“ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่น่า
ที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่
แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๔

ข้าพเจ้าจะปลูกต้นไม้ถวายในหลวง

“ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย
ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร
ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้เพราะสถาบันต่าง ๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ
และอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม ในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

สถาบันพระมหากษัตริย์จะนำพาแสงสว่างและอนาคตมาสู่ประเทศ

พระองค์ทรงเป็นพ่อของแผ่นดิน

“ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น
มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆฝ่าย ทุกๆคน
ที่จะต้องร่วมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

จะขอเป็นข้าฝ่าพระบาททุกชาติไป

“การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบ
มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุข
ของส่วนร่วมด้วย”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔

การกระทำความดี ถึงแม้จะเห็นผลช้าแต่ก็ทำให้มีความสุขสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน

“ความรู้ในวิชาการ เป็นสิ่งหนึ่งที่จะทำให้สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ และทำให้เป็นคนที่มีเกียรติ เป็นคนที่สามารถ
เป็นคนที่มีความพอใจได้ในตัวว่า ทำประโยชน์แก่ตนเองและแก่ส่วนรวม นอกจากวิชาความรู้
ก็จะต้องฝึกฝนในสิ่งที่ตัวต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับสังคม สอดคล้องกับสมัยและสอดคล้องกับศีลธรรมที่ดีงาม
ถ้าได้ทั้งวิชาการ ทั้งความรู้รอบตัว และความรู้ในชีวิต ก็จะทำให้เป็นคนที่ครบคน ที่จะภูมิใจได้”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเนื่องในโอกาสวันปิดภาคเรียนของโรงเรียนจิตรลดา ๒๕ มีนาคม ๒๕๑๕

ทุกข์ของประชาชน คือทุกข์ของพ่อของแผ่นดินด้วย

“จิตใจและความประพฤติที่สะอาดและมีระเบียบ เป็นรากฐานสำคัญของชีวิตจิตใจทั้งความประพฤติดังนั้นใช่จะเกิดมีขึ้นเองได้
หากแต่จำเป็นต้องฝึกหัดอบรมและสนับสนุนส่งเสริมกันอย่างจริงจังสม่ำเสมอ นับตั้งแต่บุคคลเกิด
ดังที่มนุษย์ไม่ว่าชาติใดภาษาใด ได้เฝ้าพยายามกระทำสืบต่อกันมาทุกยุคทุกสมัย ทั้งเพื่อให้สามารถรักษาตัวและมีความสุข
ความสำเร็จในการครองชีวิต ทั้งให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ ด้วยความผาสุกสงบ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการสัมมนาของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เรื่อง การพัฒนาสังคมในด้านศีลธรรมและจิตใจ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๑๖

พระองค์ทรงงานหนักและเหนือย เพื่อให้ราษฎรของพระองค์มีความร่มเย็นเป็นสุข

“ความสามัคคีนั้น อาจหมายความถึงเห็นชอบเห็นพ้องกันโดยไม่แย้งกัน ความจริงงานทุกอย่างหรือการอยู่
เป็นสังคมย่อมต้องมีความขัดแย้งกัน ความคิดต่างกัน ซึ่งไม่เสียหาย แต่อยู่ที่จิตใจของเรา ถ้าเราใช้หลักวิชา
และความปรองดองด้วยการใช้ปัญญา การแย้งต่าง ๆ ย่อมเป็นประโยชน์ หากมีรากฐานของความคิดอย่างเดียวกัน
รากฐานของความคิดนั้นคือ แต่ละคนจะต้องทำให้บ้านเมืองมีความมีความเป็นปึกแผ่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพรเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ มีพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๑๗

ในหลวงคือพ่อของแผ่นดิน

“สามัคคี คือการเห็นแก่บ้านเมือง และช่วยกันทุกวิธีทาง เพื่อที่จะสร้างบ้านเมืองให้เข้มแข็ง ด้วยการเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตแย่งตรงไปตรงมา นึกถึงประโยชน์ส่วนรวมนั้นคือความมั่นคงของบ้านเมือง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีประดับยศนายตำรวจชั้นนายพล ๑๕ มกราคม ๒๕๑๙

พระองค์ทรงเป็นที่รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย

ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ยืนหยัด ยิ่งใหญ่ ยืนยง

“คนเราอยู่คนเดียวไม่ได้ จะต้องอยู่เป็นหมู่คณะ และถ้าหมู่คณะนั้นมีความสามัคคี คือเห็นอกเห็นใจ
ซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือในทุกเมื่อ ช่วยกันคิดว่าสิ่งใดควร สิ่งใดไม่สมควร สิ่งใดที่จะทำให้นำมาสู่ความเจริญ
ความมั่นคง ความสุขก็ทำ สิ่งใดที่นำมาซึ่งหายนะหรือเสียหายก็เว้น และช่วยกันปฏิบัติทั้งหน้าที่ทางกายทั้งหน้าที่ทางใจ”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานธงประจำรุ่นลูกเสือชาวบ้าน จังหวัดสระบุรี
๑๖ เมษายน ๒๕๑๙

ชาติไทยร่มเย็นอยู่ได้ ก็เพราะพระบารมีของพระองค์ท่าน

“ความเจริญของคนทั้งหลาย ย่อมเกิดมาจากประพฤติชอบและการหาเลี้ยงชีพชอบ เป็นหลักสำคัญ
ผู้ที่จะสามารถประพฤติชอบและหาเลี้ยงชีพชอบได้ด้วยนั้น ย่อมจะมีทั้งวิชาความรู้ ทั้งหลักธรรมทางศาสนา
เพราะสิ่งแรกเป็นปัจจัยสำหรับใช้กระทำการทำงาน สิ่งหลังเป็นปัจจัยสำหรับส่งเสริมความประพฤติ
และการปฏิบัติงานให้ชอบคือให้ถูกต้องและเป็นธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ครูโรงเรียนราษฎร์สอนศาสนาอิสลาม
๔ จังหวัดภาคใต้ จังหวัดปัตตานี ๒๔ สิงหาคม ๒๕๑๙

เป็นทั้งประมุขและปิตุเลศ นรเทิด ณ เกศี

พ่อหลวง คือ พ่อเรา

พ่อหลวง คือผู้ให้

“การมีเสรีภาพนั้นเป็นของดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบ
มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนรวมด้วย มิฉะนั้น จะทำให้มีความยุ่งยาก จะทำสังคมและชาติประเทศต้องแตกสลายจนสิ้นเชิง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แถลงการณ์ สภาการวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (สวชพ.) เรื่อง “การใช้เสรีภาพเพื่อความปรองดองสมานฉันท์” เนื่องในวันนักข่าว ๕ มีนาคม ๒๕๒๐

พระปรีชาสามารถกว้างสกลไกร ไพรัชเทศประจักษ์ใจทั่วด้าว

พ่อหลวง คือผู้พอเพียง

“คนไทย รักษาชาติ รักษาแผ่นดิน เป็นปึกแผ่นมั่นคงมาได้ ด้วยสติปัญญาความสามารถ และด้วยคุณความดี
อิสรภาพ เสรีภาพ ความร่มเย็นเป็นสุข ตลอดจนความเจริญ ทุกอย่างที่มีอยู่บัดนี้ เราทั้งหลายในปัจจุบัน
จึงต้องถือเป็นหน้าที่รับผิดชอบอย่างสำคัญ ในอันที่จะรักษาคุณความดี พร้อมทั้งจิตใจที่เป็นไทยไว้ให้มั่นคงตลอดไป”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๑

