เพิ่มรูป แก้ไข View : 3,597

ท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง

ท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง
  • ท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง

1.สะพานอัษฎางค์

สะพานอัษฎางค์เป็นสถานที่ประทับใจ มีแนวทอดยาวไปถึงทะเลทำให้มองเห็นทะเลและท้องฟ้าสวยงามมากเลย และสิ่งที่ทำให้สะพานอัษฎางค์เป็นสะพานที่น่าสนใจก็เพราะว่าด้วยเอกลักษณ์ที่ตัวสะพานเป็นสีขาวทอดยาวไปจนถึงทะเลบวกกับแบบที่สร้างเป็นแบบคลาสสิคทำให้ได้บรรยากาศที่สุด

สะพานอัษฎางค์

 

2.ช่องเขาขาด

มีลักษณะเป็นช่องเขาที่ขาดออกจากกัน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม และมีหาดซึ่งมีหินก้อนกลมเกิดจากในช่วงเดือน มี.ค. - ก.ย. ของทุกปี จะมีลมพัดจากทิศตะวันตกไปทางทิศตะวันออก ชาวบ้านเรียกว่า "ลมนอก" ทำให้หินทางฝั่งตะวันตกมีผิวเรียบและกลมเกลี้ยง จึงเป็นที่มาของชื่อหาดว่า "หาดหินกลม" ตรงช่องเขาขาดยังมีพลับพลาของรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงใช้เป็นหอสำหรับดูดาวอยู่ด้วย

ช่องเขาดขาด

 

3.ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่

ภายในมีเจ้าพ่อเห้งเจีย ศาลเจ้าแม่กวนอิม วิหารพระสังกัจจายน์ ฯลฯ เป็นที่เคารพสักการะของชาวเกาะสีชัง และชาวไทยเชื้อสายจีน จะเห็นได้จากในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีคนมาบวงสรวงกราบไหว้อย่างเนืองแน่น เชื่อกันว่าถ้าใครได้มาไหว้ติดต่อกันครบสามครั้งภายในสามปีจะรวย

ถ้ำเจ้าพ่อเขาใหญ่

 

4.พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน

พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน เป็นอาคารแสดงนิทรรศการของสถาบันวิจัยทรัพยากรทางน้ำ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับระบบนิเวศน์ และทรัพยากรทางทะเลของเกาะสีชัง เช่น ระบบนิเวศหาดหิน หาดทราย พันธุ์สัตว์น้ำ และปะการัง ฯลฯ ด้วยระบบสื่อจัดแสดงปฏิสัมพันธ์ ซึ่งผู้ชมจะได้รับความรู้ และความเพลิดเพลินในการชม

พิพิธภัณฑ์ชลทัศนสถาน

 

5.ถ้ำจักรพงษ์

เป็นถ้ำเล็กๆ ตั้งอยู่ที่บนไหล่เขาช่วงกลางของเกาะสีชัง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ เหนือถ้ำขึ้นไปบนยอดเขามีพระพุทธรูปปางสมาธิองค์ใหญ่ เรียกว่า พระเหลือง องค์พระสามารถมองเห็นได้จากระยะไกลในขณะนั่งเรือ ใกล้กับเก๋งจีน ภายในถ้ำประดิษฐานพระพุทธรูป มีปล่องสำหรับขึ้นไปยังยอดเขาเพื่อมองวิวทิวทัศน์ของเกาะสีชังได้

ถ้ำจักรพงษ์

 

6.พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์

พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์ พระที่นั่งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านทรงโปรดเกล้าวาง ศิลาฤกษ์ในปี พ.ศ.2435 แต่ขณะที่กำลังก่อสร้างพระที่นั่งองค์นี้ ได้เกิดเหตุความไม่สงบ ร.ศ.112 ขึ้น ต่อมาพระองค์ท่านได้มีพระราชองค์การรับสั่งให้รื้อพระที่นั่งองค์นี้ แล้วมาสร้างในพระราชวังสวนดุสิต กรุงเทพมหานคร และพระราชทานนาม ใหม่ว่า พระที่นั่งวิมานเมฆ ซึ่งองค์พระที่นั่งเป็นเรือนไม้สักทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระจุฑาธุชราชสถานปัจจุบันเหลือเพียงฐาน ของอาคารซึ่งเป็นคานคอดินที่เหลือให้ได้จินตนาการว่า องค์พระที่นั่งวิมานเมฆได้เคยก่อสร้างเป็นอาคารริมทะเลที่สวยงามอย่างมาก

พระที่นั่งมันธาตุรัตนโรจน์

 

7.พระจุฑาธุชราชฐาน

อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หลังจากเหตุการณ์ ร.ศ.112 ก็สิ้นสุดการเป็นเขตพระราชฐาน และมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาขอใช้พื้นที่ ปัจจุบัน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอใช้พื้นที่บางส่วนเพื่อเป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิต และทำหน้าที่ดูแลรักษาพระจุฑาธุชราชฐานไปในคราวเดียวกัน

พระจฑาธุชราชฐาน

 

8.บริเวณพระราชฐานเก่า

บริเวณพระราชฐานเก่า อยู่ติดทะเลบริเวณโดยรอบร่มรื่นมาก ได้สร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 เคยเป็นพระตำหนักที่ประทับของพระราชโอรสและพระราชธิดา เมื่อคราวเสด็จไปพักฟื้นหลังประชวรในเขตพระราชอุทยานมีบ่อน้ำขนาดใหญ่หลายแห่ง บ่อเหล่านี้ยังมีสภาพดีอยู่ แต่ละบ่อได้รับพระราชทานชื่ออย่างไพเราะ เช่น บ่ออัษฎางค์ บ่อพิศเพลิน เป็นต้น

บริเวณพระราชฐานเก่า

 

ที่เที่ยวแนะนำ

-- ดูเพิ่ม --