พะเยา ต้องเที่ยว

พะเยา ต้องเที่ยว

1.วนอุทยานภูลังกา

มีความสูง 1,720 ม. จากระดับน้ำทะเล จากยอดดอยสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ยามเข้าฤดูหนาวจะมีทะเลหมอก ส่วนตอนเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ตกลับเหลี่ยมเขา อากาศเย็นสดชื่อตลอดทั้งปี โดยจะหนาวจัดในฤดูหนาว

2.วัดศรีโคมคำ

ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองพะเยา ถนนพหลโยธิน ห่างจากตัวเมืองไปทางเหนือประมาณ ๑,๐๐๐ เมตร ด้านทิศใต้ - ทิศตะวันตก ติดกับกว๊านพะเยา ทิศเหนือ – ตะวันออก ติดกับถนนพหลโยธิน เริ่มก่อสร้างองค์พระประธาน (พระเจ้าตนหลวง) เมื่อ พ.ศ. ๒๐๓๔ มาสำเร็จบริบูรณ์เมื่อ พ.ศ. ๒๐๖๗ ประมาณ ๓๓ ปี จัดเป็นวัดโดยสมบูรณ์ การก่อสร้างในสมัยนั้น พระเมืองตู้ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยาผู้ทรงอุปถัมภ์

3.วัดอนาลโยทิพยาราม

จากยอดดอยสามารถชมทัศนียภาพของกว๊านพะเยา และตัวเมืองของพะเยาได้อย่างสวยงาม บริเวณลานจอดรถข้างล่างมีร้านขายของที่ระลึก เช่น กระเป๋า และของที่ระลึก ประเภทต่าง ๆ สามารถขึ้นวัดอนาลโยได้ 2 ทางคือ ทางรถยนต์และทางบันได มีที่พักแบบรีสอร์ทอยู่บนวัด

4.วัดพระนั่งดิน

พระเจ้านั่งดินองค์นี้ ไม่ได้ประทับบนฐานชุกชีเหมือนกับพระพุทธรูปในอุโบสถวัดอื่นๆ มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เคยมีชาวบ้านพากันสร้างฐานชุกชี แล้วอัญเชิญพระเจ้านั่งดินขึ้นประทับแต่มีเหตุปาฏิหาริย์เกิดฟ้าผ่าลงมาที่อุโบสถถึง 3 ครั้ง พุทธบริษัททั้งหลายจึงอาราธนามประดิษฐาน บนพื้นดินดังเดิมตราบเท่าทุกวันนี้

5.วัดติโลกอาราม

เป็นพระอารามหลวงในรัชสมัยพระเจ้าติโลกราช กษัตริย์ล้านนาลำดับที่ 9 มีพระพุทธรูปหินทราย ปางมารวิชัย กลางน้ำ เวียนเทียนกลางน้ำ ในวันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา และวันอาสาฬหบูชา

6.กว๊านพะเยา

เกิดจาการยุบตัวของเปลือกโลกเมื่อประมาณ 70 ล้านปีมาแล้วเป็นแอ่งน้ำซึ่งเป็นที่รวบรวมของลำห้วยต่างๆ 18 สาย ต่อมาในปี 2478 กรมประมงได้ตั้งสถานีประมงน้ำจืดจังหวัดพะเยาขึ้น บริเวณ ต้นแม่น้ำอิงและสร้างฝายกั้นน้ำทำให้เกิดเป็นบึงขนาดใหญ่ มีความลึกเฉลี่ย 1.5 เมตร คำว่า "บึง" ภาษาพื้นเมือง เรียกว่า "กว๊าน"

7.วัดศรีจอมเรือง พะเยา

ประตูโขงของวัดเป็นศิลปะไทยใหญ่ เข้าไปภายในวัดมีศาลาการเปรียญหนึ่งหลังและมีอนุสาวรีย์เจ้าแม่กวนอิมเป็นที่บูชา ที่สำคัญ คือวิหารและพระอุโบสถเป็นหลังเดียวกัน ภายในมีพระพุทธรูปศิลปะล้านนา ลงรักปิดทองภายในวิหารติดกระจกเล็กๆลวดลายสวยงาม ด้านหลังอุโบสถ ก็จะเป็นเจดีย์ศิลปะใหญ่ มีซุ้มจรนำทั้งสี่ด้าน  ฐานกว้างยาวราวสัก 20 เมตร

8.อนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง

อดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองภูกามยาวลำดับที่ 9 ระหว่างปี พ.ศ. 1801-1841 เป็นยุคที่เจริญรุ่งเรืองมากประดิษฐานอยู่ที่สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพะเยา (สวนสมเด็จย่า 90) หน้ากว๊านพะเยาเป็นพระสหายร่วมน้ำสาบานกับพ่อขุนเม็งรายแห่งเมืองเชียงรายและพ่อขุนรามคำแหงแห่งกรุงสุโขทัย ซึ่งทั้งสามพระองค์ได้กระทำสัตย์ต่อกัน ณ บริเวณแม่น้ำอิง ซึ่งปัจจุบันอยู่บริเวณสถานีประมงน้ำจืดพะเยา พ่อขุนงำเมืองเป็นผู้ทรงอิทธิฤทธิ์กล่าวกันว่าเมื่อพระองค์เสด็จไปทางไหน "แดดก็บ่อฮ้อน ฝนก็บ่อฮำจักให้แดดก็แดด จักให้บดก็บด" จึงได้พระนามว่างำเมือง

9.ศูนย์วัฒนธรรมไทยลื้อ

เป็นศูนย์แสดงผลงานทางศิลปวัฒนธรรม และฝึกอาชีพของชาวไทยลื้อ โดยเฉพาะผ้าของชาวไทยลื้อที่มีลวดลายและสีสันสดใส

10.วัดพระธาตุสบแวน

เป็นที่ประดิษฐานองค์พระธาตุเจดีย์ที่มีอายุเก่าแก่มาก คาดว่าอายุราว 800 ปี ภายในบรรจุเส้นพระเกศา และกระดูกส่วนคางของพระพุทธเจ้า องค์พระธาตุได้รับการบูรณะมาหลายครั้ง แต่ยังคงรักษาสภาพศิลปะแบบล้านนาไทยไว้ได้