9 สถานที่เที่ยวไทยเดือนตุลา 2018

9 สถานที่เที่ยวไทยเดือนตุลา 2018

     เดือนตุลาฝนกตกหน่อยๆ อากาศเย็นๆ นิดๆ หากท่านมีโปรแกรมที่จะไปเที่ยว แต่...ยังไม่รู้จะไปที่ไหน วันนี้เราจะมาแนะนำ 9 สถานที่ท่องเที่ยวสุดคูลกับช่วงบรรยากาศ "ปลายฝนต้นหนาว" แบบนี้กันดีกว่านะครับ
      อากาศชุ่มฉ่ำบรรยากาศดีๆ แบบนี้จะอยู่บ้านเฉยๆ ได้ยังไง ถ้าพร้อมแล้วก็อย่าเสียเวลาและมาเตรียมเก็บกระเป๋าออกเดินทางกันเลย เรามาเริ่มรู้จักกับสถานที่แรกกันเลยดีกว่า .....

1.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

     ชมวิว ทะเลหมอกผสมผสานตัดกับทิวทัศน์ภูเขาเขียวขจี ยิ่งในช่วงเดือนกันยา-ตุลาคม จะยิ่งได้สัมผัสบรรยากาศปลายฝนต้นหนาวที่สวยงามอีกทั้งยังได้ชมทุ่งกังหันลมและทุ่งดอกไม้นานาชนิด ท่ามกลางทะเลหมอกและลิ้มรสสตอเบอรี่สดๆจากไร่ แถมยังมีคำกล่าวที่่ว่า "นอนเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี" จะจริงหรือไม่ ต้องลองมาพิสูจน์กันด้วยตัวเองแล้ว

2.บ้านป่าบงเบียง จ.เชียงใหม่

     ด้วยบรรยากาศแบบปลายฝนต้นหนาวสำหรับผู้ที่ชอบมองดูธรรมชาติซึมซับบรรยากาศแบบชิลๆ สบายๆ เมื่อมาที่นี่จะได้พบกับทุ่งนาเขียวขจีสลับกับแนวเทือกเขาที่เรียงซ้อนกันเกิดเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม ยิ่งถ้าได้มาช่วงปลายเดือน ก.ย. ย่างเข้าเดือน ต.ค. จะได้พบกับทุ่งข้าวที่เขียวขจีเต็มท้องนาสลับเป็นขั้นบันไดให้เห็นกันในแบบมุมพาโนรามากันเลยทีเดียว
     แต่ถ้าหากอยากได้วิวธรรมชาติสีทองของรวงข้าวก็จะต้องมาในช่วงปลายเดือน ต.ค. แสงสะท้อนจากดวงอาทิตย์สาดส่องลงมสะท้อนกับรวงข้าว เป็นภาพวิวที่ไม่ควรพลาดจริงๆ

3.อ่างกาหลวง จ.เชียงใหม่

     อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติและซึมซับบรรยากาศป่าที่อุดมสมบูรณ์ ด้วยผืนป่าดึกดำบรรที่ปกคลุมไปด้วยมอสและพันธ์ไม้ป่าหายากนาๆชนิด จึงทำให้ป่าแห่งนี้เป็นที่ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก ปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ถ้าได้ลองเดินป่าที่เงียบสงบ เย็น มีหมอกลงบางๆ ให้บรรยากาศผืนป่าแบบสุดๆ
     ถึงแม้ที่นี่จะมีระยะทางศึกษาธรรมชาติที่ไม่กว้างนักแต่ก็ทำให้ได้รู้สึกถึงธรรมชาติได้อย่างเต็มเปี่ยม เป็นเส้นทางราบเดินง่าย ไม่ซับซ้อน ไม่อันตราย และมีป้ายบอกทางอยู่ พร้อมรูปภาพบอกรายละเอียดของพันธ์ไม้ต่างๆ หากได้มีโอกาศไปเที่ยวในช่วงเดือนตุลานี้ก็อยากจะแนะนำ อ่างกาหลวงไว้ให้ท่านได้พิจารณา

4.วัดพระธาตุหริภุญชัย จ.ลำพูน

     ชมความสวยงามแบบไทยล้านนา ถ้ายิ่งไปในช่วงนี้จะได้สัมผัสบรรยากาศที่ไม่ร้อน เย็นสบายเหมาะกับการเดินชมสิ่งปลูกสร้างโบราณสถานแบบล้านนา สักการะบูชาสิ่งศักสิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาเนิ่นนาน หากใครที่เกิดปีไก่จะรู้ว่าพระธาตุหริภุญชัยยังเป็น พระธาตุที่สักการะบูชาประจำปีไก่ เชื่อกันว่าหากผู่ที่เกิดปีไก่นี้มากราบไหว้สักการะบูชาจะทำให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง และภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น ซุ้มประตูโขง หอไตร หอระฆัง เป็นต้น นอกจากนี้ยังมี พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติหริภุญไชย ที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดให้ไปศึกษาประวัติศาสตร์กันอีกด้วย