พ่อหลวง คือพ่อที่รัก

พ่อหลวง คือผู้ชี้ทาง

พ่อหลวง คือยิ่งใหญ่

พ่อหลวง คือพ่อพระในปวงชน

พ่อหลวง คือ พ่อที่รักของเราทุกคน

รักในหลวง ห่วงบ้านเมือง ไม่ควรกระด้างกระเดื่องต่อสถาบัน

“บรรพ ชนไทย เป็นนักต่อสู้ ผู้มีชีวิตจิตใจผูกพันปรองดอง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน สามัคคีพร้อมเพรียงกันทุกเมื่อ
ไม่ว่าจะทำการสิ่งใด บ้านเมืองไทยจึงมีเอกราชอธิปไตย และมีความสุขความสมบูรณ์ทุกอย่างมาจนกระทั่งทุกวันนี้”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีสวนสนามของทหารรักษาพระองค์
ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๒

พ่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย

หยาดเหงื่อของพ่อหลวงเพื่อสันติสุขของชาวไทย

“เป็นความจริงอยู่โดยธรรมดา ที่บุคคลในสังคมนั้นย่อมมีอัชฌาสัยจิตใจแตกต่างเหลื่อมล้ำกันเป็นหลายระดับ
ขึ้นอยู่กับพื้นฐานภูมิธรรมของตน บางคนก็มีความคิดจิตใจสูง มีความประพฤติปฏิบัติดีงาม
เป็นคุณเป็นประโยชน์อยู่แล้วเป็นปกติ แต่บางคนไม่สามารถจะทำเช่นนั้นได้ เพราะยังไม่เห็นคุณค่าของการปฏิบัติดี
จึงมักก่อปัญหาให้เกิดแก่สังคม คนเรานั้น สำคัญอยู่ที่ควรจะได้ปรารภปรารถนาที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเป็นลำดับ
เพื่อให้ชีวิตเป็นสุข และเจริญรุ่งเรือง”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในพิธีเปิดการประชุม
ยุวพุทิกสมาคมทั่วประเทศ ครั้งที่ ๑๖ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๒๔

ท่านทรงเป็นกษัตริย์นักพัฒนา

“การ มีวินัย มีความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ ถือกันว่าเป็นคุณสมบัติสำคัญประจำตัวของคนทุกคน
แต่ในการสร้างเสริมคุณสมบัติ ๓ ข้อนี้ จะต้องไม่ลืมว่า วินัย สามัคคี และหน้าที่นั้นเป็นได้ทั้งในทางบวกและทางลบ
ซึ่งย่อมให้คุณหรือให้โทษได้มากเท่า ๆ กัน ทั้ง ๒ ทาง เพราะฉะนั้น เมื่อจะอบรม จำเป็นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้
แน่ชัดก่อนว่า เป็นวินัยสามัคคีและหน้าที่ดีคือ ปราศจากโทษ เป็นประโยชน์ เป็นธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๑๒
กรกฎาคม ๒๕๒๖

หยาดเหงื่อท่านสละให้ เวลาไหนก็เฝ้าห่วง ไม่ท้อไม่ทักท้วงทำเพื่อปวงประชา

เมตตา ธรรม เปี่ยมฟ้า ล้นมหาชลาลัย ปิตุรงค์คือธงชัย ปกเกศไทยเกรียงไกลกาล

ปวงประชาร่มเย็นด้วยพระบารมี

พ่อหลวงทรงเป็นนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่

“ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทยนี้ เป็นสิ่งที่มีค่าสูงสุด เพราะเป็นมรดกที่ตกทอดมาจาก
บรรพบุรุษของเรา และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เรารวมกันอยู่ได้ ให้เราดำรงชาติประเทศและเอกราชสืบมาได้
ทุกคนควรจะได้พยายามรักษาความเป็นไทย และความสามัคคีนี้ไว้ให้มั่นคงในที่ทุกแห่ง อย่ายอมให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดมาทำลายได้”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในงานชุมนุมประจำปี
ของสมาคมนักเรียนไทยในสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมัน ๑ กันยายน ๒๕๒๖

ความดีที่พ่อทำ ลูกขอจดจำ ความดีที่พ่อให้ จะจงรักภักดี ตลอดไป

ทรงรัก ทรงเป็นห่วง ปวงประชาของท่านตลอดเวลา

“การทำความดีนั้น โดยมากเป็นการเดินทวนกระแสความพอใจและความต้องการของมนุษย์
จึงทำได้ยากและเห็นผลช้า แต่ก็จำเป็นต้องทำ เพราะหาไม่ ความชั่ว
ซึ่งทำได้ง่ายจะเข้ามาแทนที่ แล้วจะพอกพูนขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันรู้สึกตัว”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานกระบี่และปริญญาบัตรแก่ว่าที่ร้อยตำรวจตรีฯ
โรงเรียนนายร้อยตำรวจฯ ๑๐ มีนาคม ๒๕๒๙

“ความจงรักภักดีต่อชาตินั้น คือความสำนึกตระหนักในคุณของแผ่นดิน อันเป็นที่เกิดที่อาศัย
ซึ่งทำให้บุคคลเกิดความภูมิใจในชาติกำเนิด และมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาประเทศชาติไว้ ให้เป็นอิสระมั่นคงตลอดไป”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณและสวน สนามของทหารรักษาพระองค์ ณ ลานพระราชวังดุสิต ๓ ธันวาคม ๒๕๒๙

“ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังมีทรัพยากรพร้อมมูล ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรบุคคล
ซึ่งเราสามารถนำมาใช้เสริมสร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสถียรภาพอันถาวรของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
ข้อสำคัญ เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรนั้นอย่างฉลาด คือไม่นำมาทุ่มเทใช้ให้เปลืองไปโดยไร้ประโยชน์
หรือได้ประโยชน์ไม่คุ้มค่า หากแต่การระมัดระวังใช้ด้วยความประหยัดรอบคอบ ประกอบด้วยความคิดพิจารณาตามหลักวิชา
เหตุผล และความถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งถึงประโยชน์แท้จริงที่จะเกิดแก่ประเทศชาติ ทั้งในปัจจุบันและอนาคตอันยืนยาว”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๒๙

“บ้านเมืองไทย สามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่าง ๆ ได้โดยดี เพราะว่าจิตใจสามัคคีและแสดงออกซึ่งสามัคคี
ถ้าตราบใดเรารักษาความสามัคคี ความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันไว้ได้ เราก็จะอยู่ได้อย่างมีความสุขตราบนั้น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะประชาชนจังหวัดราชบุรี
พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๓๑

พ่อเป็นภูมิพลัง ภูมิปัญญา และวิถีชีวิตไทย

กษัตริย์ ผู้ทรงธรรม พระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าฯ ชาวไทย

“การที่คนสมัยใหม่บอกว่าคนสมัยเก่ามีความรู้น้อยก็อาจเป็นจริง แล้วคนสมัยใหม่ดูถูกหรือเหยียดหยามคนสมัยเก่าก็มีสิทธิ์
แต่ถ้าพูดตามความจริงแล้ว สิทธิ์ที่จะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าไม่ควรจะมี ด้วยเหตุว่าคนรุ่นเก่านี้เองทำให้คนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาได้”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๑

ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท จะขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป

“ความสามัคคีปรองดองเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับความรักใคร่เผื่อแผ่ช่วยเหลือกันฉันญาติพี่น้อง
สองประการนี้ คือคุณลักษณะสำคัญของไทย ที่ช่วยให้ชาติบ้านเมืองอยู่รอดเป็นอิสระ และเจริญมั่นคง มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๒๕๓๒

รวมใจภักดิ์ รัก ในหลวง

“ในการปฏิบัติงานนั้น ย่อมมีปัญหาต่าง ๆ เกิดขึ้นได้เสมอ เมื่อปัญหาเกิดขึ้นต้องแก้ไข อย่าทิ้งไว้พอกพูนลุกลามแก้ยาก
ขอให้ทุกคนระลึกว่าปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆ
คนหลายๆทาง ด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง
และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จของการงาน”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๓

เป็นทั้งประมุขและปิตุเลศ นรเทิด ณ เกศี

“ต่างคนต่างมีหน้าที่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทำเฉพาะหน้าที่นั้น เพราะว่าถ้าคนใดทำหน้าที่เฉพาะของตัว
โดยไม่มองไม่แลคนอื่น งานก็ดำเนินไปไม่ได้ เพราะเหตุว่างานทุกงานจะต้องพาดพิงกันจะต้องเกี่ยวโยงกัน
ฉะนั้นแต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่นแล้วช่วยกันทำ”
พระราช ดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๓

พระมหากษัตริย์ ที่พรั่งพร้อมด้วย ทศพิธราชธรรม

“ความสามัคคี เป็นคุณสมบัติประจำตัวของคนไทย ที่ได้อบรมสืบทอดกันมาแต่บรรพบุรุษโดยไม่ขาดสาย
ทั้งนี้เพราะคนไทย ทราบตระหนักว่า หมู่คณะที่มีความสามัคคีแน่นแฟ้นสมบูรณ์ ย่อมมีกำลังกล้าแข็งทั้งในการคิดและการปฏิบัติ”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานในการประชุมใหญ่ สามัคคีสมาคม ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๓๔

“สามัคคี หรือการปรองดองกัน ไม่ได้หมายความว่าคนหนึ่งพูดอย่างหนึ่ง คนอื่นต้องพูดเหมือนกันหมด
ลงท้ายชีวิตก็ไม่มีความหมาย ต้องมีความแตกต่างกัน แต่ต้องทำงานให้สอดคล้องกัน แม้จะขัดกันบ้างก็ต้องสอดคล้องกัน”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ คณะบุคคลต่าง ๆ ในโอกาสวัน
เฉลิมพระชนมพรรษา ๔ ธันวาคม ๒๕๓๖

จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น จากผืนทรายกลับกลายเป็นดิน ด้วยพระบารมีของทั้ง สองพระองค์

“ผู้ที่จะรักษาความเป็นไทยได้มั่นคงที่สุด ดี และเหมาะสมที่สุด ไม่มีใครอื่นนอกจากคนไทย
เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะอยู่ ณ แห่งใด คนไทยมีหน้าที่ต้องรักษาความเป็นไทยเสมอ”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่สมาคมนักเรียนไทยในประเทศญี่ปุ่น ๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗

จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น จากผืนทรายกลับกลายเป็นดิน ด้วยพระบารมีของทั้ง สองพระองค์

“การที่ในประเทศใดมีประชาชนทั้งหมดอยู่ร่วมกัน โดยสันติ ก็เป็นสิ่งที่ปรารถนาของทุกคน
ไม่มีใครอยากให้มีความวุ่นวายในหมู่คณะในประเทศชาติ เพราะว่าถ้ามีความวุ่นวายนั้นเป็นความทุกข์
ทุกคนต้องการความสุขหากความสุขนั้นก็จะมาจากความปรองดอง และความที่ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปโดยยุติธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสที่รองประธานศาลฎีกานำผู้พิพากษาประจำกระทรวงเข้าเฝ้าฯ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๗

“สังคม ใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน
สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วยไมตรีจิต มิตรภาพ มีความร่มเย็นเป็นสุข น่าอยู่”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่ออัญเชิญลงพิมพ์ในนิตยสารที่ระลึกครบรอบ ๓๖ ปี
ของสโมสรไลออนส์กรุงเทพฯ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๘

ในหลวงพระองค์ทรงงาน หนักและเหนื่อย เพื่อราษฎรของพระองค์ให้เป็นสุข

“ความสุขความเจริญอันแท้จริงนั้น หมายถึง ความสุขความเจริญที่บุคคลแสวงหามาได้ด้วยความเป็นธรรม
ทั้งในเจตนาและการกระทำ ไม่ใช่ได้มาด้วยความบังเอิญหรือด้วยการแก่งแย่งเบียดบังมาจากผู้อื่น”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระราชพิธีกาญจนาภิเษกทรงครองราชย์ครบ ๕๐ ปี ๒๕๓๙

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำ และมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย

ความเสียหายของชาติจะบานปลาย ถ้าคนไทยขาดความจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์

“คนเราถ้าพอใจในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย ถ้าทุกประเทศ
มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียง หมายความว่าพอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่คณะบุคคลที่เข้าเฝ้าฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย ๔ ธันวาคม ๒๕๔๑

ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร

“บ้านเมืองของเรากำลังต้องการการปรับปรุงและการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพ ทางที่เราจะช่วยกันได้
ก็คือการที่ทำความคิดให้ถูกและแน่วแน่ ในอันที่จะยึดถือประโยชน์ของบ้านเมืองเป็นที่หมาย
ต้องเพลาการคิดถึงประโยชน์เฉพาะตัว และความขัดแย้งกันในสิ่งที่มิใช่สาระลง”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาสขึ้นปีใหม่ ๒๕๔๓

ขอเดินตามรอยเท้าพ่อหลวงตามรอยพระยุคลบาทเศรฐกิจพอเพียง

ขอเดินตามรอยเท้าพ่อหลวงตามรอยพระยุคลบาทเศรฐกิจพอเพียง

“คุณธรรม ข้อหนึ่งที่ยังมีอยู่อย่างบริบูรณ์ในจิตใจของคนไทยก็คือ การให้ การให้นี้ไม่ว่าจะให้สิ่งใด
แก่ผู้ใดโดยสถานใดก็ตาม เป็นสิ่งที่พึงประสงค์อย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องประสานไมตรีอย่างสำคัญ
ระหว่างบุคคลกับบุคคลและให้สังคมมี ความมั่นคงเป็นปึกแผ่นด้วยสามัคคีธรรม”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๔๕

“การใช้จ่ายอย่างประหยัดนั้น จะเป็นหลักประกันความสมบูรณ์พูนสุขของผู้ประหยัดเองและครอบครัว ช่วยป้องกันความขาดแคลนในวันข้างหน้า การประหยัดดังกล่าวนี้จะมีผลดีไม่เฉพาะแก่ผู้ที่ประหยัดเท่านั้น ยังเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติด้วย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๐๒

