ประวัติองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว

กำเนิดในครอบครัวตระกูลลิ้มสมัยพระเจ้าซื่อจงฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์เหม็ง ประมาณ พ.ศ. 2065 – 2109มีพี่ชายชื่อ “ลิ้มโต๊ะเคี่ยม” รับราชการอยู่มณฑลฮกเกี้ยน เมื่อบิดาถึงแก่กรรมลิ้มกอเหนี่ยว ต้องเฝ้าดูแลมารดาเพียงลำพัง เนื่องจากลิ้มโต๊ะเคี่ยม ถูกขุนนางใส่ร้าย ว่าสมคบกับโจรสลัดญี่ปุ่น เข้าปล้นตีเมืองตามชายฝั่ง จึงถูกทางราชการประกาศจับ และได้หลบหนีออกจาก ประเทศจีนกับพรรคพวกไปอาศัยอยู่ที่เกาะไต้หวัน ต่อมาได้นำสินค้ามาขายที่ประเทศไทย ขึ้นท่าสุดท้ายที่เมืองปัตตานี บ้านกรือเซะ และมีความรู้เป็นนายช่างผู้หล่อปืนใหญ่ 3 กระบอก คือ ศรีนครี มหาลาลอ และนางพญาตานี ให้เจ้าเมืองปัตตานีขณะนั้นเป็นที่พอพระทัยมากจึงยกพระธิดาให้สมรสด้วยโดยลิ้มโต๊ะเคี่ยมยอมเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม .
หลายปีต่อมา มารดาซึ่งอยู่ที่ประเทศจีนไม่เห็นบุตรชายกลับมา และไม่ส่งข่าวก็มีความคิดถึงเป็นห่วง ไม่เป็นอันกินอันนอน ลิ้มกอเหนี่ยวสงสารมารดา จึงรับอาสาออกติดตามพี่ชาย โดยออกเดินทางด้วยเรือสำเภาติดตามมาจนถึงประเทศไทย และได้พบพี่ชายที่บ้านกรือเซะลิ้มกอเหนี่ยวได้พำนักอยู่เป็นเวลานาน และชักชวนให้พี่ชายกลับประเทศจีน เพื่อพบมารดาหลายครั้งแต่ลิ้มโต๊ะเคี่ยมปฎิเสธ เนื่องด้วยกำลังเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างมัสยิดกรือเซะ ในขณะนั้น ด้วยความกตัญญต่อมารดา ไม่สามารถนำพี่ชายกลับบ้านได้ จึงได้ทำอัตวินิบาตกรรมที่ใต้ต้นมะม่วงหิมพานต์ ต่อมาฮวงซุ้ยและต้นมะม่วงหิมพานต์ ได้เกิดนิมิตและอภินิหาร ให้ชาวบ้านไปบนบาน หายเจ็บไข้ได้ป่วยและมีโชคลาภ เป็นที่เคารพ สักการะ และต่อมาได้นำเอาต้นมะม่วงหิมพานต์ มาแกะสลักเป็นองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวไว้สักการะมาจนบัดนี้

พระหมอ หรือโจ๊วซูกง เป็นเทพประธานของ "ศาลเจ้าเล่งจูเกียง"ปัตตานี เป็นเทพเจ้าที่ช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ

การจัดงานพิธีสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นประเพณีโบราณที่"ศาลเจ้าเล่งจูเกียง" ได้ทำพิธีลุยน้ำ-ลุยไฟ ตลอดจนการนำองค์พระที่ศักดิ์ของศาลออกโปรดลูกหลานรอบตลาดปัตตานี ซึงจะจัดในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ เดือน ๑ ของจีนตรงกับ"วันมาฆบูชา"ของทุกปี

พิธีลุยไฟ...!!! เนื่องใน "ฉลองสมโภชวันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว สี่แยกบางแพ (www.limkoniau.com) วันที่ 24 สิงหาคม 2551(24 เดือน 7 นับตามปฏิทินจีน)

พิธีลุยน้ำ เนื่องใน "ฉลองสมโภชวันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว สี่แยกบางแพ (www.limkoniau.com) วันที่ 24 สิงหาคม 2551(24 เดือน 7 นับตามปฏิทินจีน)

แห่เกี้ยว"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" และองค์พระศักดิ์ของศาลโปรดลูกหลาน เนื่องใน "ฉลองสมโภชวันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว สี่แยกบางแพ วันที่ 24 สิงหาคม 2551 (24 เดือน 7 นับตามปฏิทินจีน) (www.limkoniau.com)

แห่เกี้ยว"องค์กิมบ้อ" และองค์พระศักดิ์ของศาลโปรดลูกหลาน เนื่องใน "ฉลองสมโภชวันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว สี่แยกบางแพ วันที่ 24 สิงหาคม 2551 (24 เดือน 7 นับตามปฏิทินจีน) (www.limkoniau.com)

เทศกาลตรุษจีน แห่เกี้ยว " เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว " รอบตลาดราชบุรี " เนื่องในงานราชบุรีไชน่าทาวน์ 2008 "

เทศกาลตรุษจีน แห่เกี้ยว " เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว " รอบตลาดราชบุรี " เนื่องในงานราชบุรีไชน่าทาวน์ 2008 " ภาพนี้เป็นการลอดเกี้ยว " เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว " เพื่อเป็นศิริมงคล

ลุยไฟ โดยไม่มีทรงมีแต่ความศรัทธาและสืบสานตามประเพณีโบราณดังเดิม

พิธีลุยน้ำ

เห็นหน้าแล้วจำได้เปล่าว่าใครเป็นเจ้าพิธีเชิญพระ ที่ต้องมีเจ้าพิธีก็เพราะ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ไม่มีการประทับทรง

เจ้าพิธีเชิญพระ สืบสานตามประเพณีโบราณและที่ต้องมี"เจ้าพิธี"ทำพิธีก็เพราะ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ไม่มีการประทับทรง

ตามที่ทางศาลเจ้าลิ้มกอเหนียวจังหวัดราชบุรีได้เขียนข้อความข้างบนในฐานะที่ผมเป็นคนที่นับถือองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวคนหนึ่งใคร่จะอธิบายเพื่อให้พื่น้องทุกคนที่รักและนับถื่อในองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทั่วประเทศและต่างประเทศได้รับรู้ถึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2545 ตามที่มูลนิธิเทพปูชนียสถานปัตตานี(ศาลเจ้าเล่งจูเกียง)” ได้ทำการบูรณะ “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวแทนองค์เก่าที่ชำรุด ทางศาลเจ้าเล่งจูเกียง ได้ว่าจ้างให้ช่างมาแกสลักองค์พระ โดยทางช่างแกะสลักได้ทำการแกะสลักองค์มาทั้งหมด3องค์ด้วยกัน ซึ่งทาง คณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง ได้พิจารณาแล้วมีอยู่1องค์ที่ช่างแกะสลักมาแล้วคล้ายกับองค์เก่าดังเดิมที่ประดิษฐอยู่ในศาลเจ้าเล่งจูเกียงจึ่งเก็บองค์ที่คล้ายองค์เก่าไว้ที่ศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานีพร้อมกับองค์เก่าดั่งเดิมที่มีอยู่แล้วตังแต่โบราณไว้ด้วยกัน ส่วนองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวอีก2องค์ได้มอบให้ช่างซึ่งแก่ช่างที่แกะลลักไป หลังจากนั้นก็มีพิธีเบิกเนตรองค์เจ้าแม่องค์ใหม่ที่ทำการแกะสลักซึ่งเป็นพิธียิ่งใหญ่มากในจังหวัดปัตตานี โดยไม่มีองค์เจ้าแม่อีก2องค์ซึ่งได้มอบให้ช่างผู้แกะสลัก เข้ามาทำพิธีเบิกเนตร ณศาลเจ้าเล่งจูเกียงแต่อย่างใด ต่อมาได้รับรู้ว่าได้มี1ใน2องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวได้ปรากฏที่จังหวัดราชบุรีตามที่ปรากฏในข้อความข้างบน เลยอย่างชีแจงเกียวกับการนำองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวมาทำพิธีลุยไฟ ณศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานี ว่าทางคณะกรรมการศาลเจ้าและผู้เกียวข้องกับศาลเจ้าเล่งจูเกียวไม่ได้รับหนังสื่อในการขอองค์เจ้าแม่ลุยไฟ ณ จังหวัดปัตตานี ของทางจังหวัดราชบุรี แต่อย่างใด เป็นการกระทำโดยส่วนตัวไม่ได้เกียวข้องกับศาลเล่งจูเกียงแต่อย่างใด และไม่รู้เห็นเกียวกับ บุคคลในภาพ12-13แต่อย่างใดบุคคลทั้ง3ได้ทำการโดยส่วนตัวไม่ได้เกียวข้องกับทางศาลเจ้าเล่งจูเกียงแต่อย่างใด และทางศาลเจ้าเล่งจูเกียงได้เรียกคนที่ปรากฏในภาพมาชีแจงแล้วโดยผู้ที่ภาพทำพิธีในศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดราชบุรี ได้ออกจากการเป็นคณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจู่เกียงแล้ว ก็เลยชีแจงให้กับประชาชนที่รักในองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวรับทราบโดยทั่วไป ขอบคุณครับ

ภาพงานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดปัตตานี

องค์เจ้าแม่ทำพิธีลุยน้ำ ในแม่น้ำปัตตานี ข้างสะพานเดชานุชิด

องค์เจ้าแม่ทำพิธีลุยน้ำ ในแม่น้ำปัตตานี ข้างสะพานเดชานุชิด

องค์เจ้าแม่ทำพิธีลุยน้ำ ในแม่น้ำปัตตานี ข้างสะพานเดชานุชิด

องค์เจ้าแม่ทำพิธีลุยน้ำ ในแม่น้ำปัตตานี ข้างสะพานเดชานุชิด

กองไฟที่ใช้ในพิธีลุยไฟที่ศาลเจ้าเล่งจู่เกียง(ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตาน)

ปนัดดา วงษผู้ดีก็มาดูในพิธีลุยไฟอันศักดิ์สิทธิของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตานี

ก่อนที่จะทำการลุยไฟองค์พระทุกองค์ต้องวนรอบกองไฟ3รอบก่อนที่จะทำการลุยไฟรูปนี้เป็นรูปเจ้าแม่กำลังเดินวนรอบกองไฟ

ก่อนที่จะทำการลุยไฟองค์พระทุกองค์ต้องวนรอบกองไฟ3รอบก่อนที่จะทำการลุยไฟรูปนี้เป็นรูปเจ้าแม่กำลังเดินวนรอบกองไฟ

ก่อนที่จะทำการลุยไฟองค์พระทุกองค์ต้องวนรอบกองไฟ3รอบก่อนที่จะทำการลุยไฟรูปนี้เป็นรูปเจ้าแม่กำลังเดินวนรอบกองไฟ

ภาพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทำพิธีลุยไฟอันศักดิ์สิทธิ ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง จังหวัดปัตตานี

ภาพผุ้กองทหารที่มาดูแลความไม่สงบในภาคใต้ในจังหวัดปัตตานีมีความเลื่อมใสศรัทธา ในองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวที่การอัญเชิญองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทำพิธีลุยไฟเพื่อศริมงคลสำหรับตัวเองคนด้านขวงมือของภาพสวมเสื่อสีชมพู

พระองค์อื่นในศาลเจ้า ทำพิธิลุยไฟ

พระองค์อื่นในศาลเจ้า ทำพิธิลุยไฟ

พระองค์อื่นในศาลเจ้า ทำพิธิลุยไฟ

พระองค์อื่นในศาลเจ้า ทำพิธิลุยไฟ

ภาพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวอีกภาพ

พระองค์อื่นในศาลเจ้า ทำพิธิลุยไฟ

ยิ้มได้สบายสบายเพราะองค์เจ้าแม่ศักดิ์สิทธิ

ด้วยอำนาจบุญบารมีเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวยังสบายสบาย

ภาพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวลุยนำที่แม่น้ำปัตตานี

ถุงเงินเจ้าแม่มอบให้ไปทำขวัญถุง

ซ้ายมื่อเป็นองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนึ่ยวทีแกะสลักมาใหม่และได้ทำการทำพิธีเบิกเนตร ณศาลเจ้าเล่งจูเกียงเป็นพิธีที่ใหญ่มากแล้ววันหลังจะเอาภาพมาฝาก ส่วนองค์ที่อยู่ต้องกลางเป็นองค์เก่าดัง่เดิมถ้าว่างก็มาสักระได้น่ะครับ

เจ้าพิธีตัวจริง(เจ้าพิธีเงา)ฮิฮิ คนใส่เสื่อสีฟ้าสวมแว่นตาดำคงจำกันได้น่ะครับฮิ ฮิ ฮิ

เจ้าพิธีเชิญพระ สืบสานตามประเพณีโบราณและที่ต้องมี"เจ้าพิธี"ทำพิธีก็เพราะ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ไม่มีการประทับทรง แต่ก็เคยเป็นเจ้าพิธี(ตัวจริงๆๆ)ที่ไหนเอย ดูภาพกันเอาเอง ฮา ฮา ฮา (คงจำกันได้นะจ๊ะ)

เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง) องค์นี้จะต้องได้เข้าร่วมพิธีลุยไฟ ในงานฉลองสมโภช "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ปัตตานี อย่างน้อย 2 ปี ก็ได้พรดังที่ข้าพเจ้าขอไว้จริงๆๆๆๆ

ดูกันให้ชัดๆๆว่าใช่เปล่า

ตามที่ทางศาลเจ้าลิ้มกอเหนียวจังหวัดราชบุรีได้เขียนข้อความข้างบนในฐานะที่ผมเป็นคนที่นับถือองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวคนหนึ่งใคร่จะอธิบายเพื่อให้พื่น้องทุกคนที่รักและนับถื่อในองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทั่วประเทศและต่างประเทศได้รับรู้ถึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ในปีพ.ศ.2545 ตามที่มูลนิธิเทพปูชนียสถานปัตตานี(ศาลเจ้าเล่งจูเกียง)” ได้ทำการบูรณะ “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"แทนองค์เก่าที่ชำรุด ทางศาลเจ้าเล่งจูเกียง ได้ว่าจ้างให้ช่างมาแกะสลักองค์พระ โดยทางช่างแกะสลักได้ทำการแกะสลักองค์มาทั้งหมด 3 องค์ด้วยกัน ซึ่งทาง คณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง ได้พิจารณาแล้วมีอยู่ 1 องค์ที่ช่างแกะสลักมาแล้วคล้ายกับองค์เก่าดังเดิมที่ประดิษฐอยู่ในศาลเจ้าเล่งจูเกียงจึ่งเก็บองค์ที่คล้ายองค์เก่าไว้ที่ศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานีพร้อมกับองค์เก่าดั่งเดิมที่มีอยู่แล้วตังแต่โบราณไว้ด้วยกัน ส่วน"องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว" อีก 2 องค์ ได้มอบให้ช่างซึ่งแก่ช่างที่แกะลลักไป หลังจากนั้นก็มีพิธีเบิกเนตรองค์เจ้าแม่องค์ใหม่ที่ทำการแกะสลักซึ่งเป็นพิธียิ่งใหญ่มากในจังหวัดปัตตานี โดยไม่มีองค์เจ้าแม่อีก2องค์ซึ่งได้มอบให้ช่างผู้แกะสลัก เข้ามาทำพิธีเบิกเนตร ณศาลเจ้าเล่งจูเกียงแต่อย่างใด ต่อมาได้รับรู้ว่าได้มี1ใน2องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวได้ปรากฏที่จังหวัดราชบุรีตามที่ปรากฏในข้อความข้างบน เลยอย่างชีแจงเกียวกับการนำองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวมาทำพิธีลุยไฟ ณศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานี ว่าทางคณะกรรมการศาลเจ้าและผู้เกียวข้องกับศาลเจ้าเล่งจูเกียวไม่ได้รับหนังสื่อในการขอองค์เจ้าแม่ลุยไฟ ณ จังหวัดปัตตานี ของทางจังหวัดราชบุรี แต่อย่างใด เป็นการกระทำโดยส่วนตัวไม่ได้เกียวข้องกับศาลเล่งจูเกียงแต่อย่างใด และไม่รู้เห็นเกียวกับ บุคคลในภาพ12-13แต่อย่างใดบุคคลทั้ง3ได้ทำการโดยส่วนตัวไม่ได้เกียวข้องกับทางศาลเจ้าเล่งจูเกียงแต่อย่างใด และทางศาลเจ้าเล่งจูเกียงได้เรียกคนที่ปรากฏในภาพมาชีแจงแล้วโดยผู้ที่ภาพทำพิธีในศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดราชบุรี ได้ออกจากการเป็นคณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจู่เกียงแล้ว ก็เลยชีแจงให้กับประชาชนที่รักในองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวรับทราบโดยทั่วไป ขอบคุณครับ (อ้างอิงตามความคิดเห็นที่ 14 )
ขอบคุณมากนะค๊ะ ความเห็นที่ 14 โพสเมื่อ : 26 ก.พ. 52 : 20:24 น. โดย : ชาวปัตตานี “ ที่ช่วยยืนยันให้ข้อมูลข้างล่างนี้ทุกอย่างเป็นความจริงดีกว่า (หนังสือรับรอง) อีกนะเนี้ย อ่านดูให้ละเอียด จะพบว่า
พรทั้ง 3 ข้อที่ผู้ก่อตั้งสร้าง " ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี " เป็นไปตามที่ขอไว้นะค๊ะ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี)"องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์จริงๆๆนะ จะบอกให้ และถึงเป็นองค์จำลอง ก็ยังคงมีพิธีลุยน้ำ-ลุยไฟครบถ้วนทุกอย่างแถม วันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยังมีพิธีโยคะตันตระเปรตทาน (ซิโกว)
อีกด้วย ก็เลยชี้แจงให้กับประชาชนที่รักใน "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว" รับทราบโดยทั่วกัน


