
ติดต่อกับหมู่บ้านเอกชน ทิศใต้ยาว ๒๘๕ เมตร
ติดต่อแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศตะวันตกยาว ๒๙๐ เมตร
ติดกับถนนหลังวัด ลักษณะทั่วไปพื้นที่
เป็นที่ราบรุ่มน้ำท่วมถึง
รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ความเป็นมา
วัดโบสถ์เป็นวัดเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา
ต่อมากลายเป็นวัดร้าง จนถึง พ.ศ. ๒๔๑๖
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลที่ ๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
จึงมีพระภิกษุ ๓ รูป คือ พระอาจารย์คง
พระอาจารย์แผน และพระอาจารย์ต่าย
แห่งวัดประยูรวงศาวาส
ได้มาถากถางปลูกเป็นกระท่อมผักอยู่ที่วัดโบสถ์นี้
ต่อมาชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัด มีขุนจ่าเมือง
(นิล) และอุบาสกคำ
เป็นหัวหน้าช่วยกันสร้างกุฏิและศาลาให้เป็นที่พำนักอาศัย
โดยมีพระอาจารย์คง ปกครองวัดอยู่ได้นาน ๔ ปี
จึงลาสิขา พระฉ่ำซึ่งเป็นศิษย์พระอาจารย์คง
จึงไดปกครองวัดต่อมา
และขุนจ่าเมืองอินทร์เป็นหัวหน้าบำรุงอุปถัมภ์วัดให้เจริญในด้านการก่อสร้างขึ้นมาระยะหนึ่ง
เมื่อพระอาจารย์ฉ่ำมรณภาพ พระอาจารย์เอม
ได้ซ่อมแซมเสนาสนะหลายอยาง เช่น กุฏิ ศาลา
และอุโบสถ
โดยมีพระศักดิ์บุรีนทร์เป็นหัวหน้าในการสร้างพระอุโบสถด้วย
วัดโบสถ์เดิมเป็นวัดมหานิกาย
ภายหลังเปลี่ยนเป็นวัดธรรมยุต
เพราะมีพระสงฆ์วัดโบสถ์ไปเปลี่ยนแปลงเป็นวัดธรรมยุต
ที่วัดบวรนิเวศวิหาร. กรุงเทพฯ
และได้ศึกษาพระธรรมวินัย
กับสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมหมื่นวชิรญาณวโรรส
จนโปรดและทรงจัดให้พระครูสังฆบิบาล (อิน)
นำคณะสงฆ์วัดบวรนิเวศวิหาร อีก ๒ รูป
มาอยู่วัดโบสถ์ คือ พระสมุห์ยิ้ม และพระห่วง
พร้อมด้วยพระวัดโบสถ์ที่มาศึกษาอีก ๔ รูป คือ
พระลม พระศิษ พระเฟื่อง และพระลา
เป็นพระธรรมยุตมาอยู่วัดโบสถ์ เมื่อ ปีวอก
พ.ศ. ๒๔๓๘
การดำเนินของกรมการศาสนาได้ดำเนินการต่อไป
วัดโบสถ์ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
ให้ยกขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ
เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๒๕
อนึ่ง
เมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๙
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาท
พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ
และสมเด็จพระเจ้าฟ้าจุฬาพรวลัยรักษ์
ได้เสด็จมาทรงตัดลูกนิมิตพระอุโบสถ
และได้พระราชทานพระราชทรัพย์จำนวน ๓๐,๐๐๐ บาท
เพื่อบำรุงวัดนี้ด้วย
วัดโบสถ์ก่อนที่จะได้รับยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงนั้น
มีเจ้าอาวาส ปกครองมามาตามลำดับ ดังนี้
1. พระอาจารย์คง ปกครองวัดมาตั้งแต่ พ.ศ.
2416 เป็นเวลา 4 ปี
2. พระฉ่ำ
รักษาการเมื่อพระอาจารย์คงลาสิขา
3. พระอาจารย์เอม ปกครองวัดนานถึง 10
และลาสิขาเมื่อปี พ.ศ. 2473
4. พระครูสังฆบริบาล (อิน)
เป็นพระธรรมยุตรูปแรกที่ปกครองวัดมาตั้งแต่ปี
พ.ศ. 2438
สร้างความเจริญให้กับจนได้เลื่อนสมณศักดิ์ที่
พระครูสิงหบุราจารย์
เจ้าคณะใหญ่จังหวัดสิงห์บุรี
ทำให้การศึกษาของวัดเจริญก้าวหน้าขึ้นมาก
ปกครองวัดอยู่นาน 9 ปี
ก็ถึงแก่มรณภาพที่ภูมิลำเนาเดิมของท่านเมื่อ
ปีมะโรง เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2447
5. พระสิงหบุราจารย์ (ลบ ฐิตาโภ)
ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ. 2447-2497
6. พระครูธรรมวรานุยุตติ์ (ฟู อาภาคโม)
ปกครองวัดตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2497 2500
7. พระราชเมธาภรณ์ (ผึ่ง โรจโน)
ปกครองวัดตั้งแต่ พ.ศ. 2500 เป็นต้นมา
พัฒนาวัดจนรุ่งเรืองทุกด้าน
และได้เลื่อนสมณศักดิ์ พระเทพสุทธิโมลี
มรณภาพเมื่อ วันที่ 20 เมษายน 2525
8. เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน
พระสุนทรธรรมโสภิต (ประยงค์ ปภาโส)
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสพระอารามหลวง เมื่อวันที่
19 พฤษภาคม 2526 ปัจจุบัน ได้เลื่อนสมณศักดิ์
เป็น พระราชวินัยเวที
และเป็นเจ้าคณะจังหวัดสิงห์บุรี - อุท้ยธานี -
ชัยนาท (ธรรมยุต) |