ถ้าทำงานด้วยความตั้งใจที่จะให้เกิดผลอันยิ่งใหญ่ คือความเป็นปึกแผ่นของประเทศชาติ ด้วยความสุจริตและด้วยความรู้ความสามารถ ด้วยจริงใจ ไม่นึกถึงเงินทองหรือนึกถึงผลประโยชน์ใดๆ ก็เป็นการทำหน้าที่โดยตรงและได้ทำหน้าที่โดยเต็มที่”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ ศึกษาธิการจังหวัดทั่วประเทศ ๑๓ ธันวาคม ๒๕๑๑

โปรดร่วมกันปกป้องพระเกียรติยศ และเผยแพร่พระราชกรณียะกิจเพื่อ “ในหลวง” ของพวกเรา

ขอให้องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอยู่คู่กับพื้นแผ่นดินไทยไปนานแสนนาน
พร้อมทั้งมีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงสมบูรณ์ เป็นมิ่งขวัญของปวงประชาราชตลอดกาล

ทุกพระองค์ทรงเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยเหนือสิ่งอื่นใด

ถ้าทุกคนสนใจในความรักประเทศชาติ รักษาความดีเอาไว้ ไม่ต้องไปตามอย่างในสิ่งที่เราเห็นว่าไม่น่าที่จะเจริญไม่น่าจะพัฒนา เราต้องรักษาแนวทางความคิดตามที่เรามีอยู่ แม้จะเป็นสิ่งที่ตกทอดมาแต่โบราณกาลจากปู่ย่าตายายของเรา แต่เป็นระเบียบการหรือเป็นวิธีการที่ดี จะไม่ล้าสมัย”
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสเสด็จฯ ไปทรงเยี่ยมวิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร ๑๓ มีนาคม ๒๕๑๔

ขอให้ทุกพระองค์ทรงพระเจริญ และเป็นมิ่งขวัญของชาวไทยตลอดกาล

“ชาติบ้านเมืองประกอบด้วยนานาสถาบัน อันเปรียบได้กับอวัยวะทั้งปวง ที่ประกอบกันขึ้นเป็นชีวิตร่างกาย ชีวิตร่างกายดำรงอยู่ได้ เพราะอวัยวะใหญ่น้อยทำงานเป็นปรกติพร้อมกันอย่างไร ชาติบ้านเมืองก็ดำรงอยู่ได้เพราะสถาบันต่างๆ ตั้งมั่นและปฏิบัติหน้าที่ของตนโดยพร้อมมูลอย่างนั้น”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ทหารบก ทหารเรือ ทหารอากาศ ตำรวจ และอาสาสมัครพลเรือนในพิธีตรวจพลสวนสนาม ในงานพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

ทุกข์ของราษฎร คือ ทุกข์ของพระองค์ท่าน

ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ และสมบัติของเราทุกคน และการดำรงรักษาชาติประเทศนั้น มิใช่หน้าที่ของบุคคลผู้ใดหมู่ใดโดยเฉพาะ หากแต่เป็นหน้าที่ของทุกๆ ฝ่าย ทุกๆ คน ที่จะต้องร่วมมือกระทำ พร้อมกันไปโดยสอดคล้องเกื้อกูลกัน”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพิธีตรวจพลสวนสนาม เนื่องในโอกาสพระราชพิธีรัชดาภิเษก ๘ มิถุนายน ๒๕๑๔

พระองค์ทรงเป็นแบบอย่างในการดำรงชีวิตแบบพอเพียง

ในหลวงทรงเป็นที่รักของคนทั่วประเทศในชาติ และทรงเป็นแบบอย่างในด้านต่างๆแก่คนไทย

“การมีเสรีภาพนั้น เป็นของที่ดีอย่างยิ่ง แต่เมื่อจะใช้ จำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ตามความรับผิดชอบ มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่นที่เขามีอยู่เท่าเทียมกัน ทั้งมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็นปกติสุขของส่วนร่วมด้วย”
พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานแก่ผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔

"เมื่อมีโอกาสและมีงานทำ ควรเต็มใจทำโดยไม่จำเป็นต้องตั้งข้อแม้ หรือเงื่อนไขอันใด ไว้ให้เป็นเครื่องกีดขวาง คนที่ทำงานได้จริงๆนั้น ไม่ว่าจะจับงานสิ่งใด ย่อมทำได้เสมอ ถ้ายิ่งมีความเอาใจใส่ มีความขยัน และ ความซื่อสัตย์สุจริต ก็ยิ่งจะช่วยให้ประสบผลสำเร็จในงานที่ทำสูงขึ้น" พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร วิทยาลัยเทคโนโลยีและอาชีวศึกษา 8 กรกฎาคม 2530

"...ปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลายๆคนหลายๆทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักได้ไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง และบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จ..."
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 13 กรกฎาคม 2533

''...การทำงานใด ๆ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งเป้าหมาย ขอบเขตและ หลักการไว้ให้แน่นอน เพราะจะช่วยให้สามารถ ปฏิบัติมุ่งเข้าสู่ผลสำเร็จได้โดยตรง และ ถูกต้องพอเหมาะพอดี เป็นการป้องกันและ ขจัดความล่าช้า ความสิ้นเปลือง ความเสียเปล่า ทุกอย่างได้อย่างสิ้นเชิง...''
พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 17 กรกฎาคม 2530

''...การทำงานให้สำเร็จขึ้นอยู่กับความ สุจริตกาย สุจริตใจ ด้วยความคิดเห็น ที่เป็นอิสระปราศจากอคติ และด้วยความถูกต้องตามเหตุตามผลจึง จะช่วยให้งานบรรลุจุดมุ่งหมาย และประโยชน์ที่พึงประสงค์โดยครบถ้วนแท้จริง...''
พระบรมราโชวาท พระราชทานในโอกาสวันข้าราชการพลเรือน 1 เมษายน 2528