พ.ศ 2545 มูลนิธิเทพปูชนียสถานปัตตานี” ได้ทำการบูรณะ “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” เนื่องจากเกิดการชำรุดเป็นอย่างมาก โดยคณะกรรมการของศาลได้ว่าจ้างช่าง เพื่อทำการบูรณะ "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" จากการที่ช่างเป็นผู้เลื่อมใสศรัทธาต่อ "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" จึงได้แกะสลัก "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ด้วยไม้สักทอง เพื่อไว้เป็นที่สักการะ โดยช่างได้อัญเชิญเนื้อไม้เก่าที่เหลือจากการบูรณะองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานีมาประดิษฐานไว้ ณ ใต้ฐานของ "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" องค์นี้ด้วย

พ.ศ.2548 “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ได้เข้าฝันบอกให้นำมาถวายให้ คุณอรุณลักษณ์ บุญเกษม เพื่อสร้าง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" สี่แยกบางแพ ถ.เพชรเกษม กม.81 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ไว้ให้ลูกหลานของท่านที่ไม่สามารถไปขอพร"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่(ปัตตานี)ได้ เพราะลูกหลานของท่านมีมากที่อยากจะไปขอพร"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ที่(ปัตตานี) แต่ไม่สะดวก ซึ่งใครสามารถไปที่(ปัตตานี)ได้ก็ให้ไปที่(ปัตตานี) แต่ถ้าไม่สามารถไปได้ก็ให้มาขอพร "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" (องค์จำลอง) สี่แยกบางแพแห่งนี้ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 18.00 น.

เพื่อให้ลูกหลานได้รู้จัก “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ทั้งชื่อและรูปลักษณ์ขององค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เพราะท่านไม่เหมือนเจ้าแม่กวนอิมที่มีหลายภาคและหลายปรางค์ แต่องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวมีลักษณะองค์ที่เป็นมาตรฐานแบบเดียวมากกว่า 400 ปี

โดยก่อนที่จะสร้าง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ตรงนี้ ผู้สร้างศาลได้ขอพรเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว 3 ประการ

1. ช่างที่แกะสลัก “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” องค์นี้จะต้องเคยแกะสลัก บูรณะ หรือเคยได้สัมผัสจับต้อง" องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" องค์เก่าที่ปัตตานี (ตอนที่ช่างอัญเชิญ"องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(องค์จำลอง)องค์นี้มาถวายให้ทาง" ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" (องค์จำลอง) สี่แยกบางแพ ยังได้มีการบันทึกภาพถ่ายร่วมกัน ไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะ เพื่อแสดงไว้ให้ลูกหลานคนรุ่นหลังไว้ดูด้วย)

2. เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง)องค์นี้ต้องมีเนื้อไม้ของ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์เดิมที่ปัตตานี บรรจุไว้ ณใต้ฐาน"องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(องค์จำลอง)องค์นี้ด้วย (ถ้าคุณสงสัยว่าเรามีการแอบอ้างเนื้อไม้ชิ้นนี้ สามารถพิสูจน์ได้โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือ ธรณีวิทยา เราพร้อมให้ท่านพิสูจน์ความจริงได้นะ )

3. เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง) องค์นี้จะต้องได้เข้าร่วมพิธีลุยไฟ ในงานฉลองสมโภช "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ปัตตานี อย่างน้อย 2 ปี (เพราะพิธีลุยไฟนั้น นับว่าเป็นพิธีโบราณอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นหัวใจของปัตตานี ดังนั้นผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีลุยไฟต้องได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่ของ"ศาลเล่งจูเกียง"ก่อน มิฉะนั้นอาจจะโดน...ง่ายๆ)


จนในที่สุดเมื่อได้พรครบ 3 ประการ ผู้สร้างศาลและลูกหลานผู้เลื่อมใสศรัทธา ต่อ"องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"จึงได้ร่วมกันสร้าง "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(ชั่วคราว)เล็ก ๆแห่งนี้ ( เพราะผู้ก่อตั้งศาลลืมขอให้ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"เอาที่ดินมาด้วย จึงต้องสร้าง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"( ชั่วคราว) บนเนื้อที่ดิน ที่ตัวเองเช่าอยู่) ไว้ให้ลูกหลาน ได้มาขอพร แต่พวกเราทุกคนก็ดีใจที่ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" เลือกที่จะสร้าง "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(องค์จำลอง)ตรงนี้และนอกจากประเทศไทยแล้วยังมีประเทศสิงคโปร์ มาเลเชีย ที่รู้จัก และศรัทธา"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ด้วยเช่นกัน

การจัดทำเว็บไซด์นี้เพื่อเป็นการเผยแพร่ ให้ลูกหลาน"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ได้รู้จักประวัติและลักษณะขององค์"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"อย่างถูกต้อง เพราะเอกสารอ้างอิงเกี่ยวกับประวัติของท่านมาจาก(ปัตตานี) คณะจัดทำมิได้เขียนขึ้นมาเอง และไม่เคยคิดบิดเบือน

ข้อ 1 - 2 จะจริง จะอ้าง จะวางแผนอย่างไร ไม่รู้ อยู่ในใจของคน
ข้อ 3 รู้ไม่จริง แล้วยังอ้าง ไปโดนเค้าหลอกอีกแล้วววววววววว
อยากจะเลียนแบบ ก็เลียนแบบ ไป
อยากจะอ้าง ก็อ้างกันไป
จริงแท้มันอยู่ที่ใจ

วันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (วันที่ 27 เดือน 7 นับตามปฏิทีนจีน)

วันที่ 14 กันยายน 2552 (วันที่ 26 เดือน 7 นับตามปฏิทีนจีน) ทำพิธีโยคะตันตระเปรตทาน (ซิโกว)

อีกด้วย ก็เลยชี้แจงให้กับประชาชนที่รักใน "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว" รับทราบโดยทั่วกัน

วันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (วันที่ 27 เดือน 7 นับตามปฏิทีนจีน)

วันที่ 14 กันยายน 2552 (วันที่ 26 เดือน 7 นับตามปฏิทีนจีน) ทำพิธีโยคะตันตระเปรตทาน (ซิโกว)

วันเกิดเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (วันที่ 27 เดือน 7 นับตามปฏิทีนจีน)

วันที่ 14 กันยายน 2552 (วันที่ 26 เดือน 7 นับตามปฏิทีนจีน) ทำพิธีโยคะตันตระเปรตทาน (ซิโกว)

คนดีที่มีสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเทวดาสิ่งสำคัญต้องมีศีล 5 เป็นอย่างน้อย ในประวัติที่เขียนลงมาเกี่ยวกับองค์เจ้าแม่ควรที่จะเขียนให้ประจักษ์แจ้งถึงความเป็นจริง องค์เจ้าแม่ที่คุณได้มาครอบครององค์นี้ จริงๆแล้วคุณได้ไปอ้อนวอนวิงวอนขอซื้อมาจากช่างแกะสลักไม่ใช่หรือ ช่างได้ปฏิเสธคุณไปหลายครั้งช่างเขามีจิตศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่มาก จึงตั้งใจที่จะแกะสลักเอาไว้ให้คนในครอบครัวบูชา แต่เห็นกับคุณมีจิตศรัทธาต่อองค์เจ้าแม่จึงยอมให้บูชาไป มิใช่อย่างที่ข้อมูลข้างต้นกล่าวไว้แต่อย่างใด แค่ประวัติแค่นี้คุณยังบิดเบือนไปจากความเป็นจริง เจ้าแม่ลิ้มกอเนี่ยวที่เป็นองค์ที่ยึดมั่นในความถูกต้อง มากที่สุด แล้วอย่างนี้จะไปหาความศักดิ์สิทธิ์ ได้จากที่ไหน หลอกคนอื่นยังไม่พอ ยังหลอกตัวเองอีก (สัจจังเวอมตะวาจา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย) ขอเผยถึงความเป็นจริงดังนี้ให้ทุกท่านได้ทราบข้อมูลที่เป็นจริง (คนไม่รู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมรู้ ดังดวงตาสวรรค์ ดังคำจีนว่าไว้ว่า (ทีอู่มัก) แปลว่า สวรรค์มีตา
ที่มาจากhttp://www.phuketvegetarian.com/borad/data/1306-1.html

ถึงท่านดวงตราสวรรค์
จากการที่คุณกล่าวหาว่าทาง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(ราชบุรี) บิดเบือนประวัติการแกะสลักนั้นว่า“เกิดนิมิตและอภินิหารประจักษ์แก่ช่างผู้แกะสลัก ทำให้ไม่อาจเก็บรักษาองค์เจ้าแม่เอาไว้ได้ ต้องอัญเชิญมาสร้างศาล คนที่ดีมีสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเทวดา สิ่งสำคัญต้องมีศีล 5 เป็นอย่างน้อย” นั้น

