ที่เที่ยว
วัดเฉลิมพระเกียรติวรวิหาร ตั้งอยู่ตำบลบางศรีเมือง ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) ทรงสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2390 เพื่อถวายพระอัยกา พระอัยกี และสมเด็จพระราชชนนี สร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 4 ภายในเขตพระอารามสงบ สะอาด ร่มรื่น มีศิลปะสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ในวัดทั้งของเดิมและของใหม่มีความกลมกลืนกัน โดยอนุรักษ์รูปแบบเดิมไว้ วัดนี้ได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่นประจำปี พ.ศ. 2536 จากสมาคมสถาปนิกสยาม
สถานที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ เป็นศิลปะแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 3 (คือ ศิลปะที่ได้รับอิทธิพลผสมจากจีน) หลังคามุงด้วยกระเบื้องรางดินเผา ชนิดกาบกล้วยไม่เคลือบสี ถือปูนทับแนวทำเป็นลอนลูกฟูกแบบเก๋งจีน หน้าบันประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสลับลวดลายใบดอกพุดตาน กระจังฐานพระ ช่อฟ้าใบระกา ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบสีสลับลายจากประเทศจีน ผนังด้านในเขียนสีลายพุ่มข้าวบิณฑ์ก้านแย่ง มีช่อดอกพุดตานภายใน เพดานลายฉลุปิดทอง ซุ้มประตูหน้าต่างประดับลายปูนปั้นรูปใบและดอกพุดตาน พื้นประดับกระจก ผนังภายในพระอุโบสถเขียนสีลายดอกไม้ร่วง บานประตูหน้าต่างเขียนลายทองรดน้ำ กรอบประตูหน้าต่างประดับปูนปั้นยกดอกพุดตาน พื้นประดับกระจก ส่วนด้านในของบานประตูหน้าต่างเขียนรูปกอบัว ดอกบัว นก และสัตว์น้ำ พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หล่อด้วยทองแดงทั้งองค์ มีตำนานเล่าว่า ในสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้ขุดแร่ทองแดงที่อำเภอจันทึก จังหวัดนครราชสีมา ได้แร่ถลุงเป็นเนื้อทองแดงมาก พระองค์จึงมีพระราชประสงค์จะใช้ทองแดงนั้นให้เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่พระพุทธศาสนาก่อน จึงโปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปซึ่งประดิษฐานเป็นพระประธานในพระอาราม ซึ่งทรงสร้างใหม่ 2 พระอาราม คือ วัดราชนัดดาและวัดเฉลิมพระเกียรติ ทั้งได้โปรดเกล้าฯ ให้หล่อพระพุทธรูปปางอื่นอีก 34 ปาง พระประธานหล่อเสร็จปี พ.ศ. 2389 องค์ที่อัญเชิญไปประดิษฐานวัดราชนัดดา เวลาชักเคลื่อนองค์พระไปวัดเกิดอาเพศ ตะเฆ่ (เครื่องลากเข็นของหนัก รูปเตี้ย ๆ มีล้อ) ประดิษฐานพระไปทับเจ้าพระยายมราช (บุญนาค) กับทนายอีก 2 คน เสียชีวิต เมื่อถึงสมัยรัชกาลที่ 4 พระองค์ถวายพระนามพระประธานว่า พระพุทธมหาโลกาภินันทปฏิมา พระวิหารหลวง หรือเรียกกันว่า วิหารพระศิลาขาว อยู่ด้านทิศใต้ของพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานศิลา รัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญมาเมื่อปี พ.ศ. 2401 เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย พร้อมด้วยพระอัครสาวกซ้ายขวา เป็นพระศิลานั่งพับเพียบซึ่งปัจจุบันเหลืออยู่เพียงองค์เดียว พระเจดีย์ อยู่ทางทิศตะวันตกของพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงกลม หรือทรงระฆัง เรียกกันว่าทรงลังกา เนื่องจากได้รับแบบอย่างมาจากลังกา พร้อมการเผยแพร่เข้ามาของพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ มีฐานแปดเหลี่ยมสองชั้นสูง 45 เมตร ภายในประดิษฐานพระบรมธาตุ ถาวรวัตถุอื่นที่สำคัญ เช่น การเปรียญหลวง อาคารแบบผสมระหว่างอาคารทรงไทยกับเครื่องบนหลังคาแบบจีน ลักษณะเป็นตึกทรงโรงมีเสาอยู่ข้างใน ภายในประดิษฐานพระชัยวัฒน์ ซึ่งหาชมได้ยาก นอกจากนี้ มี กุฏิทรงไทย อยู่ด้านเหนือเขตพุทธาวาสจำนวน 20 หลัง เป็นเรือนไทยภาคกลางใต้ถุนสูง กำแพงแก้วและป้อมปราการ เป็นกำแพงก่ออิฐถือปูน มีใบเสมาเหมือนกับกำแพงพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีป้อมปราการทั้งสี่มุมซึ่งมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมี พระศรีมหาโพธิ์ ต้นโพธิ์พันธุ์พุทธคยาซึ่งได้มาสมัยรัชกาลที่ 4
มาตรการด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย
ทัวร์ 9 วัด นนทบุรี เดินสายขอพรเอาสิริมงคล
1. วัดเขมาภิรตารามเป็นอารามหลวงชั้นโท ได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น วัดแห่งนี้มีมหาเจดีย์ใช้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุซึ่งมีความสูง 30 เมตรอยู่ด้า...
22 วัดสวยๆ ทั่วไทย ในมุมสูง 2019
โปรดติดตามตอนต่อไป มีอับเดทเรื่อยๆ ครับ 1. วัดภูมินทร์ จ.น่าน ชมวิหารไทลื้อ จิตรกรรมฝาผนังระดับโลก ภาพกระซิบรัก ไหว้พระประธาน แวะช็อปซื้อสินค้าพื้นเม...
เที่ยวชมวัฒนธรรมมอญ ที่เกาะเกร็ด
การล่องเรือชมวิถีชีวิตชุมชนมอญเกาะเกร็ด เริ่มต้นที่ท่าน้ำวัดปรมัยยิกาวาส สัญลักษณ์ของวัดคือ พระเจดีย์มุเตา เป็นเจดีย์ทรงรามัญ ก่อนลงเรือ...