๑ พระองค์ทรงมีแนวทางพระราชดำริในการพึ่งตนเองเพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้อย่างอิสระ มั่นคงและสมบูรณ์
๒ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนวทาง ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
๓ เราจงน้อมนำราชดำรัส ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ เป็น เครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ
๔ ในหลวงพระองค์ทรงหลั่งหยาดเหงื่อเพื่อคนไทย ให้มีความผาสุก
๕ ถ้าเราไม่เคารพรักในสถาบันชาติแล้ว ความปั่นป่วนระส่ำระสายก็จะเกิดตามมา
๖ ประวัติศาสตร์สอนให้เรารู้ว่าชาติใดขาดสามัคคีธรรมจะสูญเสียย่อยยับอับปางไปในที่สุด
๗ เรารักษาเอกราชอธิปไตยมาได้จนถึงทุกวันนี้ ด้วยความจงรักภักดีต่อสถาบันและความสมัครสมานสามัคคี
๘ หากเราทุกคนช่วยกันรักษาสถาบันหลักของชาติโดยทั่วกันจะช่วยให้บ้านเมืองมีความปกติเร ียบร้อยได้
๙ การกระทำความดี ถึงแม้จะเห็นผลช้าแต่ก็ทำให้มีความสุขสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน
๑๐ จะเป็นคนดีของชาติต้องรักเคารพยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ
๑๑ ปัญหาของชาติ เราคนไทยทุกคนต้องร่วมใจกันแก้ มิใช่มาซ้ำเติมหรือทำลาย
๑๒ ความเสียหายของชาติจะบานปลายถ้าคนไทยขาดความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๑๓ ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่านั้นที่จะทำให้ไทยได้ร่มเย็นและเป็นไท
๑๔ หากเราเคารพยึดมั่นยึดถือในสิ่งที่ดีเราก็จะได้สิ่งดี ๆ
๑๕ พระองค์ทรงงานหนักและเหนื่อย เพื่อให้ราษฎรของพระองค์ มีความร่มเย็นเป็นสุข
๑๖ ทุกข์ของประชาชน คือ ทุกข์ของพ่อของแผ่นดินด้วย
๑๗ ในหลวงของเราทรงเป็นมหาราชผู้ทรงธรรม ย่อมนำความเจริญร่มเย็นมาสู่ปวงชนชาวไทยผู้มีความจงรักภักดีอย่างแท้จริง
๑๘ ไทยเรามีสถาบันพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นองค์ประมุขปกครองประเทศมาช้านาน ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนทั้งชาติ
๑๙ เราชาวไทยจงร่วมใจกันถวายความจงรักภักดีให้กับในหลวงของเรา
๒๐ พระคุณพ่อของแผ่นดิน ล้นเหลือสิ้นจักพรรณา
๒๑ เราคงจะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน หากสิ้นกษัตริย์
๒๒ พระองค์ทรงเป็นมหาราชของการปกครองแผ่นดินโดยธรรม
๒๓ ปวงชนชาวไทยไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด มีสุขเสรีอยู่บนผืนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองภายใต้ร่มพระบารมี
๒๔ ในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
๒๕ ทรงลำบากพระวรกายเพื่อปวงชนชาวไทย
๒๖ บารมีพ่อแผ่ไปไกลทุกแห่งหน
๒๗ ทรงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วประเทศ
๒๘ บารมีพ่อเป็นแหล่งรวมใจของชาวประชา
๒๙ รักพ่อหลวงเกินสิ่งอื่นใด
๓๐ ทรงจัดตั้งโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
๓๑ แนะแนวทางในการสร้างทางด่วนเพื่อลดปัญหารถติด
๓๒ ขออภิวาทเบื้องบาทองค์พระบารมีชาวไทยแหนหวงยิ่งดั่งด วงชี
๓๓ ข้าพเจ้าจะทำความดีให้กับประเทศชาติ
๓๔ ข้าพเจ้าจะปลูกต้นไม้ถวายในหลวง
๓๕ ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำสอนของพ่อหลวง
๓๖ ในหลวงทรงเป็นผู้คิดค้นในการทำฝนเทียมเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรไทย
๓๗ พ่อหลวงของประชาคือนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่
๓๘ ในหลวงคือพ่อของปวงประชา
๓๙ ทรงปกครองแผ่นดินโดยทศพิศราชธรรม
๔๐ พระองค์ทรงเป็นที่รวมจิตใจของปวงชนชาวไทย
๔๑ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของแผ่นดิน
๔๒ ทรงติดตามสถานการณ์ภาคใต้อย่างใกล้ชิด
๔๓ ข้าพเจ้าจะทำความดีให้กับประเทศชาติ
๔๔ ข้าพเจ้าจะปลูกต้นไม้ถวายในหลวง
๔๕ ข้าพเจ้าจะปฏิบัติตามคำสอนของพ่อหลวง
๔๖ ในหลวงทรงเป็นผู้คิดค้นในการทำฝนเทียมเพื่อช่วยเหลือ เกษตรกรไทย
๔๗ พ่อหลวงของประชาคือนักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่
๔๘ ในหลวงมทรงได้นำหญ้าแฝกมาใช้ประโยชน์ในการรักษาหน้าดินได้ดี
๔๙ ทรงลำบากพระวรกายเพื่อปวงชนชาวไทย
๕๐ บารมีพ่อแผ่ไปไกลทุกแห่งหน
๑ ทรงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วประเทศ
๒ บารมีพ่อเป็นแหล่งรวมใจของชาวประชา
๓ ประเทศชาติจะพ้นวิกฤตเมื่อ คนไทยหันหน้าเข้าหากัน ร่วมสร้างความสมานฉันท์
๔ ทรงงานอย่างหนักในถิ่นทุรกันดาร ทั้งเหนื่อย แต่ก็เพื่อประชาชนของพระองค์ ร่วมในกันทำความดีถวายพระองค์ท่าน
๕ สถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติ
๖ รักเมืองไทยต้องสามัคคีรวมพลังกัน เพื่อประเทศไทยก้าวหน้า
๗ จะเกิดชาติไหนเราก็ไทยด้วยกัน
๘ รักสถาบันชาติ ศรัทธาสถาบันศาสนา เคารพซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์
๙ เพื่อชาติ เพื่อประเทศ เพื่อตัวเราเอง ร่วมสร้างความสามัคคี ณ บัดนี้ ก่อนจะสายเกินไป
๑๐ อุทิศทั้งกาย และใจ ไว้ซึ่ง ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๑๑ ยืนบนผืนแผ่นดินไทย รักกันไว้เถิด
๑๒ ประชาชนไทยต้องสามัคคีกันไว้ เพื่อประเทศไทยเจริญ
๑๓ เราจะสามัคคีกัน เพื่อประเทศชาติของเรา
๑๔ พระผู้ทรงธรรมคือ ในหลวงของเรา
๑๕ ความสามัคคีคือพลังอันยิ่งใหญ่ จะนำประเทศไทยไปสู่ความเจริญ
๑๖ ขวานไทย ใจหนึ่งเดียว
๑๗ หันหน้าเข้าหากัน คนไทยรักกัน
๑๘ พระองค์ทรงเป็นมหาราชปกครองแผ่นดินโดยธรรม
๑๙ ทรงเป็นมิ่งขวัญของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ทรงเป็นพ่อของแผ่นดินสยาม
๒๐ ร่วมเทิดไท้องค์ราชัน ทำความดีเพื่อพ่อหลวง และร่วมกันสร้างความสามัคคีเพื่อนำพาประเทศก้าวไกลอย่างมั่นคง
๒๑ อย่าแตกแยกกันเลยขวานไทยใจหนึ่งเดียวรักพ่อหลวงหยุดทะเลาะกัน
๒๒ ทรงนำเศรษฐกิจพอเพียงหล่อเลี้ยงชีวาเป็นปรัชญาเกริกฟ้าก้องปฐพี
๒๓ ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
๒๔ ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ตั้งมั่นในทศพิธราชธรรม ทรงอุทิศชีวิตทั้งชีวิตเพื่อประเทศชาติ
๒๕ เกิดมาใช่อื่นเพื่อผืนดินไทย เทิดทูนไว้องค์เหนือหัว