จากข้อความนี้ผมขออธิบายถึงนิมิตและอภินิหารของ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ เพื่อเตือนใจ และเตือนความจำของท่าน ศีลธรรมของก่อตั้งศาลนั้นย่อมมีอย่างเต็มเปี่ยม ย่อมจะไม่กล่าวถ้อยคำที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (เพราะคุณเคยรับปากกับใครและที่ไหนไว้ว่าอย่างไรคงจำได้) ถ้าหากคุณต้องการความจริงผมก็จะกล่าวความจริง

ผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ไปติดต่อขออัญเชิญ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"จริง แต่ถูกปฏิเสฐ แต่เพราะสัจจะที่ได้ไห้ไว้ต่อองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ว่าถ้าหากท่านต้องการจะสร้างศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ในภาคกลางแล้ว สิ่งที่สามารถยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ได้นั้น "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ต้องแกะสลักโดยช่างที่มีประสบการณ์ ในการแกะสลักหรือบูรณะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวองค์เดิมที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ปัตตานี

อภินิหารที่เกิดขึ้นคือ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้เป็นองค์ที่แกะสลักอยู่เดิมตั้งแต่ปี 2545 (ไม่ได้สั่งให้แกะสลักใหม่นะ) และทางผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ไปพบในปี 2548

นิมิตและอภินิหารที่ประจักษ์จนทำให้ช่างไม่อาจเก็บรักษาองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ไว้ได้ จนต้องขายให้กับ "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี) คือการที่ช่างแกะสลักตีราคาขององค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ตัวเองรักและศรัทธาเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท ทำให้ทางผู้ก่อตั้งศาลต้องคิดหนักและถอดใจ แต่ก็ได้บอกกับเจ้าแม่ว่า “ลูกมาเจอองค์ท่านแล้วแต่ไม่สามารถนำกลับไปได้ เพราะลูกไม่มีเงินที่จะมาให้ช่างตามที่ช่างตีราคาไว้

อภินิหารจึงเกิดขึ้นโดยที่ผู้ก่อตั้งศาลไม่ได้ไปเรี่ยไร หรือรับบริจาคแต่อย่างใด แต่กลับมีผู้มีจิตศรัทธา(มีตัวตนจริงๆๆคุณคงจำได้นะ)นำเงินมาบริจาคจำนวน 120,000 บาท ให้กับผู้ก่อตั้งสร้างศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี เพื่อนำไปให้ช่างแกะสลักตามที่ช่างได้ตีราคาไว้ นี้ก็แสดงให้ว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์และคุณก็ไม่อาจเก็บรักษาองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ไว้ได้ เพราะเงินทุกบาทที่คุณได้นั้นผู้ก่อตั้งสร้างศาลไม่ออกเลย นี้ก็แสดงว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ท่านไม่อยากอยู่ที่นั้นหรือเปล่า

ความลับดังกล่าวถูกปกปิดไว้เพราะผู้ก่อตั้งศาลเกรงว่าจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน “ว่าท่านทำ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"มาขาย (เพราะอะไรท่านคงทราบแก่ใจตัวเองดี)

นี่ก็คือนิมิตและอภินิหารของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี ที่ได้อ้างอิงไว้ข้างต้น
( สัจจังเวอมตะวาจา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย )คนไม่รู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมรู้ดั่งดวงตาสวรรค์
ดั่งคำจีนว่าไว้ (ทีอู่มัก) แปลว่าสวรรค์มีตา


นี่เป็นการยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ว่ายึดมั่นในความถูกต้อง และรักษาสัจจะเยี่ยงชีวิตมากที่สุด จึงพิสูจน์ได้ว่าท่านมีความประสงค์ที่จะสร้างศาลที่จังหวัดราชบุรี เพราะเงินทุก บาททุกสตางค์ ได้มาจากแรงศรัทธาของประชาชน


คนสร้างศาลจนก็จริง แต่ก็มีศิลธรรมมากพอที่จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ก็ไม่ยอมให้ใครรังแกเช่นกัน เงินนั้นมีค่าใครก็อยากได้แต่บางก็ซื้อความเป็นคนไม่ได้หรอกนะ


ที่มาถึงท่านดวงตราสวรรค์
จากการที่คุณกล่าวหาว่าทาง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(ราชบุรี) บิดเบือนประวัติการแกะสลักนั้นว่า“เกิดนิมิตและอภินิหารประจักษ์แก่ช่างผู้แกะสลัก ทำให้ไม่อาจเก็บรักษาองค์เจ้าแม่เอาไว้ได้ ต้องอัญเชิญมาสร้างศาล คนที่ดีมีสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเทวดา สิ่งสำคัญต้องมีศีล 5 เป็นอย่างน้อย” นั้น

จากข้อความนี้ผมขออธิบายถึงนิมิตและอภินิหารของ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ เพื่อเตือนใจ และเตือนความจำของท่าน ศีลธรรมของก่อตั้งศาลนั้นย่อมมีอย่างเต็มเปี่ยม ย่อมจะไม่กล่าวถ้อยคำที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (เพราะคุณเคยรับปากกับใครและที่ไหนไว้ว่าอย่างไรคงจำได้) ถ้าหากคุณต้องการความจริงผมก็จะกล่าวความจริง

ผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ไปติดต่อขออัญเชิญ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"จริง แต่ถูกปฏิเสฐ แต่เพราะสัจจะที่ได้ไห้ไว้ต่อองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ว่าถ้าหากท่านต้องการจะสร้างศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ในภาคกลางแล้ว สิ่งที่สามารถยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ได้นั้น "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ต้องแกะสลักโดยช่างที่มีประสบการณ์ ในการแกะสลักหรือบูรณะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวองค์เดิมที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ปัตตานี

อภินิหารที่เกิดขึ้นคือ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้เป็นองค์ที่แกะสลักอยู่เดิมตั้งแต่ปี 2545 (ไม่ได้สั่งให้แกะสลักใหม่นะ) และทางผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ไปพบในปี 2548

นิมิตและอภินิหารที่ประจักษ์จนทำให้ช่างไม่อาจเก็บรักษาองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ไว้ได้ จนต้องขายให้กับ "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี) คือการที่ช่างแกะสลักตีราคาขององค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ตัวเองรักและศรัทธาเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท ทำให้ทางผู้ก่อตั้งศาลต้องคิดหนักและถอดใจ แต่ก็ได้บอกกับเจ้าแม่ว่า “ลูกมาเจอองค์ท่านแล้วแต่ไม่สามารถนำกลับไปได้ เพราะลูกไม่มีเงินที่จะมาให้ช่างตามที่ช่างตีราคาไว้

อภินิหารจึงเกิดขึ้นโดยที่ผู้ก่อตั้งศาลไม่ได้ไปเรี่ยไร หรือรับบริจาคแต่อย่างใด แต่กลับมีผู้มีจิตศรัทธา(มีตัวตนจริงๆๆคุณคงจำได้นะ)นำเงินมาบริจาคจำนวน 120,000 บาท ให้กับผู้ก่อตั้งสร้างศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี เพื่อนำไปให้ช่างแกะสลักตามที่ช่างได้ตีราคาไว้ นี้ก็แสดงให้ว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์และคุณก็ไม่อาจเก็บรักษาองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ไว้ได้ เพราะเงินทุกบาทที่คุณได้นั้นผู้ก่อตั้งสร้างศาลไม่ออกเลย นี้ก็แสดงว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ท่านไม่อยากอยู่ที่นั้นหรือเปล่า

ความลับดังกล่าวถูกปกปิดไว้เพราะผู้ก่อตั้งศาลเกรงว่าจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน “ว่าท่านทำ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"มาขาย (เพราะอะไรท่านคงทราบแก่ใจตัวเองดี)

นี่ก็คือนิมิตและอภินิหารของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี ที่ได้อ้างอิงไว้ข้างต้น
( สัจจังเวอมตะวาจา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย )คนไม่รู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมรู้ดั่งดวงตาสวรรค์
ดั่งคำจีนว่าไว้ (ทีอู่มัก) แปลว่าสวรรค์มีตา


นี่เป็นการยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ว่ายึดมั่นในความถูกต้อง และรักษาสัจจะเยี่ยงชีวิตมากที่สุด จึงพิสูจน์ได้ว่าท่านมีความประสงค์ที่จะสร้างศาลที่จังหวัดราชบุรี เพราะเงินทุก บาททุกสตางค์ ได้มาจากแรงศรัทธาของประชาชน


คนสร้างศาลจนก็จริง แต่ก็มีศิลธรรมมากพอที่จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ก็ไม่ยอมให้ใครรังแกเช่นกัน เงินนั้นมีค่าใครก็อยากได้แต่บางก็ซื้อความเป็นคนไม่ได้หรอกนะ