5.ภูสอยดาว จ.อุตรดิตถ์

     สัมผัสไอหมอกหน้าฝนและชมวิวธรรมชาติท่ามกลาง ทุ่งดอกหงอนนาค และดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดมากมายที่ จะบานเต็มทุ่งตั้งแต่เดือน ส.ค. - ต.ค. ของทุกปี และยังมีลานทุ่งดอกไม้ในป่าทุ่งสน ซึ่งมีเนื้อที่อยู่ประมาณ 1000 กว่าไร่ มีน้ำตกที่ให้ความชุ่มชื้นและมอสส์ที่ขึ้นอยู่ตามโขดหินเรียงรายกันอย่างสวยงามให้บรรกาศแบบป่าสุดๆ เดินชมป่ากันต่อไปเรื่อยๆ ได้มีจุดแวะถ่ายรูปกับจุดแบ่ง หลักเขตแดน ไทย-ลาว ที่มีการแบ่งเขตกันขึ้นหลังสมัยสงครามร่มเกล้า ผู้ที่ชอบผืนป่าและธรรมชาติจะต้องมาที่นี่ให้ได้สักครั้ง

6.สะพานมอญ สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 

     ถ้าพูดถึงสังขละบุรีแม้จะเป็นเมืองเล็กแต่มีวัฒนธรรมที่ดีงามมากมาย ถ้ามาถึงที่สพานมอญก็ต้อง ตื่นแต่เช้ามาตักบาตร ซึมซับบรรยากาศความเป็นอยู่ของชาวสังขละบุรีและเดินชมทิวทัศน์โดยรอบของสะพานมอญในยามเช้า เริ่มสายหน่อยก็ นั่งเรือชมสถานที่โบราณสถานต่างๆ ที่ทั้งสวยงามและมีประวัติยาวนานมากมาย เช่น ไปสัการะหุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่ออุตตมะ และชมเจดีพุทธคยา ตกเย็นวิวของสะพานมอญก็ยังดูสวยไป อีกแบบ
     หลังจากเดินชมสะพานมอญเสร็จสิ้น ท้องเริ่มหิวก็มาเดินเล่นหาอะไรกินกันได้ที่ ตลาดนัดสังขละบุรี มีการแสดงพื้นบ้านต่างๆ ให้ชมกันอีกด้วย

7.เขายายเที่ยง จ.โคราช

     ปั่นจักรยานชมกังหันลมชิลๆ ยิ่งไปช่วงปลายฝนต้นหนาวจะพบกับหมอกที่ลงมาปกคลุมอยู่กับกังหันลมยักษ์ เป็นวิวที่สวยงามที่หาดูได้เฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาวเท่านั้น เขายายเที่ยงเป็นจุดชมวิวและอ่างเก็บน้ำที่มี กังหันลมขนาดใหญ่ ไว้ใช้ผลิตพลังงานกระแสไฟฟ้าให้กับประเทศ เราจะได้ปั่นจักรยานชมวิวได้อย่างใกล้ชิด แบบ Full HD นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูป หลวงพ่อเจ็ดกษัติย์ ให้เราได้ไหว้สักการะ มีความเชื่อกันว่าท่านเป็นผู้ที่บรรดาลให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล

8.หมู่บ้าน คีรีวง จ.นครศรีธรรมราช

     สถานที่ท่องเที่ยวสุดชิล เงียบสงบเหมาะสำหรับใครที่ชอบความเป็นส่วนตัว พักผ่อนเรื่อยๆ สบายๆ กับวิวธรรมชาติติดแม่น้ำลำธาร นอกจากจะได้รับบรรยากาศที่เงียบสงบแล้วยังได้ใช้ชีวิตแบบ วิถีชาวบ้านของชาวคีรีวง ทั้งอาหารการกินและการอยู่อาศัย แม่น้ำลำธารที่ใสและเย็นสบายนั้นก็สามารถลงไปเล่นได้อีกด้วย
     นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมที่ทางหมู่บ้านจัดขึ้นมาอีกมากมาย เช่น การนำทางเดินชมป่าไม้อนุรักษณ์และยังมีการจัดทำสินค้าพื้นเมือง OTOP ให้เราได้ชม รวมถึงผลไม้ต่างๆ ตามฤดูกาลก็มีให้เราได้ลิ้มรสกันอีกด้วย

9.เกาะนางยวน จ.สุราษฏร์ธานี

     พูดถึงทะเลสวยๆ ก็ต้องนึกถึงทะเลที่สุราษฎร์ ตุลานี้ เกาะนางยวนสุราษฎร์ธานีก็สวยไม่แพ้มัลดีฟเลยแหล่ะ ทะเลแหวก น้ำใสมองเห็นปลาชัดเจน ชมธรรมชาติทางทะเลได้ทั้งวันด้วยบรรยากาศที่ไม่ร้อนมาก และด้วยสันทรายสีขาวตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม ที่เชื่อมเกาะทั้ง 3 เกาะ เข้าด้วยกัน ซึ่งสามารถเดินเชื่อมไปในแต่ละเกาะได้เลย เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การดำน้ำ ดูปะการัง ชมวิว เป็นอย่างมาก และจุดขายของที่นี่คือเราสามารถดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก ได้ในหาดเดียวกัน