๒๖ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวทางพระราชดำริให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๒๗ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวทางพระราชดำริให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๒๘ ความจงรักภักดีต่อสถาบันอันสูงสุด ถือว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของคนไทยทุกคน
๒๙ ในหลวงพระองค์ทรงไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์ แม้พระองค์จะทรงงานหนักและเหนื่อยมานาน
๓๐ รักพ่อเชื่อฟังพ่อก็อยู่รอดโดยปลอดภัย รักไทยหวงแหนไทยรักษาชาติ ศาสน์ ราชัน
๓๑ ขอให้พระองทรงพระเชนมายุยิ่งยืนนาน อยู่กับชาวไทยตลอดไป
๓๒ ข้าพระพุทธเจ้าขอรับใช้ใต้พระบาทตลอดกาลนาน
๓๓ ในหลวงทรงเป็นที่พึ่งของคนไทยทั้งชาติ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
๓๔ พระมหากษัตริย์คือพระเจ้าของแผ่นดิน ทรงอยู่คู่บ้านคู่เมือง ตลอดกาล
๓๕ ในหลวงทรงเป็นในหลวงของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ทำงานอะไรนับถือศาสนาใด
๓๖ หากเราเดินตามรอยเบื้องพยุคลบาท เราจักไม่พลั้งพลาดในการดำรงตน
๓๗ ในหลวงทรงเป็นที่พึ่งของคนไทยทั้งชาติ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ
๓๘ พระมหากษัตริย์คือพระเจ้าของแผ่นดิน ทรงอยู่คู่บ้านคู่เมือง ตลอดกาล
๓๙ ในหลวงทรงเป็นในหลวงของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ทำงานอะไรนับถือศาสนาใด
๔๐ หากเราเดินตามรอยเบื้องพยุคลบาท เราจักไม่พลั้งพลาดในการดำรงตน
๔๑ เพียงพอ” “พออยู่พอกิน” ทำให้คนไทยทุกคนได้รู้จักยืนอยู่ได้ด้วยตนเอง
๔๒ ราชันราชินีบารมีคู่แผ่นดิน หากแม้นไทยเราสิ้นจะสูญสิ้นแผ่นดินธรรม
๔๓ จะขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป
๔๔ รวมใจภักดิ์ รัก ในหลวง
๔๕ ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่านั้นที่จะทำให้ไทยได้ร่มเย็นและเป็นไทย
๔๖ ทุกข์ของประชาชน คือ ทุกข์ของพ่อของแผ่นดินด้วย
๔๗ เราคงจะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน หากสิ้นกษัตริย์
๔๘ หากสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน สิ้นกษัตริย์ เราจักไม่มี อะไรเหลือไว้เป็นมรดกของลูกหลานไทยเราอีกเลย
๔๙ หากเรารักษาสถาบันสูงสุดของเราไว้ เราก็จะรักษาแผ่นดินอันเป็นที่รักยิ่งและหวงแหนของเราไว้ได้
๕๐ “เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริที่ทำให้ประชนได้รับประโยชน์มีความผาสุก มั่นคงและยั่งยืนสืบไป
๖๑ ในหลวงทรงเป็นในหลวงของทุกคน ท่านย่อมจะไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะทุกคนล้วนเป็นพสกนิกร
๖๒ ประเทศไทยรวมเลือดเนื้อชาติเชื้อไทย
๖๓ พระบารมีพ่อหลวงทรงห่วงปวงประชา
๖๔ เดินตามรอยพ่อเศรษฐกิจพอเพียงเลี้ยงประชา
๖๕ การกระทำความดี ถึงแม้จะเห็นผลช้าแต่ก็ทำให้มีความสุขสมบูรณ์ได้อย่างยั่งยืน
๖๖ ความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เท่านั้นที่จะทำให้ไทยได้ร่มเย็นและเป็นไท
๖๗ ความสามัคคีก่อให้เกิดความมีชัยจงรวมใจเทิกทูนพระราชวงศ์ จงทรงพระเจริญ
๖๘ พระองค์ทรงเป็นมหาบพิตรที่สถิตในดวงใจของปวงประชา
๖๙ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวพระราชดำริ ให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๗๐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิทรงย่อท้อเข้าไปช่วยเหลือราษฎรไม่ว่าจะอยู่ห่างไกลสักเพียงใดไม่ว่าเชื้อชาติใด ศาสนาใด
๗๑ เราชาวไทยควรยึดแบบอย่างเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลพระบาทนำมาปฏิบัติให้เกิดผลแก่ตนเอง สังคมและประเทศชาติ
๗๒ ปัญหาของชาติ เราคนไทยทุกคนต้องร่วมใจกันแก้ มิใช่มาซ้ำเติมหรือทำลาย
๗๓ เราชาวไทยจงร่วมใจกันถวายความจงรักภักดีให้กับในหลวงของเรา
๗๔ พระคุณพ่อของแผ่นดิน ล้นเหลือสิ้นจะพรรณนา
๗๕ เราคงจะสิ้นชาติ สิ้นแผ่นดิน หากสิ้นกษัตริย์
๗๖ พระองค์ทรงเป็นมหาราชของการปกครองแผ่นดินโดยธรรม
๗๗ พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตย์ในดวงใจของปวงประชา
๗๘ เพราะคนไทย รู้รักสามัคคีจงรักภักดีต่อสถาบันกษัตริย์ ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
๗๙ ใกล้วันที่ ๕ ธ.ค.๕๑ ขอเชิญชาวไทยร่วมแสดงความจงรักภักดี กษัตริย์นักพัฒนาและยอดนักกีฬาของปวงชนชาวไทย
๘๐ ขอถวายความอาลัยแด่พระองค์ท่านผู้ซึ่งเป็นนางฟ้าของพวกเราชาวไทย
๘๑ รักประเทศไทย หยุดใช้ความรุนแรง
๘๒ อยากให้คนไทยทุกคนสามัคคีกันไว้
๘๓ อยู่อย่างพอเพียงเพื่อประเทศชาติ
๘๔ พวกเราจะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ยิ่งกว่าชีวิต
๘๖ พระองค์ทรงเป็นพระมหาบพิตรที่สถิตย์ในดวงใจของปวงประชา
๘๗ พระองค์ทรงเป็นผู้นำตามแนวทางพระราชดำริให้เจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทด้วยเศรษฐกิจพอเพียง
๘๘ โครงการพระราชดำริ ทุกโครงการเป็นโครงการที่ขจัดความเดือดร้อนและนำความผาสุกมาสู่ปวงชน
๘๙ วิกฤติเศรษฐกิจของชาวไทยจักพ้นภัยได้หากเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”
๙๐ การปกปักษ์รักษาสถาบัน ฯ ก็คือการปกปักษ์รักษาชาติ ไม่มีชาติเราก็ไม่มีที่อยู่
๙๑ เมื่อพ่อเห็นลูกทะเลาะกัน พ่อย่อมเป็นทุกข์ และไม่เข้าข้างลูกคนใดคนหนึ่ง
๙๒ พ่อหลวงทำเพื่อปวงชนชาวไทย
๙๓ อย่าทะเลาะกัน ทำเพื่อพ่อหลวงเถอะชาวไทย
๙๔ รักและสามัคคีกันให้ประเทศชาติเจริญ เพื่อพ่อหลวงของเราทุกคน
๙๕ พระองค์ทรงเป็นทุกลมหายใจ ร้อยดวงใจประชาราษฎรให้เป็นหนึ่งเดียว ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
๙๖ ผู้ใดคิดร้ายทำลายชาติจะพินาศจนสิ้นดี ผู้ใดจงรักภักดีจะสวัสดีศรีมงคล
๙๗ เราคงสิ้นแผ่นดินถิ่นอาศัย หากสิ้นชาติ สิ้นศาสน์ สิ้นกษัตริย์
๙๘ ปัญหาของชาติ เราคนไทยทุกคนต้องร่วมใจกันแก้ มิใช่มาซ้ำเติมหรือทำลาย
๙๙ สร้างความรักความ สร้างความสามัคคีกันภายในประเทศชาติ ประเทศไทยจะได้ยั่งยืน
๑๐๐ มีพระองค์อยู่เคียงข้างเป็นบุญบารมียิ่งนัก ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