ที่ถึงท่านดวงตราสวรรค์
จากการที่คุณกล่าวหาว่าทาง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(ราชบุรี) บิดเบือนประวัติการแกะสลักนั้นว่า“เกิดนิมิตและอภินิหารประจักษ์แก่ช่างผู้แกะสลัก ทำให้ไม่อาจเก็บรักษาองค์เจ้าแม่เอาไว้ได้ ต้องอัญเชิญมาสร้างศาล คนที่ดีมีสื่อกลางระหว่างมนุษย์กับเทพเทวดา สิ่งสำคัญต้องมีศีล 5 เป็นอย่างน้อย” นั้น

จากข้อความนี้ผมขออธิบายถึงนิมิตและอภินิหารของ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ เพื่อเตือนใจ และเตือนความจำของท่าน ศีลธรรมของก่อตั้งศาลนั้นย่อมมีอย่างเต็มเปี่ยม ย่อมจะไม่กล่าวถ้อยคำที่ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน (เพราะคุณเคยรับปากกับใครและที่ไหนไว้ว่าอย่างไรคงจำได้) ถ้าหากคุณต้องการความจริงผมก็จะกล่าวความจริง

ผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ไปติดต่อขออัญเชิญ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"จริง แต่ถูกปฏิเสฐ แต่เพราะสัจจะที่ได้ไห้ไว้ต่อองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ว่าถ้าหากท่านต้องการจะสร้างศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ในภาคกลางแล้ว สิ่งที่สามารถยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ได้นั้น "องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ต้องแกะสลักโดยช่างที่มีประสบการณ์ ในการแกะสลักหรือบูรณะเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวองค์เดิมที่ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่ปัตตานี

อภินิหารที่เกิดขึ้นคือ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้เป็นองค์ที่แกะสลักอยู่เดิมตั้งแต่ปี 2545 (ไม่ได้สั่งให้แกะสลักใหม่นะ) และทางผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ไปพบในปี 2548

นิมิตและอภินิหารที่ประจักษ์จนทำให้ช่างไม่อาจเก็บรักษาองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ไว้ได้ จนต้องขายให้กับ "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี) คือการที่ช่างแกะสลักตีราคาขององค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ตัวเองรักและศรัทธาเป็นเงินจำนวน 120,000 บาท ทำให้ทางผู้ก่อตั้งศาลต้องคิดหนักและถอดใจ แต่ก็ได้บอกกับเจ้าแม่ว่า “ลูกมาเจอองค์ท่านแล้วแต่ไม่สามารถนำกลับไปได้ เพราะลูกไม่มีเงินที่จะมาให้ช่างตามที่ช่างตีราคาไว้

อภินิหารจึงเกิดขึ้นโดยที่ผู้ก่อตั้งศาลไม่ได้ไปเรี่ยไร หรือรับบริจาคแต่อย่างใด แต่กลับมีผู้มีจิตศรัทธา(มีตัวตนจริงๆๆคุณคงจำได้นะ)นำเงินมาบริจาคจำนวน 120,000 บาท ให้กับผู้ก่อตั้งสร้างศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี เพื่อนำไปให้ช่างแกะสลักตามที่ช่างได้ตีราคาไว้ นี้ก็แสดงให้ว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์และคุณก็ไม่อาจเก็บรักษาองค์ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ไว้ได้ เพราะเงินทุกบาทที่คุณได้นั้นผู้ก่อตั้งสร้างศาลไม่ออกเลย นี้ก็แสดงว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ท่านไม่อยากอยู่ที่นั้นหรือเปล่า

ความลับดังกล่าวถูกปกปิดไว้เพราะผู้ก่อตั้งศาลเกรงว่าจะทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน “ว่าท่านทำ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"มาขาย (เพราะอะไรท่านคงทราบแก่ใจตัวเองดี)

นี่ก็คือนิมิตและอภินิหารของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี ที่ได้อ้างอิงไว้ข้างต้น
( สัจจังเวอมตะวาจา ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย )คนไม่รู้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ย่อมรู้ดั่งดวงตาสวรรค์
ดั่งคำจีนว่าไว้ (ทีอู่มัก) แปลว่าสวรรค์มีตา


นี่เป็นการยืนยันถึงความศักดิ์สิทธิ์ของ "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ว่ายึดมั่นในความถูกต้อง และรักษาสัจจะเยี่ยงชีวิตมากที่สุด จึงพิสูจน์ได้ว่าท่านมีความประสงค์ที่จะสร้างศาลที่จังหวัดราชบุรี เพราะเงินทุก บาททุกสตางค์ ได้มาจากแรงศรัทธาของประชาชน


คนสร้างศาลจนก็จริง แต่ก็มีศิลธรรมมากพอที่จะไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ก็ไม่ยอมให้ใครรังแกเช่นกัน เงินนั้นมีค่าใครก็อยากได้แต่บางก็ซื้อความเป็นคนไม่ได้หรอกนะ


ที่มาจากhttp://www.phuketvegetarian.com/borad/data/1306-1.html

แล้วอันจริงอันไหนเท็จกันแน่ครับ ระหว่างที่เขียนในข้อความข้างบน ว่า.องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ได้เข้าฝันบอกให้นำมาถวายให้ คุณอรุณลักษณ์ บุญเกษม เพื่อสร้าง"ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" สี่แยกบางแพ ถ.เพชรเกษม กม.81 ต.วังเย็น อ.บางแพ จ.ราชบุรี ไว้ให้ลูกหลานของท่านที่ไม่สามารถไปขอพร"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่(ปัตตานี)ได้ เพราะลูกหลานของท่านมีมากที่อยากจะไปขอพร"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"ที่(ปัตตานี) แต่ไม่สะดวก ซึ่งใครสามารถไปที่(ปัตตานี)ได้ก็ให้ไปที่(ปัตตานี) แต่ถ้าไม่สามารถไปได้ก็ให้มาขอพร "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ "ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" (องค์จำลอง) สี่แยกบางแพแห่งนี้ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 18.00 น. ตกลงว่าเข้าฝันให้นำมาถวายคุณอรุณลักษณื บุญเกษม หรือเช่าบูชากันแน่ครับ แล้วทำไมเขียนอย่างนั้น ครับ ไปดูได้ที่เวป http://www.phuketvegetarian.com/borad/data/1306-1.html นี้ครับ

พธีลุยน้ำของจริงครับที่ปัตตานีมีแต่โบราณ ต้องลุยข้ามแม่น้ำปัตตานีน่ะครับไปอีกฝังหนึ่ง

พระหมอหรือว่าโจวซือกงพระประธานศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานีองค์นี้ตามประวัติเล่าว่าลอยน้ำเข้ามาในแม่น้ำปัตตานี

ลุยไฟต้องได้อย่างนี้ มาดูได้ทีศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานี(ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตานี)

ภาพลุยไฟ ณ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตานีประมาณ20ปีครับ

ลุยไฟต้องได้อย่างนี้ มาดูได้ทีศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานี(ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตานี)

อธิบายให้.......เข้าใจ (ความเห็นที่ 47 -55โพสเมื่อ โดย : ชาวปัตตานี)

ดิฉันขอขอบพระคุณทุกท่าน (คนที่ใช้ชือชาวปัตตานี,คนปัตตานีครับผม,ดวงตาสวรรค์,หัวตลาด ทุกท่านที่โพสเข้ามาอ่านทุกๆคน) เป็นอย่างสูง ที่ให้ความสนใจกับ “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) แห่งเดียวในภาคกลาง ” ถึงแม้ว่าที่ศาลแห่งนี้จะเป็นเพียงศาลเจ้าเล็กเท่านั้น และที่สำคัญที่สุดก็คือทุกๆท่านให้ความสนใจต่อ “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง)” องค์นี้เป็นอย่างมาก สิ่งที่ดิฉันและคณะกรรมการของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี)ทุกท่านกระทำอยู่นี้ ไม่มีเจตนาที่จะทำให้ใครเดือดร้อน

และที่สำคัญที่สุดก็คือสัจจะที่ผู้ก่อตั้งสร้างศาลได้ให้ไว้กับ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” เพราะอภินิหารที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ ก็ยากที่จะอธิบายให้ใครเข้าใจได้ แต่ทุกท่านช่วยอธิบายได้มั๊ยว่าพร 3 ข้อที่ขอไว้สำเร็จได้อย่างไร นี้ก็แสดงให้ว่า "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์นี้ศักดิ์สิทธิ์

ที่สำคัญที่สุดดิฉันและคณะกรรมการของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี)ก็ยังนับถือและให้เกียรติ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว”และพระทุกองค์ที่ “ศาลเล่งจูเกียง” ปัตตานีมิเสื่อมคลาย

พร 3 ข้อที่ขอไว้สำเร็จ
1.ช่างที่แกะสลัก “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” องค์นี้จะต้องเคยแกะสลัก บูรณะ หรือเคยได้สัมผัสจับต้อง" องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" องค์เก่าที่ปัตตานี (ตอนที่ช่างอัญเชิญ"องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(องค์จำลอง)องค์นี้มาถวายให้ทาง" ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" (องค์จำลอง) สี่แยกบางแพ ยังได้มีการบันทึกภาพถ่ายร่วมกัน ไว้เป็นที่ระลึกด้วยนะ เพื่อแสดงไว้ให้ลูกหลานคนรุ่นหลังไว้ดูด้วย)

2. เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง)องค์นี้ต้องมีเนื้อไม้ของ"เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"องค์เดิมที่ปัตตานี บรรจุไว้ ณใต้ฐาน"องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว"(องค์จำลอง)องค์นี้ด้วย (ถ้าคุณสงสัยว่าเรามีการแอบอ้างเนื้อไม้ชิ้นนี้ สามารถพิสูจน์ได้โดยหลักการทางวิทยาศาสตร์ หรือ ธรณีวิทยา เราพร้อมให้ท่านพิสูจน์ความจริงได้นะ )

3. เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง) องค์นี้จะต้องได้เข้าร่วมพิธีลุยไฟ ในงานฉลองสมโภช "เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว" ที่ปัตตานี อย่างน้อย 2 ปี (เพราะพิธีลุยไฟนั้น นับว่าเป็นพิธีโบราณอันศักดิ์สิทธิ์และเป็นหัวใจของปัตตานี ดังนั้นผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีลุยไฟต้องได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่ของ"ศาลเล่งจูเกียง"ก่อน มิฉะนั้นอาจจะโดน...ง่ายๆ)

ส่วนของข้อความนี้ ที่คนใช้ชื่อคนปัตตานี ไฟน่ะลงจริงไม่ได้บอกว่าไม่ลง แต่ที่บอกว่าได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่ของศาลเจ้าเล่งจูเกียงน่ะ ได้รับกับใคร ใครเป็นคนอนุญาติ ถ้ามีความบริสุทธิใจน่ะทำไมไม่ขอ คณะกรรมการ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง ให้คณะกรรมการเป็นผู้อนุญาติ ก่อน อย่างนี้เรียกว่านำมาเข้าไฟโดยส่วนตัวครับ

ขอบคุณที่ช่วยยืนยันว่าเรา ได้เข้าร่วมพิธีลุยไฟที่ปัตตานีจริงและเราก็ได้รับอนุญาติจากเจ้าหน้าที่ของ"ศาลเล่งจูเกียง" ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีภาพถ่ายมายืนยันหรอกนะและเป็นใครนั้นก็ทราบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอค่ะ และเราก็ไม่ได้บอกว่าขอจาก กรรมการ “ศาลเล่งจูเกียง”นี้เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าจบได้ยัง (ความจริงคือความจริง OK มั๊ย) ฉะนั้นไม่ต้องมาถามถึงหนังสือรับรอง(ไม่จำเป็น) เพราะที่นี่คือ “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(ราชบุรี)” ที่สำคัญที่สุดก็คือ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว(องค์จำลอง)”เป็นประธานของศาลพวกเรา

เหตุผลก็มีอยู่ว่าถ้าสถานที่แห่งนี้ “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี)” ไม่ได้มี “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” เป็นประธานของศาลเรื่องทั้งหมดก็คงไม่เกิดขึ้น รวมไปถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้น “ประวัติของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ” ความจริงก็มีอยู่ในตัวเอง

พ.ศ.2548 ได้เกิดนิมิตและอภินิหารประจักษ์แก่ช่างผู้แกะสลัก “ องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ” จนทำให้ไม่อาจจะเก็บรักษาเทวรูปไว้ต่อไปได้ ทำให้ช่างผู้แกะสลักต้องอัญเชิญองค์เจ้าแม่มามอบให้เพื่อสร้าง “ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว สี่แยกบางแพ ราชบุรี ” ไว้เป็นที่สักการะสืบไป

เพราะทุกคนมีการศึกษาอ่านแล้วเข้าใจกันได้เองว่าอภินิหารในที่นี้เราหมายถึงอะไร และอะไรเป็นจริง อะไรเป็นเท็จ ก็คงเข้าใจรวมถึงการกระทำของคนที่ใช้ชื่อ (ชาวปัตตานี , คนปัตตานีครับผม , ดวงตาสวรรค์ , หัวตลาด )
ที่โพสเข้ามาว่าใครต้องการอะไร และทำเพื่ออะไร

คณะกรรมการ “ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ” ขอขอบพระคุณ “ เจ้าพิธีทั้ง 3 คน ” เป็นอย่างสูงที่ท่านได้มาช่วยทำ พิธีลุยไฟให้ที่ “ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ” และเจ้าพิธีทั้ง 3 คน ก็มาช่วยด้วยจิตใจที่ดีและรักใน “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” อย่างจริงใจ โดยไม่เคยคิดคำนึงถึงเลยว่า “องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” องค์นี้จะเป็นเพียงแค่ ( องค์จำลอง ) ก็ตาม และก็ไม่เคยได้รับค่าจ้างให้มาทำพิธีลุยไฟเลย เพราะ “ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว (ราชบุรี) ” ยังเป็นเพียงแค่ศาลเล็ก ๆและไม่ได้มีเงินมากมาย มีก็แต่ความตั้งใจที่จะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดและที่สำคัญก็คือพวกเรารัก “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ด้วยใจที่บริสุทธิ์

และที่สำคัญที่สุดก็คือ “ สัจจะที่เราได้ให้ไว้กับ “ องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ” เพราะในเมื่อพร 3 ข้อที่เราขอ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” สำเร็จ เราก็ต้องรักษา “ สัจจะ ” ทำทุกอย่างให้สำเร็จไม่ว่าเราจะเจอปัญหา – เจอมารคอยขัดขว้าง – เหนื่อยแค่ไหน เราก็จะอดทนและสู้ไม่มีวันถอย ” (สู้เพื่อ “เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว” ของเรา )

เพราะคนเราเกิดมาก็ตาย แต่เมื่อตายแล้วเราจะเลือกเหลืออะไรไว้ให้คนรุ่นหลังคิดถึงเรา ระหว่างความดีและความเลว ชิวิตคนเราก็มีแค่นี้

องค์จำลองของจังหวัดราชบุรี ไม่ได้พิธีกรรม เบิกเนตร ณ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง จังหวัดปัตตานี ในปีพ.ศ.2545 พร้อมกับองค์ดั้งเดิมที่ประดิษฐาน ณ ศางเจ้าเล่งจูเกียง ปัตตานี

ผมมีรูปมาฝากครับ

ผมไม่เข้าใจ

ถึงข้อความ ความเห็นที่ 58 โพสเมื่อ : 5 มี.ค. 52 : 15:27 น. โดย : หัวตลาด
เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า เราไม่ได้ขอพร(เรื่องการเบิกเนตร)นะ
ขอบคุณค๊าบ...........

ตามที่กระกู้ที่56 โดยท่าน เด็กศาลเจ้า
ที่โพสเข้ามาว่าใครต้องการอะไร และทำเพื่ออะไร ผมไม่ต้องการอะไรเพราะว่าผมก็นับถื่อองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวอยู่แล้ว และไม่มีอะไรแอบแฝงที่ทำไปก็เพียงแต่ต้องการให้ข้อมูลกับคนที่นับถื่อองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทั่วประเทศได้รับรู้ ความจริง เท่านัน โดยนำข้อมูลที่ถูกต้อง มาให้กับผู้ที่สนใจเกียวกับเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว ได้รับรู้ข้อมูลที่จริง ไม่มีปกปิด ทุกอย่างเป็นไปอย่างเปิดเผย และบริสุทธิใจ อีกอย่างหนึ่ง ผมไม่เข้าใจว่า ทางศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ราชบุรี ให้บุคคลทั้ง3 ไปทำพิธีกรรม ณ ศาลเจ้าแม่ราชบุรี ท่านได้บอกกล่าวกับทางคณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง(ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอหนียว) แล้วหรื่อยัง (แต่ที่ผมรู้ว่าไม่น่ะ)ท่านลองคิดดูสิ ว่าท่านทำถูกหรื่อไม่ในการที่ให้บุคคลในศาลเจ้าเล่งจูเกียงเข้าไปทำพิธีโดยไม่ได้บอกกล่าวกับต้นสังกัดของเขา (ไม่ต่างกับแอบเอาของผู้อื่นโดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าของ)ลองคิดดูให้ดีน่ะครับ ว่าถูกต้องหรื่อป่าว ทั่งๆที่ศาลเจ้าเล่งจู่เกียง ก็ให้เงินเดื่อนและมิสิทธิ เบิกค่ารักษาพยาบาล ค่าเล่าเรียนบุตร ได้กับบุคคลในภาพทั้ง3ท่านบอกว่าท่านนับถื่อองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว แต่การกระทำของท่าน มันไม่ใช่ ท่านไม่เคยให้เกียต์กับทางศาลเจ้าเล่งจุเกียงปัตตานีและประชาชนในจังหวัดปัตตานีที่นับถื่อเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว เลย ในการที่ท่านนำคนของศาลเจ้าเล่งจุเกียงไปทำพิธี ณ จังหวัดราชบุรี โดยไม่ได้บอกกล่าวต่อกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง ให้รับรู้เลย จนพี่ภาพปรากฎเกิดขึ่น ทางศาลเจ้าเล่งจูเกียงถึ่งได้รับรู้ และได้เรียกไปพบ และให้บุคคลในภาพ ลาออกไป อีกอย่างหนึ่งท่ท่านบอกว่าไปทำโดยไม่เคยได้รับค่าจ้างให้มาทำพิธีลุยไฟเลย นั่น ท่านมั้นใจว่าไม่มีจริง แต่ทีรู้มาว่ามีการให้เงิน ผมใคร่อยากให้ท่านนำเสนอในข้อมูลที่ถูกต้อง และอยากให้ท่านเคารพต่อศาลเจ้าเล่งจูเกียง(ในกรณีที่ท่านนำคนของศาลเจ้าเล่งจูเกียงไปโดยไม่ได้แจงให้ทางกรรมการทราบ) ซึ่งศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานี เป็นที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่มานานนับ100ปี อันเป็นที่นับถื่อของสักระของคนไทยทั้วประเทศและชาวต่างประเทศ ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลที่ไปทำพิธีกรรมที่จังหวัดราชบุรี ว่าทางศาลเจ้าเล่งจูเกียง รู้เห็นเป็นใจหรื่อไม่ในการกระทำของบุคคลทั้ง3ได้ที่หมายเลยโทรศัพท์0 7333 2851 ขอบคุณครับ

ภาพพิธีเบิกเนตรองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวในปีพ.ศ2545ณศาลเจ้าเล่งจูเกียง

ภาพพิธีเบิกเนตรองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวในปีพ.ศ2545ณศาลเจ้าเล่งจูเกียงจังหวัดปัตตานี

ภาพองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทั้งสององค์ในวันทำพิธีเบิกเนตรณศาลเจ้าเล่งจูเกียงจังหวัดปัตตานี โดยทั้งสององค์ก็ยังอยู่ณศาลเจ้าเล่งจู่เกียงปัตตานี

ภาพประ


ภาพประธานศาลเจ้าเล่งจู่เกียง

พระหมอ(โจวซือกง)พระประธานในศาลเจ้าเล่งจูเกียงในวันทำพิธีเบิกเนตร

ภาพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวองค์เดิมในวันพิธีเบิกเนตร ณศาลเจ้าเล่งจูเกียง จังหวัดปัตตานีในปีพ.ศ.2545

ภาพองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวองค์จำลองซึ่งแกะสลักในปีพ.ศ.2545 เข้าทำพิธีเบิกเนตรพร้อมกับองค์เก่า ซึ่งทั้ง2องค์ยังอยู่ที่ปัตตานีณศาลเจ้าเล่งจูเกียง(ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดปัตตานี)ถ้าคนที่สังเกตุดีดีจะรู้ว่าองค์ไหนเป็นองค์เก่าองค์ไหนเป็นองค์ที่แกะสลักมาใหม่

ภาพเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวทั้งสององค์ที่อยู่ในศาลเจ้าเล่งจูเกียงหลังจากทำพิธีเบิกเนตรณศาลเจ้าเล่งจุเกียง ปัตตานี

ภาพเจ้าแม่องค์ลิ้มกอเหนียวองค์เล็ก(น้องเจ้าแม่)

ประกาศเรื่องสำคัญ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ปัตตานี

คณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง ขอเรียนประกาศให้ทราบทั่วกันว่า องค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว องค์แท้จริงของปัตตานี ไม่เคยอัญเชิญไปแห่แหนหรือประทับในสถานที่อื่นใดนอกพื้นที่จังหวัดปัตตานีเลย เพราะปัจจุบันจะมีผู้นำไปแอบอ้างชื่อและแสวงหาผลประโยชน์มากขึ้น โดยเฉพาะที่อ้างว่ามาประทับที่ สมาคมหรือมูลนิธิแห่งใดแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ ทุกๆปี นำไปทำยันต์ ทำน้ำมนต์ และพิธีกรรมแปลกๆ หลอกลวง เรี่ยไรเงินให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นองค์แท้จริง

หรืออ้างว่า คณะกรรมการศาลเจ้าเล่งจูเกียง ที่ปัตตานี อนุญาตให้จำลององค์เจ้าแม่ไปไว้ที่จังหวัดนครปฐม หรือที่ อำเภอบ้านแพ จังหวัดราชบุรี หรือจังหวัดชุมพร หรือที่ต่างๆ แล้วสร้างประเพณีแปลกๆ ขึ้น เช่น การเข้าทรง สะเดาะเคราะห์ ทำนายโชคชะตา ประเพณีการลอดเกี้ยวหรือลอดโต๊ะและรับเงินอั่งเปา หรือรับค่าตอบแทนต่างๆ เอาวัตถุมงคลของศาลเจ้าฯ ไปจำหน่ายในราคาสูงมาก และพยายามลอกเลียนแบบประเพณีต่างๆ ของศาลเจ้าฯ ขึ้นนั้น

ขอเรียนว่า ศาลเจ้าเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ปัตตานี เราไม่มีร่างทรงองค์เจ้าแม่ฯทั้งสิ้น ไม่มีประเพณีต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นทั้งสิ้น ศาลเจ้าฯ ไม่เคยกระทำ ไม่เคยอนุญาต ให้ผู้ใดไปตั้งสาขา ไม่รู้เห็น และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น และ ขอเรียนว่าการแอบอ้างตั้งศาลเจ้าเถื่อนขึ้น และทำอุบายต่างๆ เพื่อขอเรี่ยไร หรือรับเงิน เป็นการหลอกลวงประชาชนและแสวงหาประโยชน์ส่วนตนทั้งสิ้น

“ ผู้ใดศรัทธานับถือ ความศักดิ์สิทธิจะเกิดกับบุคคลผู้นั้นเอง “ ป้ายภาษาจีนเขียนติดประกาศไว้ที่หน้าศาลเล่งจูเกียง (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ที่จังหวัดปัตตานี มานานนับร้อยปีมาแล้ว ดังนั้นถ้าท่านศรัทธา ความศักดิ์สิทธิก็เกิดกับท่านได้

การเปิด Web ของศาลเจ้าเล่งจูเกียงขึ้นครั้งนี้ เพื่อได้มีโอกาสเรียนชี้แจงให้ประชาชนทั่วไปได้ทราบและเข้าใจ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง และเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ดีขึ้น ไม่ใช่เป็นการโฆษณาชวนเชื่อให้ไปทำบุญแต่อย่างใด การจัดงานพิธีสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและงานต่างๆ ล้วนเป็นประเพณีโบราณที่ชาวปัตตานีเคารพนับถือ ปฏิบัติสืบทอดมาหลายชั่วอายุคนเป็นเวลาร้อยกว่าปีแล้ว

จึงขอเรียนชี้แจงมาเพื่อทราบ

นายประยูรเดช คณานุรักษ์
ผู้จัดการปกครองศาลเจ้าเล่งจูเกียง
รองประธาน มูลนิธิเทพปูชนียสถาน (เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว) ปัตตานี



ให้เข้าไปดูได้ทีเวปของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดปัตตานีครับตามนี้เลย
http://www.limkoneaw.com/index.php?c_id=0&ct_id=22496&type=customize
หรือhttp://www.limkoneaw.com/
วันหลังจะเอาเรื่องฮู้หรือผ้ายันต์ของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว จังหวัดปัตตานีมาเล่าให้ฟังถึ่งที่มาที่ไปน่ะครับ เพราะว่ามีคนนำฮู้ของศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดปัตตานีมาจำหน่าย โดยที่ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวไม่ได้รู้เห็นเป็นใจด้วยเลยหวังว่าคงรู้ตัวน่ะครับ

ภาพฮู่หรื่อผ้ายันต์ ของศาลเจ้าเล่งจูเกี่ยงปัตตานี หรือ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตานี
ความเป็นมาเริมต้นโดยจะประกอบพิธีก่อนวันอัญเชิญพระออกจากศาลเจ้า2วัน(คื่อวันที่ ๑๓ เดือน ๑ จีน )พร้อมกับทำน้ำมนต์ ต่อหน้าองค์พระหมอซึ่งเป็นพระประธานประจำศาลเจ้าเล่งจูเกียงปัตตานีพร้อมกับเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวเจ้าแม่ทับทิมตลอดองค์พระต่างต่างภายในศาลเจ้า โดยจะมีพิธีการทอดเบี่ยถามองค์พระ ถึ่งฤกษ์ที่จะทำพิธีทำฮู่หรื่อยันต์ซึ่งประกอบด้วยผ้าแดงยาวประมาณ ๑๕ นิ้ว ต่อจากก็นั้นก็จะนำฮู่มาพับให้เป็นก้อนห่อด้วยผ้าแดงซึ่งข้างในจะฮู่อยู่3ใบประกอบด้วยพระหมอ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนีว เจ้าแม่ทับทิม ซึ่งในแต่ละปีจำทำประมาณ 2552 ทำตามปีพ.ศ.แต่บ้างปีก็ไม่ถึ่ง เพราะทำไม่ทันฤาษ์ยามที่กำหนดไว้ ซึ่งต้องทำที่ฤาษยามกำหนดไว้แต่ส่วนใหญ่จะทำไม่เกินจากนี้ก็คือประมาณพ.ศ.แต่ละปีที่ทำ เมื่อทำเสร็จก็จะนำไว้ในศาลเจ้าเล่งจู่เกียงบนหิ่งเทวดาซึ่งอยุ่บริเวณบนประตูศาลภายในศาลเจ้าเล่งจูเกียงจนถึ่งก่อนหนึ่งวันที่จะมีพิธีอัญเชิญเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวตลอดองค์พระต่างต่างแหออกจากศาลเจ้า เพี่อให้ลูก หลาน ได้สักระบูชารอบเมื่อง ปัตตานี ก็นำมาแจกให้กับศิษย์ยานุศิษย์ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว ที่จะทำพิธี แหพระ ลุยน้ำ ลุยไฟ นำมาผูกที่ข้อมือ เพื่อเสริมศิริมงคลให้กับตัวเอง โดยฮุ่ทั้ง2552 จะนำไปแจกให้ศิษย์ยานุศิษยเจ้าแม่ ที่เข้าร่วมพิธี โดยจะนำไปให้แก่องค์พระที่ร่วมพิธีทั้งหมด19องค์โดยมอบฮู่ให้องค์ล่ะ 100 ซึ่งทั้ง19องค์ก็จะแจกจ่ายให้ศิษย์ยานุศิษย์ร่วมทั้งสิ้น1900ชิ้น นอกจากนั้นก็นำมาแจกให้ยัง คณะสิงโต และมังกรศิษย์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนีย400ชิ้น นอกนั้นแจกกรรมการ17คน คนละ20 ชิ้น แล้วมอบให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาถวายงิ้วและมโนราห์ตลอดจนตำรวจ ทหาร ที่เข้ามาดูแลความไม่สงบในงานพิธี ในแต่ละปีจะมีศิษย์ยานุศษย์แม่ลิ้มกอเหนียวเข้าร่วมพิธิแหพระลุยไฟจำนาวนมาก โดยประมาณว่า3000-4000 คำนวนโดยการที่ทางผุ้มีจิตศัรทธาบริจาก เสื่อ ในการประกอบพิธี แหพระ ให้กับทางศาลเจ้าเพื่อมอบให้กับศิษย์ยานุศิษย์ ซึ่งจะเห็นได้ว่าในแต่ละปียอดของการทำ ฮู่ ก็ไม่เพียงพอกับศิษย์ยานุศิษย์อยู่แล้ว อีกอย่างผู้ที่จะเข้าทำพิธีลุยในแต่และปีก็จะมีคนที่สามารถลุยไฟได้ไม่ถึ่ง1000คน

ดูกันให้ชัดชัดครับฮู่ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตาน


จะเห็นได้ว่ามีตัวอักษรเขียนว่า ลิ้ม เป็นตัวอักษรภาษาจีนประทับตราบนผ้าแดง จะแจกให้ศิษย์ยานุศิษย์เจ้าแม่ในงานพิธีแห่พระสมโภชเจ้าแม่ลิ่มกอเหนี่ยวทุกปี ไม่เคยนำมาจำหน่าย ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ในประเทศ หรือทั่วโลก ไม่เหมื่อนทางศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวจังหวัดราชบุรี นำไปจำหน่ายในราคา200บาท ไม่รู้เหมื่อนกันว่านำไปได้อย่างไร เพราะว่าในการทำแต่ละปีก็ไม่พอให้กับศิษย์ยานุศิษย์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียวปัตตานี ที่จะประกอบพิธีหามพระลุยน้ำลุยไฟอยู่แล้ว

นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และนายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์ ร่วมพิธี เพื่อนมัสการเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ณ วันเชงเม้ง เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว โดยมีเรือกนกพงศ์ และร้านซินเกี้ยนหิ้น เป็นเจ้าภาพ ณ สุสานเจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว จังหวัดปัตตานี

เจ้าแม่ลิ้มกอเหนียว ณสุสาน จังหวัดปัตตานี

เจ้าแม่บากบั่นมาจากเมืองจีน เพื่อมาตามหาพี่ชายด้วยความกตัญญูในคุณของมารดา มาปัจจุบัน เหตุการณ์บ้านเมือง ถึงแม้นจะน่ากลัว(ในสายตาของคนต่างถิ่น) แต่ถ้าคนเรามีจิตศรัทธา ที่จะมากราบไหว้พระที่ศาลเจ้าปัตตานี ก็คงไมเกินความสามารถที่จะทำ ส่วนใครจะแอบอ้างว่า จัดตั้งศาลเพื่อความสะดวก ในการมากราบไหว้ ข้าพเจ้าไม่สนใจ เพราะมองยังไง ก็ทำไปในเชิงแอบแผง ท่านผู้อ่านคิดเอาล่ะกัน ขนาดเจ้าแม่เป็นผู้หญิง ยังหาญกล้า ฝ่าฟันอุปสรรค์ จากเมืองจีน มาจนถึง ท่าเรือปัตตานี ท่านยังมาได้ เพราะต้อการมาพบพี่ชาย แล้วท่านคิดว่า มีหรอ? ที่เจ้าแม่จะบอกว่า ให้สร้างศาลเพื่อความสะดวกในการมากราบไหว้ ฝากไว้เพียงเท่านี้

อย่าใจแคบเลยครับ เราต่างก็นับถือ องค์เจ้าแม่ฯ กันทุกคน ที่ไหน ๆ ก็เหมือนกันครับ
ศรัทธาเป็นใหญ่ ผมคนแซ่ลิ้มลูกหลานเจ้าแม่โดยตรงยังไม่หวงเลยครับ
อยากให้บารมีของเจ้าแม่แผ่ไพศาลไปทั่ว เพื่อปกปักรักษาประชาชนทุกคนให้มีความสุขกันทั่วหน้า
อย่าให้ผมพูดอะไรที่มันบ่งชึ้ถึงความใจแคบของคนเลยครับ แล้วจะเจ็บนะครับโดยเฉพาะคนที่เห็นแก่ตัวทั้งหลาย เทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาคงไม่ชอบนักล่ะครับกับพวกเห็นแก่ตัวอ่านะ

ของแท้ดังเดิมไม่ว่าจะทำพิธีอะไรก็มักแฝงไปด้วยข้อคิดและคติไว้สั่งสอนลูกหลานแต่ข้อที่แอบอ้างมักแอบแฝงไปด้วยผลประโยชน์ ทำไปก็แค่ลอกเลียนแบบมาไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงว่าคนโบราณทำเพื่ออะไร แต่ของถิ่นแท้ดังเดิมลูกหลานเค้ารู้ว่าเค้าทำเพื่ออะไร ทำไมเค้าจะต้องทำ เพื่อให้ยังคงดำเนินต่อไปให้คนรุ่นหลัง ไม่ช่ายอยู่ดีๆๆก็อ้างแต่เรามันคนนับถือเจ้าแม่เหมือนกัน ก็คุณไม่ได้ซึมซับมาจากสายเลือดนิคุณเลยไม่มีความรุ้สึกห่วงแหนแบบนั้น ถ้าสังเกตุดูคนที่นับถิอแท้จริงเค้ายังต้องลำบากเดินทางไปปัตตานีเลยเพื่อให้พบกับที่เค้าเรียกกันว่าของจริง

ที่ไหนก็นับถือ ราชบุรีก็มีศาลใหม่ของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวแล้ว ยังไงคนก็ศรัทธาน่าจะเป็นเรื่องดี จะอยู่ที่ไหน ก็นับถือกันไปศรัทธากันไป จะเต้นทำไมให้ดูเป็นเรื่องตลกปัญญาอ่อน

อีกที่นครสวรรค์ก็มีศาลเล็กๆ นำองค์เจ้าแม่ฯ ขนาด ๙นิ้วไปตั้งเป็นองค์ประธานเขาก็ทำพิธีของเขาคนเป็นหมื่นๆ ทั้งที่เปิดตัวไม่ถึงสามปี ที่ไหนๆเขานับถือล้วนเป็นเรื่องดี ที่ไหนจะดั้งเดิมอย่างไร ขึ้นอยู่กับคนแวดล้อม พระท่านไม่ได้รับรู้ด้วย

ศรัทธาและนับถือเป็นเรื่องดีครับ...ไม่มีใครว่าหรอกครับ แต่การแอบอ้าง(มักมีอะไรแอบแฝง)ทำไมถึงต้องแอบอ้าง แอบอ้างทำไม ...แล้วทำไมถึงต้องทำพิธีกรรมแปลกๆ พิธีกรรมที่มีมานมนานนับร้อยปีที่ปัตตานีถูกดัดแปลงแล้วแต่ความพอใจของใครบ้างคนหรอครับ มันเจ็บปวดสำหรับคนปัตตานีครับ ในฐานะผมคนปัตตานีและแซ่ลิ้ม ผมเจ็บปวดครับ

บ้าๆเพ

นมัสการครับ แม่