1.พระองค์เปรียบเสมือนดั่งด้ามขวานทองของแผ่นดิน
2.พระองค์ทรงสถิตในใจไทยทั่วหล้าใต้ฟ้า เปรียบดั่งเมฆฝนหลั่งรินให้คนไทยชุ่มชื่น
3.น้ำท่วมพัดพาอะไรไป น้ำพระทัยจะพัดพาความสงบสุขกลับมา
4.เมตตา ธ เปี่ยมฟ้า ล้นมหาชลาลัย ปิตุรงค์คือธงชัย ปกเกศไทยเกรียงไกลกาล
5.จะกินยังคิดเป็นห่วง จะนอนยังเฝ้าแก้ปัญหา นี่คือกษัตริย์นักพัฒนา ชาวประชาทราบซึ่งตลอดกาล
6.พระองค์ได้ทรงพระอุตสาหะวิริยะบำเพ็ญ พระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่อาณา
ประชาราษฎร์ทั่วทุก ภูมิภาคมิได้ทรงว่างเว้น
7.นับเป็นบุญอันประเสริฐของประเทศชาติ และประชาชนชาวไทยที่มี”พระพ่อของแผ่นดิน”ผู้ทรงพระมหา
กรุณาธิคุณอย่างอเนก อนันต์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ ทุกโครงการตามแนวทางพระราชดำริที่
พระองค์ทรงพระราชทานล้วนแต่เป็นประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทย
8.น้ำฝนหลวงล่นจากฟ้า ทำให้ปวงประชามีสุข
9.สงสารในหลวงและพระราชินีมาก
10.ไม่มีสิ่งอื่นใดในโลกจะเทียบเท่ากับพ่อหลวงของเรา
11.พ่อหลวงทรงงานหนักมาค่อนชีวิต เพื่อให้ปวงชาวไทยอยู่ดีมีสุข
12.หยุดทะเลาะกันเสียที เพื่อถวายในหลวงของเรา
13.แม้ชาตินี้คงทดแทนบุญคุณแผ่นดินไม่หมด
14.ความสุขคู่ชาวไทยจนถึงวันนี้เพราะพระเจ้าอยู่หัว
15.แม้สัตว์ยังรักที่อยู่อาศัยของตัวเองเราเป็นมนุษย์ควรจะรักชาติ
16.ความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราควรใช้เพื่อพัฒนาประเทศมากว่าทำลาย
17.ความสมดุลที่คงอยู่เพราะความรักชาติรักกษัตริย์ของชาวไทย
18.ข้าพเจ้าจะเป็นคนดี และอยู่อย่างพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของในหลวงเพื่อแผ่นดินไทย และเพื่อพ่อหลวงของชาวไทยทุกคน
19.ขอให้พระองค์ทรงมีพระเกษมสําราญ
20.พระองค์ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
21.ในหลวงทรงนำแบบประเพณีอันดีงามของไทยสู่ต่างประเทศ
22.ด้วยพระบารมีประเทศไทยจึงสงบร่มเย็นตราบจนทุกวันนี้
23.ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
24.ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายและพระหฤทัย ยิ่งยิ่งขึ้นไป
25.พระองค์ทรงเปี่ยมล้นด้วยเมตตา
26.สามัคคีคือพลัง ร่วมสร้างความดีเพื่อถวายในหลวง
27.พระองค์ทรงเป็นพระบิดาการพัฒนาทุกแขนงเพื่อให้ประเทศชาติได้มีความมั่นคงถาวรอย่างแท้จริง
28.ขอพระองค์ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรง เป็นมิ่งขวัญปวงชนชาวไทยตลอดไป
29.รักชาติ รักแผ่นดิน คิดถึงสิ่งที่ในหลวงทำให้เราทุกคน แล้วประเทศชาติจะสงบสุข
30.ขอให้พระองค์ทรงเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของปวงชนชาวไทยตลอดไป
31. กษัตริย์ ผู้ทรงธรรม พระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าฯ ชาวไทย
32. ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
33. ตามรอยเบื้องพระยุคลบาท จะขอเป็นข้าพระบาททุกชาติไป
34. รวมใจภักดิ์ รัก ในหลวง
35. ทรงยึดหลักศาสนา ทรงศึกษาสรรพวิทยา ทรงนำมาปฏิบัติ ทรงขจัดปัญหาด้วยการพัฒนาโครงการพระราชดำริ ทรงเตือนสติด้วยการปฏิบัติพระองค์เป็นตัวอย่าง ทรงสร้างค่านิยม ทรงห่วงใยประชาราษฎร์ทุกเมื่อ ทรงสละหยาดพระเสโท เพื่อประชาชนและประเทศไทยอย่างแท้จริง ทรงเป็นบุคคลที่หาได้ยากยิ่งในโลก ( ทรงเป็นพระมหากษัตริย์นักพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก )
36. พระมหากษัตริย์ ที่พรั่งพร้อมด้วย ทศพิธราชธรรม
37. จากความแห้งแล้งกลับกลายมาชุ่มชื้น จากผืนทรายกลับกลายเป็นดิน ด้วยพระบารมีของทั้ง สองพระองค์
38. ในหลวงพระองค์ทรงงาน หนักและเหนื่อย เพื่อราษฎรของพระองค์ให้เป็นสุข
39. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำ และมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย
40. ความเสียหายของชาติจะบานปลาย ถ้าคนไทยขาดความจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์
41.ความจงรักภักดีต่อสถาบันอันสูงสุด ถือว่าเป็นหน้าที่หนึ่งของคนไทยทุกคน
42.สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นถาบันหนึ่งที่ช่วยให้เราได้มีแผ่นดินอยู่จนถึงลูกหลานเรา
43.พระบารมีอันแผ่ไพศาล ย่อมบริบาลผู้ที่มีความจงรักภักดีตลอดไป
44.ผู้ใดคิดร้ายทำลายชาติจะพินาศจนสิ้นดี ผู้ใดจงรักภักดีจะสวัสดีศรีมงคล
45.บรรพบุรุษท่านต่อสู้กอบกู้ชาติ ศาสน์ ราชัน แล้วเราเป็นใครกันไม่รักษาให้จงดี
46.ราชันราชินีบารมีคู่แผ่นดิน หากแม้นไทยเราสิ้นจะสูญสิ้นแผ่นดินธรรม
47.พระองค์ทรงเป็นมหาราชปกครองแผ่นดินโดยธรรม
48.ทุกโครงการพระองค์ท่าน ล้วนแต่นำมาแก้ไขให้ทันกับสภาวะในปัจจุบัน
49.“เศรษฐกิจพอเพียง” เป็นหลักวิชาการที่แยบยล เมื่อปฏิบัติตามแล้วได้ผล
50.ขอให้พระองค์ฯ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเราชาวไทยตลอดกาลเทอญ
51. “เพียงพอ” “พออยู่พอกิน” ทำให้คนไทยทุกคนได้รู้จักยืนอยู่ได้ด้วยตนเองด้วยความพอดีโดยตั้งอยู่บน ความไม่ประมาท ดังปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่า “สูงนักมักจะลิ่วไปตามลม ต่ำนักมักจะจมลงบาดาล”
52. ในหลวงพระองค์ทรงเป็นพลังของแผ่นดินตามพระนามของพระองค์ “ภูมิพล” (“ภูมิ” หมายถึงแผ่นดิน “พล” หมายถึงกำลังหรือพลัง) เราต้องตามรอยพยุคลบาทของพระองค์ท่านเพื่อให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่ในการกอบกู้ชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป
53. การ ที่เราพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติไว้นั้นมิใช่เพียงเพื่อตัวของ เราเองเท่านั้น แต่เป็นการรักษา เป็นมรดกให้กับลูกหลานของเราได้มีแผ่นดินอาศัยอยู่คู่บารมีในพระองค์ผู้ทรง ธรรม
54. หากเราเดินตามรอยเบื้องพยุคลบาท เราจักไม่พลั้งพลาดในการดำรงตน
55. โครงการ ตามแนวทางพระราชดำริ ในการพิทักษ์รักษ์ ธรรมชาติสำคัญยิ่ง เพราะหากธรรมชาติไม่สมดุล อาจจะก่อให้เกิดภัยพิบัติกับโลกอย่างใหญ่หลวง จนไม่มีสรรพสิ่งใด ๆ หลงเหลืออยู่เลย
56. ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
57. เกิดทุกชาติ ขอเกิดเป็นคนไทย ใต้เบื้องพระยุคลบาท ขององค์ภูมินทร์
58. ขอให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถทรงพระเจริญ...ยิ่ง ๆ ขึ้นไปตราบนานเท่านาน
59. ไม่ มีพระราชาชาติไหน ที่ ทรงดำเนิน ท่อง ไปตาม ภูเขา ลำเนาไพร ตามที่ทุรกันดาร ในมือซ้าย ถือแผนที่ สะพายกล้อง เพื่อเยี่ยมเยียนราษฏร ถามถึงปัญหาสารทุกข์ ทั้งเหนือใต้ ออก ตก
60. พระบารมี มากล้น เหลือคณาปกเกศเกล้า ชาวประชา สุขสันต์
61. ด้วยพระบารมี เราจึงรวมอยู่ได้อย่างเหนียวแน่น มีชาติ มีประเทศ อันตั้งเป็นอิสระเสรีมาช้านาน
62. ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะนำพาประเทศชาติไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง คงความเป็นไทยไว้ได้
63. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยการพัฒนาแหล่งน้ำเป็นโครงการที่มีประโยชน์อย่างยิ่งของประเทศ
64. ผู้ใดคิดร้ายทำลายชาติ ผู้นั้นจะพบกับความพินาศจนสิ้นดี ผู้ใดจงรักภักดีผู้นั้นจะมีสวัสดีศรีมงคล
65. บรรพบุรุษท่านต่อสู้กอบกู้ชาติ ศาสน์ ราชัน แล้วเราเป็นใครกันไม่รักษาให้จงดี
66. ราชัน ราชินี บารมีคู่แผ่นดิน หากแม้นเราสิ้นจะสูญสิ้นแผ่นดินธรรม
67. แหลมทองจะเป็นไฟหากชาติไทยไร้ราชัน จะมีแต่ฆ่าฟันเพื่อห้ำหั่นแย่งชิงดี
68. ในหลวงพระองค์ทรงไม่ละทิ้งประชาชนของพระองค์ แม้จะอยู่ห่างไกลสักเพียงใด
70. เรารักพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
71. ทรงเป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทย
72. เราเป็นไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ด้วยพระบารมีของพ่อหลวง
73. สถาบันหลักของชาติไทยเป็นมรดกมาจากบรรพบุรุษของเรา
74. เราเป็นไทยมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็ด้วยพระบารมีของพ่อหลวง
75. พระองค์ทรงงานหนักเพื่อเรา
76. ทรงห่วงใยชาวไทยทุกคน
77. พระองค์ทรงงานหนักเพื่อเรา
78. "เรารักพ่อหลวง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
79. Long live the king
80. มาทำดีเพื่อพ่อในวันพ่อ
81. ขอให้ในหลวงอยู่คู่คนไทยตลอดไป
82. ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
83. เพียงได้เกิดมาใต้ร่มพระบารมีก็หาสิ่งใดเปรียบมิได้แล้ว
84. ขอพระองค์ทรงพระเกษมสำราญ พระวรกายและ
85. ขอให้พ่อหลวงจงอยู่กับปวงชนชาวไทยไปนานๆ
86. "เรารักพ่อหลวง ขอพระองค์ทรงพระเจริญ"
87. ขอให้พ่อหลวงทรงหายจากพระอาการประชวร
88. ขอพระมหาราชทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
89. ขอให้พระองค์ทรงหายจากอาการประชวรโดยเร็ว
90. รักในหลวงห่วงลูกหลานร่วมกันต้านยาเสพติด
91..พระองค์ทรงทุมเทเพื่อความสุขของคนทั้งชาติ
92. ทหารช่างรักและเทิดทูลใน หลวง ขอน้อมสดุดีองค์ราชัน
93. หยาดเหงื่อพ่อไหลรินรดแผ่นดินไทยทั่วหล้า หยาดเหงื่อซับน้ำตาชาวประชาทั้งแผ่นดิน หยาดเหงื่อที่ไหลริน
94. ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ช่วยรัฐ – ราษฎร์สามัคคี สมัครสมานมิตรไมตรี สร้างความดีเพื่อแผ่นดิน
95. หากเราไม่ยึดมั่นรักษา เทิดทูน ไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ของเราไว้บรรพบุรุษของเราจะเรา่ร้องว่าอย่างไร
96. รักพ่อเชื่อฟังพ่อก็อยู่รอดโดยปลอดภัย รักไทยหวงแหนไทยรักษาชาติ ศาสน์ ราชัน
97. จง ทำความดีเพื่อถวายเป็นราชสักการะแด่ในหลวงของเรา โดยการกระทำความดีเสมอ พึงละเว้นการทำชั่ว เพราะการทำชั่วนั้นเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้นที่พันพัว ความดีทั่วถ้วนร้อยพลอยมลาย
98. วิกฤติเศรษฐกิจของชาวไทยจักพ้นภัยได้หากเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาทในเรื่อง “เศรษฐกิจพอเพียง”
99. พระคุณพ่อนั้นล้นเหลือที่กอปรเกื้อต่อแผ่นดิน หยาดเหงื่อที่หลั่งรินทุกหยดสิ้นเพื่อปวงชน
100. โครงการพระราชดำริในการพัฒนาแหล่งน้ำ การพิทักษ์ป่า ช่วยชาวโลกในการลดภาวะโลกร้อน ช่วยชาติฟื้นคืนจากวิกฤตินานาประการ “ต้นไม้จะคืนสู่ป่า ปลาจะคืนสู่หนอง”

ทรงเป็นทุกลมหายใจ ของปวงประชาราษฎร ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ความเสียหายของชาติจะบานปลาย ถ้าคนไทยขาดความจงรักภักดี ต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทุ่มเทพระวรกายตรากตรำ และมุ่งมั่นเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพสกนิกรชาวไทย